สรุปภาวะการค้าระหว่างไทย-สหรัฐระหว่างเดือน ม.ค.- ส.ค. 2547

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 7, 2004 16:59 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดนำเข้าสำคัญอันดับ 1 ของโลก ในช่วงม.ค.-ก.ค.47 มีมูลค่าการนำเข้า รวม 819,014,053 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.712. แหล่งผลิตสำคัญที่สหรัฐอเมริกานำเข้าในปี 2547 (ม.ค.-ก.ค.) ได้แก่ - แคนาดา ร้อยละ 17.80 มูลค่า 145,747.703 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.30 - จีน ร้อยละ 12.63 มูลค่า 103,407.970 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.07 - เม็กซิโก ร้อยละ 10.75 มูลค่า 88,029.451 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.76 - ญี่ปุ่น ร้อยละ 9.08 มูลค่า 74,338.452 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.86 ส่วนการนำเข้าจากไทยอยู่อันดับที่ 16 สัดส่วนร้อยละ 1.17 มูลค่า 9,607.734 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.943. อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา บริษัทในตลาดวอลล์ สตรีทที่ร่วมการสำรวจของสมาคมพันธบัตรของประเทศสหรัฐอเมริกาคาดว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปี 2547 จะขยายตัวในอัตรา 4.7% เพิ่มขึ้นจากปี 2546 3.1% และคาดว่าในปี 2548 จะลดลงมาอยู่ที่ 3.9%4. สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทย โดยมีสัดส่วนการส่งออกไปตลาดนี้ (ม.ค.-ส.ค 2547) ร้อยละ 15.81 มีมูลค่า 9,917.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.48 5. การค้าระหว่างประเทศไทย-สหรัฐสหรัฐฯมูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ 2545 2546 2546 2547 อัตราการขยายตัว (ร้อยละ) 2545 2546 2547 (ม.ค.- ส.ค.) (ม.ค.- ส.ค.) (ม.ค.- ส.ค.) มูลค่าการค้า 19,656.45 20,688.79 13,101.51 14,701.62 -3.45 5.25 12.21 สินค้าออก 13,509.42 13,596.19 8,740.02 9,917.99 2.35 0.64 13.48 สินค้าเข้า 6,147.03 7,092.60 4,361.49 4,783.63 -14.14 15.38 9.68 ดุลการค้า 7,362.39 6,503.59 4,378.53 5,134.37 21.89 -11.66 17.26 6. สินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐอเมริกา (ม.ค.-ส.ค. 2547) 25 อันดับแรกมีสัดส่วนรวมกันร้อยละ 76.99 ของมูลค่าการส่งออกโดยรวมไปตลาดนี้ สินค้าสำคัญที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ ร้อยละ 100 มี 1 รายการ สินค้าสำคัญที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 70 มี 3 รายการ และสินค้าที่มีมูลค่าลดลงเกินกว่าร้อยละ 10 มี 2 รายการ7. สถิติการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐที่มีมูลค่าการเปลี่ยนแปลงสูง มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาด มูลค่าการ %เปลี่ยนแปลง สัดส่วนร้อยละ 2547 อันดับที่ ม.ค.-ส.ค.46 ม.ค.-ส.ค.47 เปลี่ยนแปลง ม.ค.-ส.ค. ม.ค.-ส.ค. ม.ค.-ส.ค. 1. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงมากกว่าร้อยละ 100 มี 1 รายการ (1) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูป 25 38.19 102.60 64.41 168.67 0.59 1.032. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงมากกว่าร้อยละ 70 มี 3 รายการ (1) วงจรพิมพ์ 10 129.88 222.65 92.77 71.43 2.00 2.24 (2)เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ 12 117.13 216.33 99.20 84.70 1.81 2.18 (3)แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแส ไฟฟ้า 17 104.02 181.08 77.06 74.08 1.60 1.833. สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าร้อยละ 15 มี 2 รายการ (1) กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง 14 284.99 202.45 -82.54 -28.96 4.40 2.04 (2)หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 22 138.73 113.60 -25.13 -18.12 2.14 1.15รวบรวมโดย : ศูนย์สารสนเทศการค้าระหว่างประเทศจากสถิติการส่งออกดังกล่าวมีข้อสังเกต ดังนี้ -เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูป (HS.8407/ 8409) Printed Circuits -(HS.8407) PISTON ENGINS, INT COM ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 8 ของโลก รองจาก สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 5 มูลค่า 48.795 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 0.90 เพิ่มขึ้นร้อยละ 157.89 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 5,395.573 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.30 นำเข้าจาก ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค.2547) -(HS.8409) PART ENGNS ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 19 ของโลก รองจาก เยอรมนี ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 21 มูลค่า 10.280 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 0.28 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.40 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 3,655.465 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.40 นำเข้าจาก ญี่ปุ่น เม็กซิโก แคนาดา เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค.2547) -วงจรพิมพ์ (HS.8534) Printed Circuits ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 6 ของโลก รองจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง สหรัฐฯ สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 9 มูลค่า 32.826 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 2.61 เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.34 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 1,256.293 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.99 นำเข้าจาก ไต้หวัน แคนนาดา และจีน เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค.2547) -เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ (HS. 8529) TV/ RADR APP PTC ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 14 ของโลก รองจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐฯ สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 10 มูลค่า 94.321 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 2.72 เพิ่มขึ้นร้อยละ 207.74 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 2,947.282 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.64 นำเข้าจาก เม็กซิโก จีน ญี่ปุ่น เป็นหลัก (ม.ค-ก.ค.2547) -แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า (HS. 8537) BRD, PN W EL SW+N/C AP ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 6 ของโลก รองจาก เยอรมัน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย เม็กซิโก สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 21 มูลค่า 7.676 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 0.41 ลดลงร้อยละ 9.02 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 1,879.266 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.41 นำเข้าจาก เม็กซิโก แคนนาดา ญี่ปุ่น เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค.2547) -กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง (HS. 0306.13) SHRIMPS AND PRAWNS, INCLUDING IN SHELL, COOKED BY STEAMING OR BY BOILING IN WATER, FROZEN ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 1 ของโลก สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 1 มูลค่า 215.611 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 15.43 ลดลงร้อยละ 16.94 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 1,397.310 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.53 นำเข้าจาก ไทย เวียดนาม อินเดีย เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค. 2547) -หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ (HS. 8504) ELECTRICAL TRANSFORMERS, STATIC CONVERTERS OR INDUCTORS ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 13 ของโลก รองจาก จีน ฮ่องกง เยอรมนี สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 8 มูลค่า 116.400 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนร้อยละ 2.77 ลดลงร้อยละ 4.55 ด้านการนำเข้าจากตลาดโลกของสหรัฐฯ มูลค่า 4,208.768 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.09 นำเข้าจาก จีน เม็กซิโก แคนนาดา เป็นหลัก (ม.ค.-ก.ค.2547)8. ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับวันจะเข้มข้นขึ้น ความนิยมของประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู บุช ลดลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับวุฒิสมาชิกจอร์จ เคอร์รี ซึ่งแม้ว่าชาวอเมริกันมิได้ชื่นชอบ มากนัก แต่เนื่องจากความเชื่อมั่นของประชาชนอเมริกันต่อการดำเนินนโยบายความมั่นคง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศของประธานาธิบดีจอร์จ บุช ลดต่ำลง อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง สำหรับเอเซียนั้นคาดการณ์ได้ว่าหากนายเคอร์รีได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เอเซียจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากนายเคอร์รี ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีและต้องการทบทวนสัญญาที่ทำไปแล้ว นอกจากนี้ยังต้องการลงโทษบริษัทอเมริกัน ที่ไปสร้างโรงงานและจ้างงานในต่างประเทศอีกด้วย ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 38 คน จากสมาคมนักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ (เอ็นเอบีอี) ให้ความเห็นว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน จะเป็นอย่างไรเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปี 2548 ก็มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าผลผลิตมวลรวม ในประเทศ (จีดีพี) ของปี 2547 จะเติบโตขึ้น 4.3% และคาดว่าในปี 2548 จะขยายตัวประมาณ 3.7% เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีจุดยืนที่มั่นคงได้ มากขึ้นในช่วงปลายปี 2547 ทั้งนี้ระดับของอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ระหว่าง 3-5% เหนือระดับปัจจุบันประมาณ 1.75% หลังการปรับขึ้น 3 ครั้งในรอบปีนี้ และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครั้งต่อไปประเด็นวิเคราะห์: การที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ย่อมส่งผลให้ประชาชนมีกำลัง จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นการนำเข้าของสหรัฐฯ จะขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก สถิติการนำเข้าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. 2547 ขยายตัวร้อยละ 14 ในขณะที่ปี 2546 ในช่วงระยะ เดียวกันขยายตัวร้อยละ 9.6 ดังนั้นจึงส่งผลที่ดีมาถึงประเทศไทยให้สามารถขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ในปี 2547 ที่มา: http://www.depthai.go.th -ดท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ