พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน จันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 125 /2548 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 19-25 ตุลาตม 2548 ในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีฝนฟ้าคะนองทางตอนล่างของภาคในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ส่วนภาคใต้มีร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านตอนล่างของภาคเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทำให้มีฝนหนาแน่นตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำมีกำลังแรงขึ้นและหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะ เข้ามาปกคลุมในบริเวณดังกล่าว ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกร ในบริเวณดังกล่าวควรรักษาสุขภาพด้วย ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมในที่ราบลุ่มของพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้ เหนือ ลักษณอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # เนื่องจากในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. จะมีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นสำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้ง คลุมบริเวณโคนพืชเพื่อสงวนความชื้นในดินและลดอัตราการระเหยสูญเสียน้ำ ตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศา อาจทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันและอาจเจ็บป่วยได้ สำหรับ ผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ ควรเลือกปลูกพืชที่ต้องการน้ำน้อยและอายุการเก็บเกี่ยวสั้นเนื่องจากกำลังเข้าสู่ระยะที่ปริมาณฝนจะลดลง กลาง ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 20% ของพื้นที่ ในระหว่างบ่าย ถึงค่ำ ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร #เนื่องจากระยะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ตะวันออก ลักษณะอากาศ #มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. มีฝนลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # บริเวณที่มีฝนตกทำให้อากาศชื้น ชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับพื้นที่การเกษตรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองควรเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ด้วยเนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง ใต้ ลักษณะอากาศ #ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-70 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไป ในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. มีฝนเกือบทั่วไป 80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. # ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 22-23 ต.ค. มีฝนเกือบทั่วไป 70 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ระยะนี้มีฝนตกชุก พื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มอาจเกิดสภาวะน้ำท่วมได้ เกษตรจึงควรทำคันดินกั้นน้ำและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกตลอดจนขุดลอกคูคลองให้น้ำไหลได้สะดวก สำหรับชาวสวนยางพาราควรระวังการระบาดของโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-