เครื่องนุ่งห่ม: การส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มในเดือนพฤศจิกายน มีมูลค่า 266.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนตุลาคมร้อยละ 8.68 คาดว่าการส่งออกในเดือนธันวาคมมีมูลค่า 292.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภาพรวมการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม: การส่งออกเครื่องนุ่งห่มในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547(ม.ค.- พ.ย.) มีมูลค่า 3,073.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.75 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงเวลาปลายปีและอยู่ ในช่วงการส่งมอบสินค้าแก่ผู้นำเข้า ประกอบกับประเทศผู้ส่งออกเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่อย่างจีนได้มีการใช้โควต้าส่งออกสิ่งทอกันไปเต็มโควต้าที่ ได้รับแล้ว จึงทำให้ประโยชน์มาตกที่ประเทศไทยโดยมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากสถิติส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยไปตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส มีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการเปิดเสรีโควต้าสิ่งทอที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2548 นี้ จะส่งผลกระทบแก่อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของไทยอย่างมากในแง่ของการแข่งขันที่ค่อนข้างเสรีและมีความรุนแรงมากขึ้น แต่ก็เป็นที่เชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของไทยจะยังคงสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก รวมทั้งตัวเลขการส่งออก ก็จะยังคงเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความตระหนักดีถึงสภาพการแข่งขันที่จะเปลี่ยนแปลงไปภายหลังการสิ้นสุดโควต้าสิ่งทอมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้วและยังได้มีการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์นี้ ด้วยการพยายามปรับตัวในด้านต่างๆ ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรด้านออกแบบ การปรับปรุงเทคโนโลยีด้านการผลิต การพัฒนาระบบการจัดการในองค์กรเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว การทำตลาดเชิงรุกโดยความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงจากการเป็นเพียง OEM ไปสู่การเป็น ODM/OBM เป็นต้นเป้าหมายการส่งออกปี 2547: มูลค่า 3,384 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.00 เมื่อเทียบกับปี 2546 ผ้าผืนและด้าย: การส่งออกสินค้าผ้าผืนและด้ายเดือนพฤศจิกายนมีมูลค่า 142.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากเดือนตุลาคมร้อยละ 0.94 คาดว่าการส่งออกในเดือนธันวาคมมีมูลค่า 137.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภาพรวมการส่งออกผ้าผืนและด้าย การส่งออกผ้าผืนและด้ายในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค.- พ.ย.) มีมูลค่า 1,560.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.91 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 โดยจีนยังคงเป็นตลาดที่มีมูลค่าการ ส่งออกสูงเป็นอันดับหนึ่ง มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.01 รวมทั้งการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องในทุกตลาด เช่น ฮ่องกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.79 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.13 บังกลาเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.58 ทั้งนี้ เป็นเพราะภาพลักษณ์และคุณภาพที่ดีของสินค้าไทย มีการออกแบบสินค้าที่ทันสมัย (Design in trend) รวมทั้งประโยชน์ที่ได้รับจากการเจรจา/ทำข้อตกลงทางการค้าของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ อย่างเช่น ASEANเป้าหมายการส่งออกปี 2547: มูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2546 ที่มา: http://www.depthai.go.th-ดท-