มีสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 523 สำนักงาน (รวมสาขาย่อย 56 สำนักงาน) มีเงินฝากคงค้าง 232,996.5 ล้านบาท และสินเชื่อคงค้าง 250,020.1 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.1 และร้อยละ 0.9 ตามลำดับ ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 107.3 จากเดือนก่อนอยู่ที่ร้อยละ 108.2
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ลดลงเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.0 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ยังคงมีสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 38.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.9
อัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในภาคลดลงจากเดือนก่อนทั้งเงินฝากและสินเชื่อตามการผ่อนคลายนโยบายการเงินของทางการ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 5.50-6.50 ต่อปี เหลือร้อยละ 5.50-5.75 ต่อปี ขณะที่ MLR ลดลงจากร้อยละ 11.00-13.75 ต่อปี เหลือร้อยละ 9.75-12.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,893.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 14.6 แต่ลดลงร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 291,022 ฉบับ เป็นเงิน 24,836.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.4 และร้อยละ 8.6 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่ายตามลำดับ โดยมี
อัตราส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 1.7 และร้อยละ 1.4 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่าย ตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 44.4 เนื่องจากยังคงเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด
การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 36.1 ตามภาษีสุราซึ่งจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 37.1 ขณะที่จัดเก็บภาษีสรรพากรและอากรขาเข้าลดลงเล็กน้อย
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย แต่สูงขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 แต่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารสูงขึ้นร้อยละ 0.2
การผลิตภาคเกษตร ผลผลิตเกษตรออกสู่ตลาดลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะข้าวโพดและมันสำปะหลัง ทำให้ราคาพืชผลสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนราคาข้าวยังคงลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน
การผลิตนอกภาคเกษตร ภาวะการลงทุนไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนอย่างน่าสังเกต ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงรีรอที่จะลงทุนใหม่ อย่างไรก็ตามเริ่มมีโครงการขนาดใหญ่สนใจจะมาลงทุนในภาคมากขึ้น เช่น โครงการผลิตโปแตชจังหวัดอุดรธานี
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 897.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 13.4 เป็นการส่งออก 789.4 ล้านบาท และนำเข้า 108.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 และร้อยละ 10.8 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ลดลงเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.0 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ยังคงมีสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 38.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.9
อัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในภาคลดลงจากเดือนก่อนทั้งเงินฝากและสินเชื่อตามการผ่อนคลายนโยบายการเงินของทางการ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 5.50-6.50 ต่อปี เหลือร้อยละ 5.50-5.75 ต่อปี ขณะที่ MLR ลดลงจากร้อยละ 11.00-13.75 ต่อปี เหลือร้อยละ 9.75-12.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,893.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 14.6 แต่ลดลงร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 291,022 ฉบับ เป็นเงิน 24,836.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.4 และร้อยละ 8.6 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่ายตามลำดับ โดยมี
อัตราส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 1.7 และร้อยละ 1.4 ของจำนวนฉบับและเงินสั่งจ่าย ตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 44.4 เนื่องจากยังคงเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด
การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 36.1 ตามภาษีสุราซึ่งจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 37.1 ขณะที่จัดเก็บภาษีสรรพากรและอากรขาเข้าลดลงเล็กน้อย
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย แต่สูงขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 แต่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารสูงขึ้นร้อยละ 0.2
การผลิตภาคเกษตร ผลผลิตเกษตรออกสู่ตลาดลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะข้าวโพดและมันสำปะหลัง ทำให้ราคาพืชผลสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนราคาข้าวยังคงลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน
การผลิตนอกภาคเกษตร ภาวะการลงทุนไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนอย่างน่าสังเกต ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงรีรอที่จะลงทุนใหม่ อย่างไรก็ตามเริ่มมีโครงการขนาดใหญ่สนใจจะมาลงทุนในภาคมากขึ้น เช่น โครงการผลิตโปแตชจังหวัดอุดรธานี
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 897.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 13.4 เป็นการส่งออก 789.4 ล้านบาท และนำเข้า 108.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 และร้อยละ 10.8 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-