กรุงเทพ--23 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ว่า มีคนไทยจำนวน 2 คนชื่อ นายอานนท์ เตชะวิมลกุล และนาย ลือชัย คันธสีโล ถูกตำรวจอิตาลีจับกุมในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนำคนต่างชาติเข้าเมืองอิตาลีโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กงสุลไปเยี่ยมและสอบถาม สรุปดังนี้
1 ) นายอานนท์ เตชะวิมลกุล มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตบางกระปิ กรุงเทพฯ มีกิจการรับส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปแต่ไม่มีเงิน เพื่อนของเพื่อนจึงได้ติดต่อขอให้ถือเอกสารซึ่งอยู่ในซองไปให้กับบุคคลที่อยู่ในประเทศอิตาลี โดยจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้เป็นการตอบแทน ตนจึงได้เดินทางมาถึงอิตาลีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2542 และเข้าพักที่โรงแรม Luxor ต่อมา นายลือชัย คันธสีโล ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ มารับเอกสารจากตนโดยได้พาคนสัญชาติจีนอีกหนึ่งคนมาพบด้วย ต่อมาตนถูกตำรวจจับกุมที่โรงแรมดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงหนังสือเดินทาง
2 )นายลือชัย คันธสีโล มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตบางเขน กรุงเทพฯ เคยเปิดกิจการร้านอาหาร แต่มีปัญหาภายในจึงต้องปิดกิจการ จึงรับจ้างวานพาคนจีนเดินทางไปส่งที่สหรัฐฯ ผู้จ้างวานได้ขอหนังสือเดินทางของตนไปเพื่อทำวีซ่า แต่ไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า ผู้จ้างวานจึงไม่ได้คืนหนังสือเดินทางมาให้แต่ให้ตนใช้หนังสือเดินทางปลอมแปลงสัญชาติออสเตรเลียแทน ต่อมานายลือชัยฯ จึงได้เดินทางไปประเทศอิตาลี เพื่อเดินทางต่อไปสหรัฐฯพร้อมกับผู้หญิงจีน 1 คน
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2542 ตำรวจอิตาลีได้จับกุมตัวนายลือชัยฯที่สนามบินฟิวมิชิโน ในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยตำรวจยึดหนังสือเดินทางของตนและของผู้หญิงจีน แต่ได้ปล่อยตัวนายลือชัยฯไปก่อน นายลือชัยฯจึงได้โทรศัพท์ไปหาผู้หญิงชื่อ "ติ๊ก" ที่ประเทศไทย นางติ๊กแจ้งว่าได้ส่งคนถือหนังสือเดินทางมาให้ใหม่ นายลือชัยฯ จึงได้ไปหานายอานนท์ฯ ที่โรงแรม Luxor เพื่อรับหนังสือเดินทาง และต่อมาตนถูกตำรวจจับกุมอีกครั้งในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงหนังสือเดินทาง สถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งเพิ่มเติมว่าในขณะนี้ ตำรวจอิตาลีได้กักตัวบุคคลทั้งสองไว้ในเรือนจำและรอการไต่สวนและการพิพากษาอยู่ โดยอาจมีการตัดสินจำคุกและเนรเทศจากอิตาลีต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนให้ระมัดระวังขบวนการข้ามชาติที่นำคนต่างด้าวไป ลักลอบทำงานในต่างประเทศ ซึ่งมักเชื่อมโยงกับขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง จึงไม่ควรรับจ้างหรือรับอาสานำบุคคล สิ่งของ และเอกสารใดๆ ไปต่างประเทศ เพราะอาจถูกจับกุมตัว ติดร่างแหการกระทำความผิดในต่างประเทศโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ว่า มีคนไทยจำนวน 2 คนชื่อ นายอานนท์ เตชะวิมลกุล และนาย ลือชัย คันธสีโล ถูกตำรวจอิตาลีจับกุมในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนำคนต่างชาติเข้าเมืองอิตาลีโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กงสุลไปเยี่ยมและสอบถาม สรุปดังนี้
1 ) นายอานนท์ เตชะวิมลกุล มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตบางกระปิ กรุงเทพฯ มีกิจการรับส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปแต่ไม่มีเงิน เพื่อนของเพื่อนจึงได้ติดต่อขอให้ถือเอกสารซึ่งอยู่ในซองไปให้กับบุคคลที่อยู่ในประเทศอิตาลี โดยจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้เป็นการตอบแทน ตนจึงได้เดินทางมาถึงอิตาลีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2542 และเข้าพักที่โรงแรม Luxor ต่อมา นายลือชัย คันธสีโล ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ มารับเอกสารจากตนโดยได้พาคนสัญชาติจีนอีกหนึ่งคนมาพบด้วย ต่อมาตนถูกตำรวจจับกุมที่โรงแรมดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงหนังสือเดินทาง
2 )นายลือชัย คันธสีโล มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตบางเขน กรุงเทพฯ เคยเปิดกิจการร้านอาหาร แต่มีปัญหาภายในจึงต้องปิดกิจการ จึงรับจ้างวานพาคนจีนเดินทางไปส่งที่สหรัฐฯ ผู้จ้างวานได้ขอหนังสือเดินทางของตนไปเพื่อทำวีซ่า แต่ไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า ผู้จ้างวานจึงไม่ได้คืนหนังสือเดินทางมาให้แต่ให้ตนใช้หนังสือเดินทางปลอมแปลงสัญชาติออสเตรเลียแทน ต่อมานายลือชัยฯ จึงได้เดินทางไปประเทศอิตาลี เพื่อเดินทางต่อไปสหรัฐฯพร้อมกับผู้หญิงจีน 1 คน
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2542 ตำรวจอิตาลีได้จับกุมตัวนายลือชัยฯที่สนามบินฟิวมิชิโน ในข้อหาใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยตำรวจยึดหนังสือเดินทางของตนและของผู้หญิงจีน แต่ได้ปล่อยตัวนายลือชัยฯไปก่อน นายลือชัยฯจึงได้โทรศัพท์ไปหาผู้หญิงชื่อ "ติ๊ก" ที่ประเทศไทย นางติ๊กแจ้งว่าได้ส่งคนถือหนังสือเดินทางมาให้ใหม่ นายลือชัยฯ จึงได้ไปหานายอานนท์ฯ ที่โรงแรม Luxor เพื่อรับหนังสือเดินทาง และต่อมาตนถูกตำรวจจับกุมอีกครั้งในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงหนังสือเดินทาง สถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งเพิ่มเติมว่าในขณะนี้ ตำรวจอิตาลีได้กักตัวบุคคลทั้งสองไว้ในเรือนจำและรอการไต่สวนและการพิพากษาอยู่ โดยอาจมีการตัดสินจำคุกและเนรเทศจากอิตาลีต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนให้ระมัดระวังขบวนการข้ามชาติที่นำคนต่างด้าวไป ลักลอบทำงานในต่างประเทศ ซึ่งมักเชื่อมโยงกับขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง จึงไม่ควรรับจ้างหรือรับอาสานำบุคคล สิ่งของ และเอกสารใดๆ ไปต่างประเทศ เพราะอาจถูกจับกุมตัว ติดร่างแหการกระทำความผิดในต่างประเทศโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้--จบ--