มาตรการการคลัง ตามจดหมายแสดงเจตจำนง ฉบับที่ 2

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 25, 1997 11:12 —กระทรวงการคลัง

ตาราง 2 : มาตรการการคลัง (ตามบัญชีเงินคงคลัง)____________________________________________________________________________________ ผลกระทบต่องบประมาณปี 2540/41 พันล้านบาท ร้อยละของ GDP____________________________________________________________________________________ ก. มาตรการที่ใช้ในแผนงานขั้นต้น ตัดลดวงเงินรายจ่ายงบประมาณ 59 1.1 เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 66 1.2 ข. มาตรการที่ ครม. มีมติให้ดำเนินการเมื่อ 14 ตุลาคม 1. ตัดลดวงเงินรายจ่ายงบประมาณ(จากกระทรวง) 1/ 100 1.9 1.1 การบริหาร ป้องกัน และความมั่นคงของประเทศ 22 0.4 1.2 การให้บริการชุมชนและสังคม 28 0.5 1.3 การขนส่งและการสื่อสาร 36 0.7 1.4 อื่น ๆ 15 0.3 2. มาตรการรายได้ 17 0.3 2.1 ภาษีเบียร์ สุรา ยาสูบ 7 0.1 2.2 ภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าฟุ่มเฟือย 10 0.2 ค. มาตรการที่ ครม. มีมติให้ดำเนินการเมื่อ 4 พฤศจิกายน 1. ตัดลดวงเงินรายจ่าย 35 0.7 1.1 ตัดวงเงินรายจ่ายงบประมาณปี 2541 2/ 23 0.4 1.2 การบริหารการใช้จ่าย 3/ 12 0.2 2. มาตรการรายได้ 15 0.3 2.1 ภาษียานยนต์ 7 0.1 2.2 อื่น ๆ 9 0.2____________________________________________________________________________________ 1/ จำนวนตามวงเงินรายจ่ายรัฐบาล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายจ่ายเงินสดเป็นจำนวน 78,000 ล้านบาท (ร้อยละ 1.5 ของ GDP ของปีงบประมาณ) 2/ จำนวนตามวงเงินรายจ่ายรัฐบาล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายจ่ายเงินสดเป็นจำนวน 18,000 ล้านบาท (ร้อยละ 0.3 ของ GDP ของปีงบประมาณ) 3/ การบริหารการใช้จ่ายโดยปรับลดรายจ่ายเหลื่อมปีจำนวน 10,000 ล้านบาท (ร้อยละ 0.2 ของ GDP ของปีงบประมาณ) วงเงินรายจ่ายคำนวณจากการหารตัวเลขดังกล่าวด้วยอัตราเบิกจ่าย (ร้อยละ 82) LOI Box A. การดำเนินการตามประกาศของวันที่ 14 ตุลาคม เรื่อง การฟื้นฟูบริษัทเงินทุน 58 แห่ง ที่ถูกระงับกิจการ________________________________________________________________________________________ มาตรการ วันที่________________________________________________________________________________________ 1. มีการแต่งตั้งประธานและคณะกรรมการ ปรส. ดำเนินการแล้ว เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่มีความรับผิดชอบ หลักและทำสัญญาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ 2.ดำเนินการยกร่างกฎระเบียบและแนวทางการประเมินแผนฟื้นฟูกิจการ ดำเนินการแล้ว ให้แล้วเสร็จและเสนอให้คณะกรรมการ ปรส. อนุมัติ 3. ปรส./ธปท. ตรวจสอบเรื่องการเพิ่มทุนและแหล่งที่มาขอเงินเพื่อการเพิ่มทุน ภายใน 25 พฤศจิกายน 2540 4. คณะอนุกรรมการพิจารณาแผนฟื้นฟูของ ปรส.สรุปผลการพิจารณาแผนฟื้นฟูบริษัทเงิน ภายใน 25-30 พฤศจิกายน 2540 ทุน 58 แห่ง เพื่อให้เปิดดำเนินการหรือให้ควบรวมกิจการหรือสั่งปิดกิจการ คณะกรรมการ ปรส. ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ภายใน 5 ธันวาคม 2540 5. ปรส. ประกาศผลการพิจารณาสถานะของบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับกิจการทั้ง 58 ภายใน 7 ธันวาคม 2540 แห่งเป็น รายสถาบัน และรมต. คลังจัดแถลงข่าว 6. ปรส. กำหนดขั้นตอนการชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการ ภายใน 30พฤศจิกายน 2540 และการโอนหรือขายสินทรัพย์ของบริษัทเงินทุนที่ฟื้นกิจการไม่ได้ 7.มีการแต่งตั้งประธาน คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่หลักในการปฏิบัติงาน ภายใน 30 พฤศจิกายน 2540 ของ บบส. รวมทั้งการจัดให้มีทุนประเดิม และกำหนดแผนการเงิน 8. ยกร่างกฎระเบียบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินงานของ บบส. ให้แล้วเสร็จ ภายใน 31 ธันวาคม 2540 รวมทั้งกำหนดขั้นตอนและวิธีการประเมินราคาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ บบส. จะรับซื้อ 9. ปรส. จำแนกสินทรัพย์ของ บง. ที่ถูกปิดกิจการตามคุณภาพและโอกาสในการขาย ภายใน มกราคม 2541 10. ทบทวนกฎเกณฑ์ในการดำเนินงานของ อบส. ภายใน 31 มกราคม 2541 11. ปรส. เริ่มดำเนินการจำหน่ายหรือโอนสินทรัพย์ ภายในต้นปี 2541 12. ปรส. ดำเนินการจำหน่ายหรือโอนสินทรัพย์ทุกประเภทแล้วเสร็จ ภายใน 31 ธันวาคม 2541 13. คาดว่าบริษัทเงินทุนที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการใหม่จะไม่พึ่งพา ต่อเนื่อง สภาพคล่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินอย่างน้อยที่สุด ภายในปีแรกที่เปิดดำเนินการ หมายเหตุ : ปรส. = องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ธปท. = ธนาคารแห่งประเทศไทย บบส. = บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน อบส. = องค์การบริหารสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ LOI Box B. การปฏิบัติตามประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม สำหรับสถาบันการเงินที่เปิดดำเนินการในปัจจุบัน________________________________________________________________________________________ มาตรการ วันที่________________________________________________________________________________________ 1. อนุญาตให้นำค่าเผื่อหนี้สูญไปหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวนภาษีเงินได้ ดำเนินการแล้ว มีผลบังคับใช้ในปี 2540 2. กำหนดเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับการกู้ยืม ภายใน 15 ธันวาคม 2540 เงินจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 3. ประกาศกฎเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นดังต่อไปนี้ :- กำหนดให้มีการกันสำรองสำหรับสินเชื่อทุกประเภทที่ค้างชำระเกินกว่า 6 เดือน ภายใน 30 พฤศจิกายน 2540 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2540 - ห้ามนำดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า6 เดือนไป คิดเป็นรายได้ ภายใน 30 พฤศจิกายน 2540 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2541 4. ภายใต้หลักการข้างต้นให้จัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกับสถาบันการเงิน ภายใน 31 ธันวาคม 2540 ที่จำเป็นต้องเพิ่มทุนโดย กำหนดตารางเวลาในการเพิ่มทุนให้เพียงพอ (เกณฑ์ปฏิบัติ) 5. เพิ่มความเข้มงวดในการจัดชั้นสินเชื่อ และการกันสำรองอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่มาตรฐานสากลภายในปี 2543- ส่งข้อเสนอให้สถาบันการเงินพิจารณา- รับความเห็นจากสถาบันการเงิน- ประกาศแนวทางปฏิบัติซึ่งรวมถึงเงื่อน เวลาในแต่ละขั้นตอน ภายใน 31 มีนาคม 2541 (เกณฑ์ปฏิบัติ) 6. กำหนดแนวทางในการประเมินคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายใน 31 ธันวาคม 2540 คณะกรรมการและผู้บริหารของสถาบันการเงิน 7. กำหนดหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์ที่เข้มงวด ภายใน 30 พฤศจิกายน 2540 8. ค่าธรรมเนียมการรับประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้- การออกหนังสือเวียน ภายใน 30 พฤศจิกายน 2540- การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับประกัน ภายใน 31 ธันวาคม 2540 9. จัดเตรียมแผนการระยะปานกลางเพื่อให้มีระบบประกันเงินฝากแทน ภายใน 31 ธันวาคม 2541 การรับประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 10. แก้ไขกฎหมายล้มละลายและดำเนินการที่จำเป็น ภายใน 31 มีนาคม 2541 เพื่อร่นระยะเวลาในการบังคับหลักประกัน 11. ชี้แจงและยืนยันข้อกำหนดในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ภายใน 31 ธันวาคม 2541 และการตรวจสอบบัญชีของสถาบันการเงิน_____________________________________________________________________________________________ 1/ ร้อยละ 0.15 ของยอดเงินฝาก และหนี้สินที่ได้รับการประกัน โดยชำระ ณ 31 ธันวาคม 2540 ร้อยละ 0.2 ของยอดเงินฝาก และหนี้สินที่ได้รับการประกัน โดยชำระ ณ 30 มิถุนายน 2541 ร้อยละ 0.2 ของยอดเงินฝาก และหนี้สินที่ได้รับการประกัน โดยชำระ ณ 31 ธันวาคม 2541

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ