แท็ก
อินเดีย
“Outsourcing” หมายถึง การที่องค์กรว่าจ้างให้ธุรกิจภายนอกที่มีความรู้ความชำนาญในงานที่ต้องการว่าจ้าง รับงานไปดำเนินการแทน ทั้งนี้ งานที่องค์กรทั่วไปนิยม Outsource ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-core Business) และเป็นงานซึ่งองค์กรยังขาดความชำนาญ ดังนั้น การ Outsource งานที่องค์กรไม่ถนัดออกไปจะทำให้สามารถลดต้นทุนและทุ่มเทเวลาให้กับงานซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้เต็มที่
ปัจจุบันบริษัทต่างชาตินิยม Outsource งานในอินเดีย ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่รับจ้างผลิตงานรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดของการให้บริการด้านนี้สูงถึงร้อยละ 80 ในตลาดโลก งานส่วนใหญ่ที่บริษัทต่างชาตินิยม Outsource จะเป็นงานด้าน IT (Information Technology: IT) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศในแถบยุโรป และญี่ปุ่น ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้อินเดียเป็นตลาดรับจ้างผลิตงาน IT ที่สำคัญของโลก คือ
อินเดียมีชื่อเสียงมากในเรื่องงาน IT เนื่องจากงานมีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ความได้เปรียบเรื่องแรงงานด้าน IT ในแต่ละปีอินเดียมีบัณฑิตจบใหม่ด้านวิศวกรจำนวนมากถึง 290,000 คน นอกจากนี้ แรงงานยังมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดี อีกทั้งค่าจ้างแรงงานยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราค่าจ้างของชาวตะวันตกอื่นๆ ทำให้องค์กรที่ Outsource งาน IT มายังอินเดียสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ถึงร้อยละ 50
รัฐบาลอินเดียสนับสนุนธุรกิจ IT อย่างจริงจัง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจ IT อย่างต่อเนื่อง อาทิ ออกมาตรการด้านภาษี รวมทั้งผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเร่งปรับปรุงและพัฒนาระบบโครงข่ายทางโทรคมนาคม และระบบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารให้มีความก้าวหน้าเพื่อรองรับงานจากต่างชาติอีกด้วย อินเดียเป็นตลาดรับจ้างผลิตงาน IT ใน 2 กลุ่มหลัก คือ
1. งาน IT Software ปัจจุบันอินเดียมีบริษัทซอฟต์แวร์กว่า 600 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กทำธุรกิจในรูปของการรับจ้างเขียนซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทซอฟต์แวร์ในอินเดียมีชื่อเสียงด้านคุณภาพในระดับสูง กล่าวคือ จากบริษัทซอฟต์แวร์ที่ได้รับมาตรฐาน CMM (Capability Maturity Model) ในระดับ 5 (ระดับสูงสุด) จากทั่วโลกที่มีจำนวนราว 70 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทในอินเดียถึง 46 บริษัท สำหรับบริษัทในอินเดียที่มีชื่อเสียงด้าน IT Software ขนาดใหญ่ 3 อันดับแรก คือ Tata Consultancy Services, Infosys Technologies และ Wipro ตามลำดับ ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์อย่างจริงจัง โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียได้จัดตั้ง Software Technology Park of India (STPI) จำนวน 36 แห่งกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการส่งออกงานด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ใน STPI นี้จะได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีจากภาครัฐ เช่น การได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีนิติบุคคล เป็นต้น
2. การให้บริการที่เกี่ยวกับไอที (IT-Enable Services: ITES) หรือการรับจ้างงาน IT ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) เป็นการให้บริการต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ IT ในระบบงาน ได้แก่ งานด้านลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center and Customer Care) และงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกค้า (Back-Office Work) เช่น การจัดการข้อมูล การจัดทำและตรวจสอบบัญชี งานด้านเอกสารต่างๆ และงานด้านทรัพยากรบุคคล เป็นต้น ปัจจุบันการให้บริการด้าน ITES/BPO ของอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปีงบประมาณ 2546/2547 (1 เมษายน 2546—31 มีนาคม 2547) รายได้จากธุรกิจด้านนี้ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 54 จากปีงบประมาณก่อน คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมืองในอินเดียที่ให้บริการด้าน ITES/BPO เป็นสำคัญ ได้แก่ เมือง Mumbai, Bangalore, Chennai, Kollata ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการรักษาความลับของลูกค้ายังเป็นปัญหาที่ทำให้ลูกค้าชาวตะวันตกไม่มั่นใจที่จะ Outsource งานไปอินเดีย ดังนั้น บริษัท IT หลายแห่งจึงได้เร่งพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น เช่น ควบคุมระบบการผ่านเข้าออกของพนักงานบริษัท และการบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าปริมาณธุรกิจ IT Outsourcing ทั่วโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจนี้มีมูลค่ามหาศาล เป็นที่หมายปองของประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานด้าน IT ไม่สูงนัก เช่น จีน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ ประกอบกับปริมาณธุรกิจ IT ที่ Outsource ไปอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ความได้เปรียบด้านค่าจ้างแรงงานของอินเดียค่อยๆ หมดไป พร้อมๆ กับความสามารถในการแข่งขันค่อยๆ ลดลงด้วย ดังนั้น รัฐบาลอินเดียจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถคงบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำด้าน IT Outsourcing ต่อไปในระยะยาว
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤศจิกายน 2547--
-พห-
ปัจจุบันบริษัทต่างชาตินิยม Outsource งานในอินเดีย ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่รับจ้างผลิตงานรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดของการให้บริการด้านนี้สูงถึงร้อยละ 80 ในตลาดโลก งานส่วนใหญ่ที่บริษัทต่างชาตินิยม Outsource จะเป็นงานด้าน IT (Information Technology: IT) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศในแถบยุโรป และญี่ปุ่น ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้อินเดียเป็นตลาดรับจ้างผลิตงาน IT ที่สำคัญของโลก คือ
อินเดียมีชื่อเสียงมากในเรื่องงาน IT เนื่องจากงานมีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ความได้เปรียบเรื่องแรงงานด้าน IT ในแต่ละปีอินเดียมีบัณฑิตจบใหม่ด้านวิศวกรจำนวนมากถึง 290,000 คน นอกจากนี้ แรงงานยังมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดี อีกทั้งค่าจ้างแรงงานยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราค่าจ้างของชาวตะวันตกอื่นๆ ทำให้องค์กรที่ Outsource งาน IT มายังอินเดียสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ถึงร้อยละ 50
รัฐบาลอินเดียสนับสนุนธุรกิจ IT อย่างจริงจัง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจ IT อย่างต่อเนื่อง อาทิ ออกมาตรการด้านภาษี รวมทั้งผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเร่งปรับปรุงและพัฒนาระบบโครงข่ายทางโทรคมนาคม และระบบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารให้มีความก้าวหน้าเพื่อรองรับงานจากต่างชาติอีกด้วย อินเดียเป็นตลาดรับจ้างผลิตงาน IT ใน 2 กลุ่มหลัก คือ
1. งาน IT Software ปัจจุบันอินเดียมีบริษัทซอฟต์แวร์กว่า 600 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กทำธุรกิจในรูปของการรับจ้างเขียนซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทซอฟต์แวร์ในอินเดียมีชื่อเสียงด้านคุณภาพในระดับสูง กล่าวคือ จากบริษัทซอฟต์แวร์ที่ได้รับมาตรฐาน CMM (Capability Maturity Model) ในระดับ 5 (ระดับสูงสุด) จากทั่วโลกที่มีจำนวนราว 70 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทในอินเดียถึง 46 บริษัท สำหรับบริษัทในอินเดียที่มีชื่อเสียงด้าน IT Software ขนาดใหญ่ 3 อันดับแรก คือ Tata Consultancy Services, Infosys Technologies และ Wipro ตามลำดับ ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์อย่างจริงจัง โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียได้จัดตั้ง Software Technology Park of India (STPI) จำนวน 36 แห่งกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการส่งออกงานด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ใน STPI นี้จะได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีจากภาครัฐ เช่น การได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีนิติบุคคล เป็นต้น
2. การให้บริการที่เกี่ยวกับไอที (IT-Enable Services: ITES) หรือการรับจ้างงาน IT ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) เป็นการให้บริการต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ IT ในระบบงาน ได้แก่ งานด้านลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center and Customer Care) และงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกค้า (Back-Office Work) เช่น การจัดการข้อมูล การจัดทำและตรวจสอบบัญชี งานด้านเอกสารต่างๆ และงานด้านทรัพยากรบุคคล เป็นต้น ปัจจุบันการให้บริการด้าน ITES/BPO ของอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปีงบประมาณ 2546/2547 (1 เมษายน 2546—31 มีนาคม 2547) รายได้จากธุรกิจด้านนี้ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 54 จากปีงบประมาณก่อน คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมืองในอินเดียที่ให้บริการด้าน ITES/BPO เป็นสำคัญ ได้แก่ เมือง Mumbai, Bangalore, Chennai, Kollata ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการรักษาความลับของลูกค้ายังเป็นปัญหาที่ทำให้ลูกค้าชาวตะวันตกไม่มั่นใจที่จะ Outsource งานไปอินเดีย ดังนั้น บริษัท IT หลายแห่งจึงได้เร่งพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น เช่น ควบคุมระบบการผ่านเข้าออกของพนักงานบริษัท และการบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าปริมาณธุรกิจ IT Outsourcing ทั่วโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจนี้มีมูลค่ามหาศาล เป็นที่หมายปองของประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานด้าน IT ไม่สูงนัก เช่น จีน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ ประกอบกับปริมาณธุรกิจ IT ที่ Outsource ไปอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ความได้เปรียบด้านค่าจ้างแรงงานของอินเดียค่อยๆ หมดไป พร้อมๆ กับความสามารถในการแข่งขันค่อยๆ ลดลงด้วย ดังนั้น รัฐบาลอินเดียจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถคงบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำด้าน IT Outsourcing ต่อไปในระยะยาว
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤศจิกายน 2547--
-พห-