เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว: การส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในเดือนตุลาคม 2547 มีมูลค่า 54.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนกันยายนร้อยละ 7.32 คาดว่าเดือนพฤศจิกายน จะมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 49.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว: การส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเดือนมกราคม-ตุลาคม 2547 มีมูลค่า 529.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปี 2546 โดยสินค้าที่มีลู่ทางการส่งออกขยายตัวดีได้แก่ เครื่องแก้วใช้บนโต๊ะอาหารในครัว เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยพลาสติก เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยอลูมิเนียม และ ถ้วยชามทำด้วยเซรามิก คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 15.84, 7.25, 5.32 และ 0.73 ตามลำดับ ประเทศที่สั่งซื้อสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ตามลำดับ โดยมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็นร้อยละ 36.85, 9.54, 7.38, 4.20 และ 3.60 ตามลำดับ ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพคือ แคนาดา เบลเยียม ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ สเปน อย่างไรก็ตาม สินค้าเซรามิกและแก้วของไทย จะต้องถูกสหภาพยุโรป (EU) ตัดสิทธิ GSP ไปตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการจัดงาน เฉลิมฉลองและงานสังสรรค์รื่นเริงมากเป็นพิเศษ สินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารประเภท เครื่องแก้ว จานชามพลาสติก และ ถาดอลูมิเนียม มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ วิกฤตราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและ ในครัวเรือน ที่ต้องแบกรับกับปัญหาราคาต้นทุน ปัญหา ค่าบริการขนส่ง เป็นต้น ประเทศจีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ได้เปรียบไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันใช้เอง ประเทศเวียดนาม ฮ่องกง เกาหลี และอินเดีย ได้เปรียบไทยในด้านวัตถุดิบและค่าแรงที่ถูกกว่า ส่งผลให้ราคาสินค้าต่ำกว่า แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของรูปแบบผลิตภัณฑ์ คุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานทำให้สินค้าไทยยังคงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันจากผู้นำเข้าต่างประเทศ เป้าหมายการส่งออกปี 2547: มูลค่า 678 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 จากปี 2546 ที่มา: http://www.depthai.go.th-ดท-