พรรคประชาธิปัตย์ ประชุมคณะทำงานประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสับภัยอย่างรีบด่วน พร้อมทำหน้าที่ประสานเป็นตัวกลางดูแลเงินบริจาคจากภาคเอกชน และองค์กรต่างๆทั้งในและนอกประเทศ
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะทำงานประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นที่ปรึกษา และมี ส.ส.ใน 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ คือ นายอาคม เอ่งฉ้วน นายวิรัช ร่มเย็น นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นางกันตวรรณ กุลจรรยาวิวัฒน์ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ นายสุวรรณ กู้สุจริต น.พ.อสิ มะหะมัดยังกี นายธานินทร์ ใจสมุทร นายกิจ หลีกภัย นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นคณะทำงาน โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นเลขานุการ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เลขานุการคณะทำงานประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เปิดเผยหลังการประชุมว่า ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำ และคณะทำงานจะลงพื้นที่ใน จ.พังงา เพื่อประสานความช่วยเหลือ และหาแนวทางฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งยังเกิดความขัดแย้งในการทำงาน โดยจัดกิจกรรมรับฟังความเห็นจากประชาชน 3 จุด คือ อ.ท้ายเหมือง และ อ.คุระบุรี จะมีการเยี่ยมผู้ประสบภัย ส่วน อ.ตะกั่วป่า จะเป็นการตั้งเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชน โดยมี ส.ส.ในพื้นที่ร่วมรับฟัง และจะแบ่งประเภทของผู้ประสบภัยเป็น 7 กลุ่ม พร้อมกับบันทึกเป็นรายงานเพื่อเสนอต่อหัวหน้าพรรคในการนำไปเสนอต่อรัฐบาลในช่วงแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หรือในวาระอื่นๆต่อไป
’นอกจากนี้จะไปรวบรวมข้อมูลในจังหวัดอื่นด้วย ส่วนการลงไปหาข้อมูลดังกล่าวจะมีความระมัดระวังไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพียงแต่ต้องการมีส่วนร่วมในฐานะสถาบันการเมือง และสถาบันนิติบัญญัติ เราไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและจับผิดองค์กรต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่เราทำตัวเสมือนเป็นสื่อไปยังรัฐบาลให้ทำงานได้อย่างครอบคลุม ถือว่านี่เป็นหน้าที่หนึ่งในฐานะที่เป็น ส.ส. ที่มาจากพื้นที่ประสบภัย จำเป็นที่จะต้องมีความรับผิดชอบช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเท่าที่เราสามารถจะทำได้’ นายสาทิตย์กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้พูดถึงปัญหาซึ่งอาจตกค้างอยู่ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งเท่าที่รับฟังจาก ส.ส. ในพื้นที่ หลายจังหวัดมีปัญหาในการประสานงาน ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพราะหลายเรื่องที่มีการรับปากในช่วงที่ประสบภัย ยังไม่มีการแก้ปัญหาให้ลุล่วง ดังนั้นการที่พรรคตั้งคณะทำงานขึ้น จะเป็นการช่วยเหลือกผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่ง
ด้านนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก โดยมีความต้องการที่จะบริจาคเป็นเงิน แต่ถูกปฏิเสธจากรัฐบาลที่อยากได้ความช่วยเหลือในด้านอื่น เช่น การก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มเอกชนต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ และอยากให้เงินถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรง ไม่ใช่ไปกองอยู่ ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงต้องการเป็นตัวประสานเพื่อให้การบริจาคมีประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งขณะนี้มีหลายองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศได้แสดงความจำนงจะให้ความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว
‘ที่คณะทำงานเลือกลงไปรวบรวมข้อมูลใน จ.พังงา เป็นพื้นที่แรกนั้นเพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด และมีปัญหามากที่สุด แม้รัฐบาลจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปรับฟังปัญหาแต่คนจำนวนมากไม่มีโอกาสได้พูดมีเพียงคนกลุ่มน้อยที่ได้ออกมาพูด ดังนั้น คณะทำงานเป็นตัวแทนเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลโดยตรง และจะต้องมีการผลักดันให้มีการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งถ้าหากมีใครที่พอจะช่วยประสานงานเหล่านี้ ผมคิดว่าจะได้ผล นอกเหนือจากมาตรการที่รัฐบาลได้สัญญาและประกาศไปแล้ว’ นายพิเชษฐกล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า แนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะค้านหรือไม่เห็นด้วย เพราะถ้ามีความช่วยเหลือที่จะไปสู่ผู้ทุกข์ยากที่กำลังมีความทุกข์ ที่คั่งค้างและติดขัดอยู่ด้วยความไม่คล่องตัวจากกลไกและระเบียบของรัฐ เพราะฉะนั้นถ้าจะมีกลไกอื่นที่จะขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ ไปให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ก็ไม่เห็นมีวิสัยอะไรที่รัฐบาลจะไม่พอใจ ‘เราตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อที่อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เพื่อแก้ความทุกข์ของคนอีกจำนวนมาก และหลังจากทราบปัญหาแล้ว เราจะทำทันทีทันใด อย่างเร็วที่สุด เพราะถ้าเรายังช้าอีกประชาชนคงไม่รู้จะไปมุ่งหวังจากใคร’ นายพิเชษฐกล่าว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล หนึ่งในคณะทำงานกล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนไปยังสำนักงานส่วนตัวที่ จ.ตรัง โดยขอให้ช่วยประสานไปยังภาครัฐเพื่อขอรับความช่วยเหลือกว่า 3,000 ราย ซึ่งขณะนี้เรื่องทั้งหมดได้นำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเรียบร้อยแล้ว และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะทำงานของพรรคเพื่อนำเสนอรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้ยื่นกระทู้ไปยังสภา 2 เรื่องคือ 1.ปัญหาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ 2.เงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ประสบภัยสึนามิ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 มี.ค. 2548--จบ--
-ดท-
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะทำงานประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นที่ปรึกษา และมี ส.ส.ใน 6 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ คือ นายอาคม เอ่งฉ้วน นายวิรัช ร่มเย็น นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นางกันตวรรณ กุลจรรยาวิวัฒน์ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ นายสุวรรณ กู้สุจริต น.พ.อสิ มะหะมัดยังกี นายธานินทร์ ใจสมุทร นายกิจ หลีกภัย นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นคณะทำงาน โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นเลขานุการ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เลขานุการคณะทำงานประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เปิดเผยหลังการประชุมว่า ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำ และคณะทำงานจะลงพื้นที่ใน จ.พังงา เพื่อประสานความช่วยเหลือ และหาแนวทางฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งยังเกิดความขัดแย้งในการทำงาน โดยจัดกิจกรรมรับฟังความเห็นจากประชาชน 3 จุด คือ อ.ท้ายเหมือง และ อ.คุระบุรี จะมีการเยี่ยมผู้ประสบภัย ส่วน อ.ตะกั่วป่า จะเป็นการตั้งเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชน โดยมี ส.ส.ในพื้นที่ร่วมรับฟัง และจะแบ่งประเภทของผู้ประสบภัยเป็น 7 กลุ่ม พร้อมกับบันทึกเป็นรายงานเพื่อเสนอต่อหัวหน้าพรรคในการนำไปเสนอต่อรัฐบาลในช่วงแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หรือในวาระอื่นๆต่อไป
’นอกจากนี้จะไปรวบรวมข้อมูลในจังหวัดอื่นด้วย ส่วนการลงไปหาข้อมูลดังกล่าวจะมีความระมัดระวังไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพียงแต่ต้องการมีส่วนร่วมในฐานะสถาบันการเมือง และสถาบันนิติบัญญัติ เราไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและจับผิดองค์กรต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่เราทำตัวเสมือนเป็นสื่อไปยังรัฐบาลให้ทำงานได้อย่างครอบคลุม ถือว่านี่เป็นหน้าที่หนึ่งในฐานะที่เป็น ส.ส. ที่มาจากพื้นที่ประสบภัย จำเป็นที่จะต้องมีความรับผิดชอบช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเท่าที่เราสามารถจะทำได้’ นายสาทิตย์กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้พูดถึงปัญหาซึ่งอาจตกค้างอยู่ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งเท่าที่รับฟังจาก ส.ส. ในพื้นที่ หลายจังหวัดมีปัญหาในการประสานงาน ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพราะหลายเรื่องที่มีการรับปากในช่วงที่ประสบภัย ยังไม่มีการแก้ปัญหาให้ลุล่วง ดังนั้นการที่พรรคตั้งคณะทำงานขึ้น จะเป็นการช่วยเหลือกผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่ง
ด้านนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก โดยมีความต้องการที่จะบริจาคเป็นเงิน แต่ถูกปฏิเสธจากรัฐบาลที่อยากได้ความช่วยเหลือในด้านอื่น เช่น การก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มเอกชนต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ และอยากให้เงินถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรง ไม่ใช่ไปกองอยู่ ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงต้องการเป็นตัวประสานเพื่อให้การบริจาคมีประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งขณะนี้มีหลายองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศได้แสดงความจำนงจะให้ความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว
‘ที่คณะทำงานเลือกลงไปรวบรวมข้อมูลใน จ.พังงา เป็นพื้นที่แรกนั้นเพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด และมีปัญหามากที่สุด แม้รัฐบาลจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปรับฟังปัญหาแต่คนจำนวนมากไม่มีโอกาสได้พูดมีเพียงคนกลุ่มน้อยที่ได้ออกมาพูด ดังนั้น คณะทำงานเป็นตัวแทนเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลโดยตรง และจะต้องมีการผลักดันให้มีการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งถ้าหากมีใครที่พอจะช่วยประสานงานเหล่านี้ ผมคิดว่าจะได้ผล นอกเหนือจากมาตรการที่รัฐบาลได้สัญญาและประกาศไปแล้ว’ นายพิเชษฐกล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า แนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะค้านหรือไม่เห็นด้วย เพราะถ้ามีความช่วยเหลือที่จะไปสู่ผู้ทุกข์ยากที่กำลังมีความทุกข์ ที่คั่งค้างและติดขัดอยู่ด้วยความไม่คล่องตัวจากกลไกและระเบียบของรัฐ เพราะฉะนั้นถ้าจะมีกลไกอื่นที่จะขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ ไปให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ก็ไม่เห็นมีวิสัยอะไรที่รัฐบาลจะไม่พอใจ ‘เราตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อที่อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เพื่อแก้ความทุกข์ของคนอีกจำนวนมาก และหลังจากทราบปัญหาแล้ว เราจะทำทันทีทันใด อย่างเร็วที่สุด เพราะถ้าเรายังช้าอีกประชาชนคงไม่รู้จะไปมุ่งหวังจากใคร’ นายพิเชษฐกล่าว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล หนึ่งในคณะทำงานกล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนไปยังสำนักงานส่วนตัวที่ จ.ตรัง โดยขอให้ช่วยประสานไปยังภาครัฐเพื่อขอรับความช่วยเหลือกว่า 3,000 ราย ซึ่งขณะนี้เรื่องทั้งหมดได้นำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเรียบร้อยแล้ว และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะทำงานของพรรคเพื่อนำเสนอรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้ยื่นกระทู้ไปยังสภา 2 เรื่องคือ 1.ปัญหาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ 2.เงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ประสบภัยสึนามิ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 มี.ค. 2548--จบ--
-ดท-