ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย
ฉบับที่ 44/2541
เรื่อง สถิติการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเดือนมิถุนายน 2541
ปริมาณเช็คเรียกเก็บในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในเดือนมิถุนายน 2541ที่ธนาคารสมาชิกศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ส่งเรียกเก็บผ่านศูนย์หักบัญชีฯมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,722,702 ฉบับ มูลค่ารวม 6,409,442.12 ล้านบาทปริมาณและมูลค่าเช็คส่งเรียกเก็บรวมทั้งเดือนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ16.17 และ 2.14 ตามลำดับ โดยในเดือนนี้มูลค่าเช็คเรียกเก็บเฉลี่ยวันทำการละ291,338.27 ล้านบาทลดลงจากเดือนพฤษภาคมซึ่งมีมูลค่าเช็คเรียกเก็บเฉลี่ยวันทำการละ 348,635.67ล้านบาท หรือเฉลี่ยลดลงวันทำการละ 57,297.4 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในเดือนมิถุนายน 2541 มีวันทำการมากกว่าเดือนพฤษภาคม 2541 4 วันและภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาหากพิจารณาในภาพรวมทั้งเดือนการที่ปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนย่อมแสดงว่าภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจของประเทศได้เคลื่อนตัวมาอยู่ในช่วงต่ำสุดแล้วแรงผลักดันในการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของทางการและภาคเอกชนจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่จะปรับตัวอีกระยะหนึ่งและจะฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยังคงต้องระมัดระวังปัจจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจากภายนอกประเทศ
เช็คคืนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในเดือนมิถุนายน 2541 มีจำนวนทั้งสิ้น 204,362ฉบับ รวมมูลค่า 22,318.36 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 4.33 และ 0.35ของปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บ ลดลงจากในเดือนก่อน (เดือนพฤษภาคม)ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนต่อเช็คเรียกเก็บร้อยละ 5.19 และ 0.38ตามลำดับเมื่อพิจารณาสัดส่วนเช็คคืนต่อเช็คเรียกเก็บจะเห็นได้ว่ามีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี2540 เป็นต้นมา คือ จากร้อยละ 6.48 และ 6.37 ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2540ลดลงเหลือร้อยละ 5.27 และ 4.86 ในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี 2541 ตามลำดับ
ส่วนเช็คคืนที่ถูกคืนเพราะไม่มีเงินหรือเช็คที่ถูกคืนด้วยเหตุผลข้อ 1“เงินในบัญชีไม่พอจ่าย” ข้อ 2 “โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย” และข้อ 3“ยังไม่มีการตกลงกับธนาคาร” ในเดือนมิถุนายน 2541 มีจำนวนทั้งสิ้น 118,039ฉบับ รวมมูลค่า 11,794.97 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.50 และ 0.18ของปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บและสัดส่วนปริมาณเช็คคืนด้วยเหตุผลไม่มีเงินลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับในเดือนก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บร้อยละ3.00 และ 0.18 ตามลำดับและเมื่อพิจารณาสัดส่วนเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บจะเห็นได้ว่าทั้งปริมาณและมูลค่ามีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี2540 เป็นต้นมากล่าวคือสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บทั้งสิ้นที่เคยอยู่ในระดับสูงร้อยละ3.66 และ 0.31 ตามลำดับในไตรมาสที่ 3 ของปี 2540 ได้ลดลงมาที่ระดับร้อยละ 2.81และ 0.19 ตามลำดับในไตรมาสที่ 2 ของปี 2541แสดงให้เห็นว่าคุณภาพในการใช้เช็คเป็นสื่อการชำระเงินมีคุณภาพดีขึ้นเป็นลำดับประชาชนผู้สั่งจ่ายเช็คมีความระมัดระวังในการใช้เช็คมากขึ้นเป็นแนวโน้มที่น่าพอใจ
สถิติการหักบัญชีระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงครึ่งแรกของปี2541 เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บลดลงร้อยละ 21.41 และ 50.96 ตามลำดับสำหรับสัดส่วนปริมาณเช็คคืนต่อปริมาณเช็คเรียกเก็บลดลงจากร้อยละ 5.81เหลือร้อยละ 5.07 ของปริมาณเช็คเรียกเก็บแต่สัดส่วนมูลค่าเช็คคืนต่อมูลค่าเช็คเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.39เป็นร้อยละ 0.43 ของมูลค่าเช็คเรียกเก็บและเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนปริมาณเช็คคืนด้วยเหตุผลไม่มีเงินต่อปริมาณเช็คเรียกเก็บสัดส่วนลดลงจากร้อยละ3.22 ในครึ่งแรกของปี 2540 เหลือร้อยละ 2.91 ในครึ่งแรกของปี 2541แต่สัดส่วนมูลค่าเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.19 เป็นร้อยละ 0.21
ธนาคารแห่งประเทศไทย
17 กรกฎาคม 2541
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ฉบับที่ 44/2541
เรื่อง สถิติการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเดือนมิถุนายน 2541
ปริมาณเช็คเรียกเก็บในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในเดือนมิถุนายน 2541ที่ธนาคารสมาชิกศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ส่งเรียกเก็บผ่านศูนย์หักบัญชีฯมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,722,702 ฉบับ มูลค่ารวม 6,409,442.12 ล้านบาทปริมาณและมูลค่าเช็คส่งเรียกเก็บรวมทั้งเดือนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ16.17 และ 2.14 ตามลำดับ โดยในเดือนนี้มูลค่าเช็คเรียกเก็บเฉลี่ยวันทำการละ291,338.27 ล้านบาทลดลงจากเดือนพฤษภาคมซึ่งมีมูลค่าเช็คเรียกเก็บเฉลี่ยวันทำการละ 348,635.67ล้านบาท หรือเฉลี่ยลดลงวันทำการละ 57,297.4 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในเดือนมิถุนายน 2541 มีวันทำการมากกว่าเดือนพฤษภาคม 2541 4 วันและภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาหากพิจารณาในภาพรวมทั้งเดือนการที่ปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนย่อมแสดงว่าภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจของประเทศได้เคลื่อนตัวมาอยู่ในช่วงต่ำสุดแล้วแรงผลักดันในการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของทางการและภาคเอกชนจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจมีทิศทางที่จะปรับตัวอีกระยะหนึ่งและจะฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยังคงต้องระมัดระวังปัจจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจากภายนอกประเทศ
เช็คคืนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในเดือนมิถุนายน 2541 มีจำนวนทั้งสิ้น 204,362ฉบับ รวมมูลค่า 22,318.36 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 4.33 และ 0.35ของปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บ ลดลงจากในเดือนก่อน (เดือนพฤษภาคม)ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนต่อเช็คเรียกเก็บร้อยละ 5.19 และ 0.38ตามลำดับเมื่อพิจารณาสัดส่วนเช็คคืนต่อเช็คเรียกเก็บจะเห็นได้ว่ามีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี2540 เป็นต้นมา คือ จากร้อยละ 6.48 และ 6.37 ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2540ลดลงเหลือร้อยละ 5.27 และ 4.86 ในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี 2541 ตามลำดับ
ส่วนเช็คคืนที่ถูกคืนเพราะไม่มีเงินหรือเช็คที่ถูกคืนด้วยเหตุผลข้อ 1“เงินในบัญชีไม่พอจ่าย” ข้อ 2 “โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย” และข้อ 3“ยังไม่มีการตกลงกับธนาคาร” ในเดือนมิถุนายน 2541 มีจำนวนทั้งสิ้น 118,039ฉบับ รวมมูลค่า 11,794.97 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.50 และ 0.18ของปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บและสัดส่วนปริมาณเช็คคืนด้วยเหตุผลไม่มีเงินลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับในเดือนก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บร้อยละ3.00 และ 0.18 ตามลำดับและเมื่อพิจารณาสัดส่วนเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บจะเห็นได้ว่าทั้งปริมาณและมูลค่ามีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี2540 เป็นต้นมากล่าวคือสัดส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คคืนไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บทั้งสิ้นที่เคยอยู่ในระดับสูงร้อยละ3.66 และ 0.31 ตามลำดับในไตรมาสที่ 3 ของปี 2540 ได้ลดลงมาที่ระดับร้อยละ 2.81และ 0.19 ตามลำดับในไตรมาสที่ 2 ของปี 2541แสดงให้เห็นว่าคุณภาพในการใช้เช็คเป็นสื่อการชำระเงินมีคุณภาพดีขึ้นเป็นลำดับประชาชนผู้สั่งจ่ายเช็คมีความระมัดระวังในการใช้เช็คมากขึ้นเป็นแนวโน้มที่น่าพอใจ
สถิติการหักบัญชีระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงครึ่งแรกของปี2541 เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บลดลงร้อยละ 21.41 และ 50.96 ตามลำดับสำหรับสัดส่วนปริมาณเช็คคืนต่อปริมาณเช็คเรียกเก็บลดลงจากร้อยละ 5.81เหลือร้อยละ 5.07 ของปริมาณเช็คเรียกเก็บแต่สัดส่วนมูลค่าเช็คคืนต่อมูลค่าเช็คเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.39เป็นร้อยละ 0.43 ของมูลค่าเช็คเรียกเก็บและเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนปริมาณเช็คคืนด้วยเหตุผลไม่มีเงินต่อปริมาณเช็คเรียกเก็บสัดส่วนลดลงจากร้อยละ3.22 ในครึ่งแรกของปี 2540 เหลือร้อยละ 2.91 ในครึ่งแรกของปี 2541แต่สัดส่วนมูลค่าเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.19 เป็นร้อยละ 0.21
ธนาคารแห่งประเทศไทย
17 กรกฎาคม 2541
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--