1. สถานการณ์การผลิต
สมาพันธ์ประมงพื้นบ้าน เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการทำประมงปลากะตัก
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตัวแทนสมาพันธ์ประมงพื้นที่บ้านภาคใต้ ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อรัฐบาลขอให้ยกเลิกทำประมงเรือปั่นไฟจับปลากะตัก โดยให้เหตุผลว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการใช้เครื่องมือปั่นไฟจับปลากะตัก โดยใช้แสงไฟล่อส่งผลให้จับปลากะตักได้ปริมาณมากขึ้น และทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำถูกทำลายจนส่งผลให้จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อการประมงพื้นบ้านของภาคใต้ เพราะการทำประมงดังกล่าวจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหาร เนื่องจากเมื่อปลาเห็นแสงไฟในระยะ 2-3 กิโลเมตร จะว่ายมาให้จับได้โดยง่าย จึงอยากให้ยกเลิกวิธีการทำประมงแบบนี้ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศห้ามการทำประมงปลากะตักด้วยวิธีการปั่นไฟในราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด
จากนั้นตัวแทนสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้เข้าพบและเจรจากับนายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข คือ
1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่ 15 มีนาคม 2539
2. ให้กลับไปใช้ประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2526 มีเนื้อหาว่าห้ามทำประมง โดยใช้อวนต่ำกว่า 2.5 เซนติเมตรและห้ามใช้เครื่องปั่นไฟ
3. ให้ออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ห้ามจับปลากะตักโดยใช้เครื่องปั่นไฟในราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด
4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันตรวจจับผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการประมงแห่งชาติในวันที่ 28 มิถุนายนนี้
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 3-9 มิย.42) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,595.50 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 788.50 ตัน สัตว์น้ำจืด 806.97 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 6.50 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 8.01 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 66.67 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 125.49 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 60.03 ตัน
2. สถานการณ์การตลาด
สัปดาห์นี้ราคากุ้งกุลาดำได้ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบที่นำเข้าสู่ตลาด โดยกุ้งกุลาดำขนาด 31.40 ตัว/กก. ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย กก.ละ 242.00 บาท สูงขึ้นจาก กก.ละ 239.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.11 บาท สูงขึ้นจาก 29.82 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.29 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.80 บาท สูงขึ้นจาก 30.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.86 บาท
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.62 บาท ลดลงจาก 53.36 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.74 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 242.00 บาท สูงขึ้นจาก 239.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 247.14 บาท สูงขึ้นจาก 240.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.14 บาท
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.23 บาท สูงขึ้นจาก 20.85 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.38 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 31.71 บาท สูงขึ้นจาก 30.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.71 บาท
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.75 บาท ลดลงจาก 45.75 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท สูงขึ้นจาก 60.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.00 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.20 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58-62.9% (14-18 มิ.ย. 42) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.82 บาท ลดลงจาก 16.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.18 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 23 ประจำวันที่ 14-20 มิ.ย. 2542--
สมาพันธ์ประมงพื้นบ้าน เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการทำประมงปลากะตัก
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตัวแทนสมาพันธ์ประมงพื้นที่บ้านภาคใต้ ได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อรัฐบาลขอให้ยกเลิกทำประมงเรือปั่นไฟจับปลากะตัก โดยให้เหตุผลว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการใช้เครื่องมือปั่นไฟจับปลากะตัก โดยใช้แสงไฟล่อส่งผลให้จับปลากะตักได้ปริมาณมากขึ้น และทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำถูกทำลายจนส่งผลให้จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อการประมงพื้นบ้านของภาคใต้ เพราะการทำประมงดังกล่าวจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหาร เนื่องจากเมื่อปลาเห็นแสงไฟในระยะ 2-3 กิโลเมตร จะว่ายมาให้จับได้โดยง่าย จึงอยากให้ยกเลิกวิธีการทำประมงแบบนี้ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศห้ามการทำประมงปลากะตักด้วยวิธีการปั่นไฟในราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด
จากนั้นตัวแทนสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้เข้าพบและเจรจากับนายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข คือ
1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่ 15 มีนาคม 2539
2. ให้กลับไปใช้ประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2526 มีเนื้อหาว่าห้ามทำประมง โดยใช้อวนต่ำกว่า 2.5 เซนติเมตรและห้ามใช้เครื่องปั่นไฟ
3. ให้ออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ห้ามจับปลากะตักโดยใช้เครื่องปั่นไฟในราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด
4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันตรวจจับผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการประมงแห่งชาติในวันที่ 28 มิถุนายนนี้
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 3-9 มิย.42) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,595.50 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 788.50 ตัน สัตว์น้ำจืด 806.97 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 6.50 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 8.01 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 66.67 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 125.49 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 60.03 ตัน
2. สถานการณ์การตลาด
สัปดาห์นี้ราคากุ้งกุลาดำได้ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบที่นำเข้าสู่ตลาด โดยกุ้งกุลาดำขนาด 31.40 ตัว/กก. ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย กก.ละ 242.00 บาท สูงขึ้นจาก กก.ละ 239.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.11 บาท สูงขึ้นจาก 29.82 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.29 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.80 บาท สูงขึ้นจาก 30.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.86 บาท
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.62 บาท ลดลงจาก 53.36 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.74 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 242.00 บาท สูงขึ้นจาก 239.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 247.14 บาท สูงขึ้นจาก 240.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.14 บาท
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.23 บาท สูงขึ้นจาก 20.85 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.38 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 31.71 บาท สูงขึ้นจาก 30.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.71 บาท
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 43.75 บาท ลดลงจาก 45.75 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท สูงขึ้นจาก 60.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.00 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.20 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58-62.9% (14-18 มิ.ย. 42) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.82 บาท ลดลงจาก 16.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.18 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 23 ประจำวันที่ 14-20 มิ.ย. 2542--