ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสาขาธนาคารพาณิชย์ 537 สำนักงาน (รวมสาขาย่อย 56 สำนักงาน) มีเงินฝากคงค้าง 233,325.3 ล้านบาท และสินเชื่อคงค้าง 252,371.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.3 และร้อยละ 0.2 ตามลำดับ ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากทรงตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 108.2
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ได้แก่ สินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรม สินเชื่อเพื่อการรับเหมาก่อสร้าง สินเชื่อเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อเพื่อการบริการ และสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ส่วนสินเชื่อเพื่อการเกษตร และสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ลดลงเล็กน้อย
อัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในภาคลดลงจากเดือนก่อนทั้งเงินฝากและสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.25-1.00 ต่อปี มาอยู่ที่ร้อยละ 5.50-6.50 ต่อปี ขณะที่ MLR ลดลงร้อยละ 0.50-1.25 ต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 11.00-13.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,491.2 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.7 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 18.5 เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 298,240 ฉบับ เป็นเงิน 27,177.1 ล้านบาท จำนวนฉบับทรงตัวจากเดือนก่อน แต่จำนวนเงินสั่งจ่ายลดลงร้อยละ 3.2 โดยมีอัตราส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 2.0 และร้อยละ 1.4 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่ายตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนกว่าเท่าตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด และเริ่มทยอยปลูกพืชฤดูแล้ง ธนาคารออมสินมีเงินรับฝากลดลงร้อยละ 25.6
การจัดเก็บภาษีในภาคลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.1 โดยภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้ลดลงร้อยละ 16.0 ตามภาษีสุราและภาษีเครื่องดื่ม ซึ่งลดลงร้อยละ 15.9 และร้อยละ 24.8 ตามลำดับ
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคปรับตัวลดลงโดยสูงขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 4.4 และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารสูงขึ้นร้อยละ 2.4
การผลิตภาคเกษตร เกษตรกรเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวข้าว ขณะที่ผลผลิตสำคัญอื่น ๆ ยังอยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวและทยอยออกสู่ตลาด ราคาพืชผลส่วนใหญ่ลดลงจากเดือนก่อน
การผลิตนอกภาคเกษตร การขอรับการส่งเสริมการลงทุน การได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนและพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างลดลง ขณะที่สินเชื่อภาคก่อสร้างและสินเชื่อภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 793.6 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 41.6 เป็นการส่งออก 695.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44.2 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทยานพาหนะ และมีการนำเข้า 98.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.4 ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ได้แก่ สินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรม สินเชื่อเพื่อการรับเหมาก่อสร้าง สินเชื่อเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อเพื่อการบริการ และสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ส่วนสินเชื่อเพื่อการเกษตร และสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ลดลงเล็กน้อย
อัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในภาคลดลงจากเดือนก่อนทั้งเงินฝากและสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.25-1.00 ต่อปี มาอยู่ที่ร้อยละ 5.50-6.50 ต่อปี ขณะที่ MLR ลดลงร้อยละ 0.50-1.25 ต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 11.00-13.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,491.2 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.7 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 18.5 เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 298,240 ฉบับ เป็นเงิน 27,177.1 ล้านบาท จำนวนฉบับทรงตัวจากเดือนก่อน แต่จำนวนเงินสั่งจ่ายลดลงร้อยละ 3.2 โดยมีอัตราส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 2.0 และร้อยละ 1.4 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่ายตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนกว่าเท่าตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด และเริ่มทยอยปลูกพืชฤดูแล้ง ธนาคารออมสินมีเงินรับฝากลดลงร้อยละ 25.6
การจัดเก็บภาษีในภาคลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.1 โดยภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้ลดลงร้อยละ 16.0 ตามภาษีสุราและภาษีเครื่องดื่ม ซึ่งลดลงร้อยละ 15.9 และร้อยละ 24.8 ตามลำดับ
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคปรับตัวลดลงโดยสูงขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 4.4 และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารสูงขึ้นร้อยละ 2.4
การผลิตภาคเกษตร เกษตรกรเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวข้าว ขณะที่ผลผลิตสำคัญอื่น ๆ ยังอยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวและทยอยออกสู่ตลาด ราคาพืชผลส่วนใหญ่ลดลงจากเดือนก่อน
การผลิตนอกภาคเกษตร การขอรับการส่งเสริมการลงทุน การได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนและพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างลดลง ขณะที่สินเชื่อภาคก่อสร้างและสินเชื่อภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 793.6 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 41.6 เป็นการส่งออก 695.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44.2 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทยานพาหนะ และมีการนำเข้า 98.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.4 ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-