กรุงเทพ--24 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2547 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังจากที่ได้มอบนโยบายการทำงานของเอกอัครราชทูตในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบการทำงานร่วมกันระหว่างเอกอัครราชทูตแบบบูรณาการในประเทศเพื่อนบ้านของไทยกับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ที่โรงแรมโซฟิเทล ราชาออคิด จังหวัดขอนแก่น โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. ตามที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ว่า CEO และเอกอัครราชทูต CEO และกงสุลใหญ่ทำให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งต่อประเทศไทย และต่อประเทศเพื่อนบ้านโดยในครั้งนี้มีเอกอัครราชทูตใน 5 ประเทศ รวมกงสุลใหญ่ เป็น11 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดฝั่งไทยที่มีพรมแดนติดกับเพื่อนบ้านด้วย และมีความรู้สึกยินดีที่มีความคืบหน้าจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ อย่างน้อยในเรื่องที่สำคัญ 2-3 ประการ
ประการแรก คือขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการร่วมระดับภูมิภาค (Regional Operation Center — ROC) และได้เปิดทำการที่จังหวัดขอนแก่น เป็นครั้งแรก โดยเป็นศูนย์ปฏิบัติการร่วมระหว่าง
กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงมหาดไทย หรือเอกอัครราชทูต CEO กับผู้ว่าราชการจังหวัด CEO โดยมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้ประสานงานด้านวิชาการ และข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและต่อไปอาจจัดตั้งในทุกภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
ประการที่สอง นับจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาจนถึงครั้งนี้เอกอัครราชทูต CEO และผู้ว่า CEO ได้มีการประชุมร่วมกัน ไปมาหาสู่กันทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องโดยตลอด
ประการที่สาม ขณะนี้ได้มีภาคเอกชน และนักวิชาการเข้ามาร่วมทำงานกัน ดังนั้น จะเห็น
ได้ว่าสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกัน
2. ในการบรรยายเรื่องยุทธศาสตร์การต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านว่าเราจะมุ่งไปทางใด เพื่อที่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และเอกอัครราชทูตมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision) หรือที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเสมอ ๆ ว่าเราต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน การมีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่าเราจะเดินไปทางใด ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ วิสัยทัศน์เหล่านี้ ได้แก่
ประการแรก การที่เราจะไปสู่ความร่วมมือของเอเชียหรือประชาคมเอเชีย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเสาเข็ม หากว่าเราจะสร้างบ้านสักหลังของพวกเราเอเชียด้วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมี เสาเข็ม ซึ่งเสาเข็มก็คือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องวางอยู่บนความ ไว้เนื้อเชื่อใจกัน การให้เกียรติกัน การมีความมั่นใจซึ่งกันและกัน ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการแล้วกับเพื่อนบ้านทุกประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเอกอัครราชทูต CEO มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้เสาเข็มนี้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน เพราะสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันกับเพื่อนบ้าน ๆ จึงจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจเรา สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ
ประการที่สอง กำหนดให้ศูนย์อำนวยการร่วมระดับภูมิภาค (ROC) เป็นศูนย์ปฏิบัติการ มิใช่ศูนย์นโยบาย ทั้งนี้ ในด้านของนโยบายนั้นมีคณะอนุกรรมการในเรื่องความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน และมีหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วม และขณะนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้น เรียกว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์
ด้านการต่างประเทศ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ฉะนั้นองค์กรที่กำหนดนโยบายภาพรวมทั้งหมดของประเทศจึงมีอยู่แล้วที่ส่วนกลาง ดังนั้น ROC จึงไม่ต้องดำเนินการด้านนโยบาย แต่จะเน้นในเรื่องปฏิบัติ ซึ่งมีหน้าที่เชื่อมโยงกับผู้ว่าราชการจังหวัด กับผู้บริหารในระดับท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เจ้าแขวงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้ว่ากัมพูชา ผู้บัญชาการกองกำลังของพม่าทางมณฑลยูนนานของจีน และหากติดขัดหรือมีปัญหาอย่างไร จะต้องประสานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้การดำเนินการตามโครงการความร่วมมือต่าง ๆ บรรลุผล อาทิ โครงการภายใต้ ACMECS ที่ตกลงกันไว้ 5 สาขา เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องถนนเชื่อมโยงระหว่างกันก็ควรตรวจสอบดูว่ามีปัญหาอย่างไร จะต้องดูแลร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในเรื่องด่านจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยมั่นคง ไม่ให้มีการลักลอบค้ามนุษย์ หรือการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี เรื่องยาเสพติดจะร่วมกันดำเนินการอย่างไร การท่องเที่ยวเมื่อมีนโยบายชัดเจนแล้วจะต้องประสานกับ เจ้าหน้าที่ระดับบริหารท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่อย่างไร
ประการสุดท้ายคือ ได้ขอให้ ROC ทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะต้องเป็นศูนย์ข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่ทันสมัย โดยเฉพาะตัวเลขเกี่ยวกับผลผลิตต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางสนับสนุนข้อมูลให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเอกอัครราชทูตในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อมีการติดต่อร้องขอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่เอกอัครราชทูต และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้ง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทยจะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ ROC เป็นศูนย์ข้อมูล และเพื่อความคล่องตัวในการทำงาน ROC จึงไม่ควรที่จะมีโครงสร้างที่ใหญ่โตเกินไป ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการได้ให้แนวทางไว้ว่า ROC ควรจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการไม่มากนัก ทำงานเต็มเวลา เป็นศูนย์ข้อมูล และมีการสร้างเครือข่าย (Network) กับหน่วยงานต่าง ๆ และกับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะทำให้ ROC เป็นประโยขน์ในการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายที่จะให้นโยบายต่างประเทศเป็นประโยชน์กับท้องถิ่นให้มากที่สุด ที่เรียกว่า Localization of Foreign Policy ฉะนั้นการทำงานของเอกอัครราชทูตและผู้ว่าราชการจังหวัด CEO มีเป้าหมาย ให้ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศไทยได้ประโยชน์ไปด้วยกัน ซึ่งในด้านการทำงานต้องมีการประสานงานกันไม่ซ้ำซ้อนกัน และสามารถแก้ปัญหาในระดับท้องถิ่นได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2547 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังจากที่ได้มอบนโยบายการทำงานของเอกอัครราชทูตในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบการทำงานร่วมกันระหว่างเอกอัครราชทูตแบบบูรณาการในประเทศเพื่อนบ้านของไทยกับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ที่โรงแรมโซฟิเทล ราชาออคิด จังหวัดขอนแก่น โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. ตามที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ว่า CEO และเอกอัครราชทูต CEO และกงสุลใหญ่ทำให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งต่อประเทศไทย และต่อประเทศเพื่อนบ้านโดยในครั้งนี้มีเอกอัครราชทูตใน 5 ประเทศ รวมกงสุลใหญ่ เป็น11 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดฝั่งไทยที่มีพรมแดนติดกับเพื่อนบ้านด้วย และมีความรู้สึกยินดีที่มีความคืบหน้าจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ อย่างน้อยในเรื่องที่สำคัญ 2-3 ประการ
ประการแรก คือขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการร่วมระดับภูมิภาค (Regional Operation Center — ROC) และได้เปิดทำการที่จังหวัดขอนแก่น เป็นครั้งแรก โดยเป็นศูนย์ปฏิบัติการร่วมระหว่าง
กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงมหาดไทย หรือเอกอัครราชทูต CEO กับผู้ว่าราชการจังหวัด CEO โดยมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้ประสานงานด้านวิชาการ และข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและต่อไปอาจจัดตั้งในทุกภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
ประการที่สอง นับจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาจนถึงครั้งนี้เอกอัครราชทูต CEO และผู้ว่า CEO ได้มีการประชุมร่วมกัน ไปมาหาสู่กันทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องโดยตลอด
ประการที่สาม ขณะนี้ได้มีภาคเอกชน และนักวิชาการเข้ามาร่วมทำงานกัน ดังนั้น จะเห็น
ได้ว่าสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกัน
2. ในการบรรยายเรื่องยุทธศาสตร์การต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านว่าเราจะมุ่งไปทางใด เพื่อที่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และเอกอัครราชทูตมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision) หรือที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเสมอ ๆ ว่าเราต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน การมีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่าเราจะเดินไปทางใด ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ วิสัยทัศน์เหล่านี้ ได้แก่
ประการแรก การที่เราจะไปสู่ความร่วมมือของเอเชียหรือประชาคมเอเชีย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเสาเข็ม หากว่าเราจะสร้างบ้านสักหลังของพวกเราเอเชียด้วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมี เสาเข็ม ซึ่งเสาเข็มก็คือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องวางอยู่บนความ ไว้เนื้อเชื่อใจกัน การให้เกียรติกัน การมีความมั่นใจซึ่งกันและกัน ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการแล้วกับเพื่อนบ้านทุกประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเอกอัครราชทูต CEO มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้เสาเข็มนี้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน เพราะสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันกับเพื่อนบ้าน ๆ จึงจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจเรา สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ
ประการที่สอง กำหนดให้ศูนย์อำนวยการร่วมระดับภูมิภาค (ROC) เป็นศูนย์ปฏิบัติการ มิใช่ศูนย์นโยบาย ทั้งนี้ ในด้านของนโยบายนั้นมีคณะอนุกรรมการในเรื่องความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน และมีหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วม และขณะนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้น เรียกว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์
ด้านการต่างประเทศ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ฉะนั้นองค์กรที่กำหนดนโยบายภาพรวมทั้งหมดของประเทศจึงมีอยู่แล้วที่ส่วนกลาง ดังนั้น ROC จึงไม่ต้องดำเนินการด้านนโยบาย แต่จะเน้นในเรื่องปฏิบัติ ซึ่งมีหน้าที่เชื่อมโยงกับผู้ว่าราชการจังหวัด กับผู้บริหารในระดับท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เจ้าแขวงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้ว่ากัมพูชา ผู้บัญชาการกองกำลังของพม่าทางมณฑลยูนนานของจีน และหากติดขัดหรือมีปัญหาอย่างไร จะต้องประสานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้การดำเนินการตามโครงการความร่วมมือต่าง ๆ บรรลุผล อาทิ โครงการภายใต้ ACMECS ที่ตกลงกันไว้ 5 สาขา เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องถนนเชื่อมโยงระหว่างกันก็ควรตรวจสอบดูว่ามีปัญหาอย่างไร จะต้องดูแลร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในเรื่องด่านจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยมั่นคง ไม่ให้มีการลักลอบค้ามนุษย์ หรือการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี เรื่องยาเสพติดจะร่วมกันดำเนินการอย่างไร การท่องเที่ยวเมื่อมีนโยบายชัดเจนแล้วจะต้องประสานกับ เจ้าหน้าที่ระดับบริหารท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่อย่างไร
ประการสุดท้ายคือ ได้ขอให้ ROC ทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะต้องเป็นศูนย์ข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่ทันสมัย โดยเฉพาะตัวเลขเกี่ยวกับผลผลิตต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางสนับสนุนข้อมูลให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเอกอัครราชทูตในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อมีการติดต่อร้องขอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่เอกอัครราชทูต และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้ง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทยจะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ ROC เป็นศูนย์ข้อมูล และเพื่อความคล่องตัวในการทำงาน ROC จึงไม่ควรที่จะมีโครงสร้างที่ใหญ่โตเกินไป ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการได้ให้แนวทางไว้ว่า ROC ควรจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการไม่มากนัก ทำงานเต็มเวลา เป็นศูนย์ข้อมูล และมีการสร้างเครือข่าย (Network) กับหน่วยงานต่าง ๆ และกับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะทำให้ ROC เป็นประโยขน์ในการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายที่จะให้นโยบายต่างประเทศเป็นประโยชน์กับท้องถิ่นให้มากที่สุด ที่เรียกว่า Localization of Foreign Policy ฉะนั้นการทำงานของเอกอัครราชทูตและผู้ว่าราชการจังหวัด CEO มีเป้าหมาย ให้ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศไทยได้ประโยชน์ไปด้วยกัน ซึ่งในด้านการทำงานต้องมีการประสานงานกันไม่ซ้ำซ้อนกัน และสามารถแก้ปัญหาในระดับท้องถิ่นได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-