แท็ก
การส่งออก
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--3 มิ.ย.--บิสนิวส์
1. สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
2.1 ข้าว : สถานการณ์ส่งออกข้าว ปี 2541
การส่งออก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2541 ประเทศไทยสามารถ
ส่งออกข้าวไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นปริมาณค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี
ก่อน เห็นได้จากสถิติของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดังนี้
ปริมาณ : ล้านตัน
มูลค่า : ล้านบาท
ปี 2541 ปี 2540 % การเปลี่ยนแปลง
ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า
มกราคม 0.683 9.353 0.378 3.910 80.69 139.21
กุมภาพันธ์ 0.561 8.861 0.288 3.023 94.79 193.12
มีนาคม 0.588 8.484 0.375 3.881 56.80 118.60
เมษายน 0.541 6.743 0.419 4.096 29.17 64.62
1-27 พฤษภาคม 0.374 - 0.326 - 14.72 -
รวม 2.747 - 1.786 - - -
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2541 มีการส่งออกข้าวเป็นปริมาณ 2.747 ล้านตัน มูลค่า
กว่า 33,441 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปริมาณ 1.786 ล้านตัน มูลค่ากว่า 14,910 ล้านบาท
ของช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 63 และ 124 ตาม
ลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงมาก โดยเฉพาะในช่วงต้นปี นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจาก
สถานการณ์การผลิตของประเทศคู่แข่งและผู้นำเข้าที่สำคัญ ดังนี้
1. อินโดนีเซีย ประสบภาวะความแห้งแล้งจากปรากฏการณ์ EL Nino และเกิดไฟป่าทำ
ให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย ประกอบกับผลผลิตออกสู่ตลาดล่าช้า ทำให้ความต้องการนำเข้า
ข้าวมีมาก (ตลอดปี 2541 คาดว่าจะนำเข้า จำนวน 4 ล้านตัน) เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคของ
ประชากรจำนวน 200 ล้านคน และในช่วงเดือน มค.-เมย.2541 อินโดนีเซียได้สั่งซื้อข้าวไทยเป็น
ปริมาณ 0.744 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 8,340.94 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันในปี
ก่อนเกือบ 5 เท่า
2. ฟิลิปปินส์ ผลจากวิกฤตการณ์ EL Nino ทำให้เกิดภาวะความแห้งแล้ง ผลผลิตข้าว
ได้รับความเสียหาย จำเป็นต้องนำเข้าข้าวมากกว่าปกติ ซึ่งวงการค้าข้าวระหว่างประเทศ คาดว่า
จะมีประมาณ 1.5 ล้านตัน เนื่องจากสต็อกข้าวภายในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการบริโภค ซึ่งมี
ปริมาณเฉลี่ย 22,500 ตันต่อวัน
3. เวียดนาม แม้ว่าช่วงต้นปี 2541 จะส่งข้าวออกเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับช่วงระยะ
เวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกเหลือน้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้น
รัฐบาลเวียดนามจึงห้ามการส่งออกไว้ระยะหนึ่ง
4. มาเลเซีย มีการบริโภคข้าวปีละ 1.8 ล้านตัน ต้องอาศัยการนำเข้าข้าวจากต่าง
ประเทศปีละประมาณ 500,000 ตัน ซึ่งร้อยละ 80 นำเข้าจากไทย ในปี 2541 จากการขยายตัว
ของจำนวนประชากรและแรงงานต่างชาติจะทำให้ความต้องการนำเข้าข้าวมีมากขึ้น
ราคาส่งออก ในรูปของเงินบาท ได้เริ่มโน้มสูงขึ้นมาก ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2540
และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2541 ตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท ตลอดจนความต้องการของตลาด
โลก โดยในเดือนเมษายน 2541 ราคาส่งออกเอฟ.โอ.บี. ข้าวสารเจ้า 5% ตันละ 12,474 บาท
เทียบกับตันละ 9,088 บาท ของช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ราคาส่งออกสูงขึ้นตันละ 3,386
บาท
แนวโน้มการส่งออกข้าว ปริมาณการส่งออก คาดว่าจะอยู่ในระดับ 400,000 -500,000 ตัน
ต่อเดือน เนื่องจากความต้องการข้าวของตลาดโลกยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศอินโด
นีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมไปถึงตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้จากการที่เวียดนามระงับ
การส่งออกข้าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2541 เป็นต้นมา รวมทั้งมีรายงานข่าวว่าอินโดนีเซียมีสต็อกข้าว
ลดลง และจะนำเข้าอีกจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม นี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออก
ข้าวของประเทศไทยอย่างแน่นอน
จากสถานการณ์การส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการอีก
เป็นจำนวนมากดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ในระดับราคาที่ดีต่อไปอีก โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ข้าวนาปรัง ซึ่งปกติจะมีปัญหาราคาตกต่ำเป็นประจำทุกปี
2.2 กุ้งทะเล : ความสำเร็จในการแก้ปัญหาส่งออกกุ้งทะเลไปยังสหรัฐอเมริกา
กรณีสหรัฐอเมริการะงับการนำเข้ากุ้งทะเลจาก 56 ประเทศ ที่ไม่ใช้เครื่องมือแยกเต่า
ทะเล (Turtle Excluder Device :TED) ออกจากอวนลากกุ้ง ซึ่งรวมทั้งประเทศไทย ตั้งแต่
วันที่ 1 พฤษภาคม 2539
ทั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้นำเอาข้อบังคับตามกฏหมายสหรัฐฯมาบังคับใช้ตามมาตรา 609
ของกฏหมาย Public law 101-162 ที่กำหนดให้กุ้งหรือผลิตภัณฑ์ ซึ่งจับโดยเครื่องมือที่อาจจะส่ง
ผลกระทบต่อพันธุ์เต่าทะเลจะไม่สามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาได้ ถ้าหากประธานาธิบดี
ไม่รับรองเป็นหลักฐานไว้กับรัฐสภาสหรัฐฯ และการรับรองนี้จะต้องทำเป็นประจำทุกปี
ข้อบังคับตามมาตรา 609 ของกฏหมาย Public law 101-162 กำหนดให้
(1) ประเทศผู้จับกุ้งทะเลต้องมีกฏหมายหรือโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล
(2) อัตราเฉลี่ยของโอกาสการติดเต่าทะเลจากการจับกุ้งจะต้องเท่าเทียมกับของสหรัฐอเมริกา
(3) การจับกุ้งทะเลจะต้องไม่เป็นภัยคุกคามต่อเต่าทะเล
สำหรับประเทศไทย หลังจากที่สหรัฐฯได้ระงับการนำเข้ากุ้งทะเล เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
2539 หน่วยงานของไทยทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามดำเนินการในหลายกรณีเพื่อให้
สหรัฐฯ ยอมรับว่าประเทศไทยมีโครงการหรือกฏหมายคุ้มครองเต่าทะเลเทียบเท่าสหรัฐฯ และใน
ที่สุดสหรัฐฯ ได้ถอนชื่อประเทศไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกห้ามนำกุ้งเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 8
พฤศจิกายน 2539
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ นำกฏหมายภายในของตนออกมาใช้นอกอาณาเขต
ซึ่งเป็นการกีดกันทางการค้าได้อีก ประเทศไทยอินเดีย มาเลเซีย และปากีสถาน ได้ร่วมกันยื่นฟ้อง
สหรัฐฯ ต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2539 และการพิจารณาของ
คณะกรรมาธิการขององค์การการค้าโลก (WTO) ภายหลังที่ได้ทำการศึกษาข้อเท็จจริงต่าง ๆ แล้ว
ได้ตัดสินว่ากฏหมายห้ามนำเข้ากุ้งทะเลของสหรัฐฯ ละเมิดกฏเกณฑ์การค้าโลก เป็นการกีดกันทาง
การค้าอย่างไม่เป็นธรรมเพราะชาติใด ๆ ไม่มีสิทธิแบ่งแยกสินค้านำเข้าจากชาติอื่น ๆ ซึ่งผลิตขึ้น
ตามนโยบายหรือวิถีทางของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2541 รัฐสภาสหรัฐฯ โดยการเสนอบัญชีรายชื่อประเทศ
ผู้นำเข้ากุ้งสู่สหรัฐอเมริกาของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรองประเทศต่าง ๆ 39 ประเทศ
รวมทั้งประเทศไทย ว่าปฏิบัติถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฏหมายดังกล่าวโดยแยกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
(1) ประเทศที่ได้รับการร้องว่ามีการติดตั้งเครื่องมือคัดแยกเต่าทะเล (TED) ออกจาก
อวนลากกุ้งมี 16 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน อินโดนีเซีย โคลัมเบีย อีควาดอร์ เอลซัลวาดอร์
ฮอนดูรัส เบลิช ออสตาริกา กัวเตมาลา กายอานา เม็กซิโก นิคารากัว ปานามา ซูรินัม
ตรินิแดด และโทมาโก
(2) ประเทศที่มีวิธีการจับกุ้งโดยใช้แรงงานคนมากกว่าเครื่องมือมี 7 ประเทศ ได้แก่
สาธารณรัฐโดมินิกัน ฟิจิ ไฮติ จาไมกา โอมาน เปรู และศรีลังกา
(3) ประเทศซึ่งจับกุ้งในน่านน้ำเย็นมี 16 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เบลเยี่ยม
คานาดา ชิลี ฟินแลนด์ เยอรมัน ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์
รัสเซีย สวีเดน อังกฤษ และอุรุกวัย
ข้อคิดเห็น
1. การตัดสินดังกล่าวของ WTO นับว่าเป็นความสำเร็จของประเทศกำลังพัฒนา ในการ
ป้องกันมิให้ประเทศที่พัฒนาแล้ว มีการนำกฏหมายและมาตรการภายในมาบังคับใช้กับประเทศอื่น ๆ
ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือแรงงานก็ตาม
2. การที่ประเทศไทยมีชื่ออยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการติดตั้งเครื่องมือคัดแยกเต่าทะเล
(TED) จะส่งผลดีต่อการส่งออกกุ้งทะเลของไทยทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งมัก
จะนำเอามาตรการใหม่ ๆ มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกีดกันการค้าอยู่เสมอมา ในขณะเดียวกัน กรม
ประมงของไทยเองจะต้องติดตามและประเมินผลการใช้เครื่องมือ TED ของเรือประมงไทยต่อไป
เพื่อไม่ให้มีการละเลยหรือยกเลิกการใช้ เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้อีก
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 25-31 พ.ค. 2541--
1. สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
2.1 ข้าว : สถานการณ์ส่งออกข้าว ปี 2541
การส่งออก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2541 ประเทศไทยสามารถ
ส่งออกข้าวไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นปริมาณค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี
ก่อน เห็นได้จากสถิติของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดังนี้
ปริมาณ : ล้านตัน
มูลค่า : ล้านบาท
ปี 2541 ปี 2540 % การเปลี่ยนแปลง
ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า
มกราคม 0.683 9.353 0.378 3.910 80.69 139.21
กุมภาพันธ์ 0.561 8.861 0.288 3.023 94.79 193.12
มีนาคม 0.588 8.484 0.375 3.881 56.80 118.60
เมษายน 0.541 6.743 0.419 4.096 29.17 64.62
1-27 พฤษภาคม 0.374 - 0.326 - 14.72 -
รวม 2.747 - 1.786 - - -
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2541 มีการส่งออกข้าวเป็นปริมาณ 2.747 ล้านตัน มูลค่า
กว่า 33,441 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปริมาณ 1.786 ล้านตัน มูลค่ากว่า 14,910 ล้านบาท
ของช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 63 และ 124 ตาม
ลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงมาก โดยเฉพาะในช่วงต้นปี นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจาก
สถานการณ์การผลิตของประเทศคู่แข่งและผู้นำเข้าที่สำคัญ ดังนี้
1. อินโดนีเซีย ประสบภาวะความแห้งแล้งจากปรากฏการณ์ EL Nino และเกิดไฟป่าทำ
ให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย ประกอบกับผลผลิตออกสู่ตลาดล่าช้า ทำให้ความต้องการนำเข้า
ข้าวมีมาก (ตลอดปี 2541 คาดว่าจะนำเข้า จำนวน 4 ล้านตัน) เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคของ
ประชากรจำนวน 200 ล้านคน และในช่วงเดือน มค.-เมย.2541 อินโดนีเซียได้สั่งซื้อข้าวไทยเป็น
ปริมาณ 0.744 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 8,340.94 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันในปี
ก่อนเกือบ 5 เท่า
2. ฟิลิปปินส์ ผลจากวิกฤตการณ์ EL Nino ทำให้เกิดภาวะความแห้งแล้ง ผลผลิตข้าว
ได้รับความเสียหาย จำเป็นต้องนำเข้าข้าวมากกว่าปกติ ซึ่งวงการค้าข้าวระหว่างประเทศ คาดว่า
จะมีประมาณ 1.5 ล้านตัน เนื่องจากสต็อกข้าวภายในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการบริโภค ซึ่งมี
ปริมาณเฉลี่ย 22,500 ตันต่อวัน
3. เวียดนาม แม้ว่าช่วงต้นปี 2541 จะส่งข้าวออกเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับช่วงระยะ
เวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกเหลือน้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้น
รัฐบาลเวียดนามจึงห้ามการส่งออกไว้ระยะหนึ่ง
4. มาเลเซีย มีการบริโภคข้าวปีละ 1.8 ล้านตัน ต้องอาศัยการนำเข้าข้าวจากต่าง
ประเทศปีละประมาณ 500,000 ตัน ซึ่งร้อยละ 80 นำเข้าจากไทย ในปี 2541 จากการขยายตัว
ของจำนวนประชากรและแรงงานต่างชาติจะทำให้ความต้องการนำเข้าข้าวมีมากขึ้น
ราคาส่งออก ในรูปของเงินบาท ได้เริ่มโน้มสูงขึ้นมาก ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2540
และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2541 ตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท ตลอดจนความต้องการของตลาด
โลก โดยในเดือนเมษายน 2541 ราคาส่งออกเอฟ.โอ.บี. ข้าวสารเจ้า 5% ตันละ 12,474 บาท
เทียบกับตันละ 9,088 บาท ของช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ราคาส่งออกสูงขึ้นตันละ 3,386
บาท
แนวโน้มการส่งออกข้าว ปริมาณการส่งออก คาดว่าจะอยู่ในระดับ 400,000 -500,000 ตัน
ต่อเดือน เนื่องจากความต้องการข้าวของตลาดโลกยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศอินโด
นีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมไปถึงตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้จากการที่เวียดนามระงับ
การส่งออกข้าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2541 เป็นต้นมา รวมทั้งมีรายงานข่าวว่าอินโดนีเซียมีสต็อกข้าว
ลดลง และจะนำเข้าอีกจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม นี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออก
ข้าวของประเทศไทยอย่างแน่นอน
จากสถานการณ์การส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการอีก
เป็นจำนวนมากดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ในระดับราคาที่ดีต่อไปอีก โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ข้าวนาปรัง ซึ่งปกติจะมีปัญหาราคาตกต่ำเป็นประจำทุกปี
2.2 กุ้งทะเล : ความสำเร็จในการแก้ปัญหาส่งออกกุ้งทะเลไปยังสหรัฐอเมริกา
กรณีสหรัฐอเมริการะงับการนำเข้ากุ้งทะเลจาก 56 ประเทศ ที่ไม่ใช้เครื่องมือแยกเต่า
ทะเล (Turtle Excluder Device :TED) ออกจากอวนลากกุ้ง ซึ่งรวมทั้งประเทศไทย ตั้งแต่
วันที่ 1 พฤษภาคม 2539
ทั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้นำเอาข้อบังคับตามกฏหมายสหรัฐฯมาบังคับใช้ตามมาตรา 609
ของกฏหมาย Public law 101-162 ที่กำหนดให้กุ้งหรือผลิตภัณฑ์ ซึ่งจับโดยเครื่องมือที่อาจจะส่ง
ผลกระทบต่อพันธุ์เต่าทะเลจะไม่สามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาได้ ถ้าหากประธานาธิบดี
ไม่รับรองเป็นหลักฐานไว้กับรัฐสภาสหรัฐฯ และการรับรองนี้จะต้องทำเป็นประจำทุกปี
ข้อบังคับตามมาตรา 609 ของกฏหมาย Public law 101-162 กำหนดให้
(1) ประเทศผู้จับกุ้งทะเลต้องมีกฏหมายหรือโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล
(2) อัตราเฉลี่ยของโอกาสการติดเต่าทะเลจากการจับกุ้งจะต้องเท่าเทียมกับของสหรัฐอเมริกา
(3) การจับกุ้งทะเลจะต้องไม่เป็นภัยคุกคามต่อเต่าทะเล
สำหรับประเทศไทย หลังจากที่สหรัฐฯได้ระงับการนำเข้ากุ้งทะเล เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
2539 หน่วยงานของไทยทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามดำเนินการในหลายกรณีเพื่อให้
สหรัฐฯ ยอมรับว่าประเทศไทยมีโครงการหรือกฏหมายคุ้มครองเต่าทะเลเทียบเท่าสหรัฐฯ และใน
ที่สุดสหรัฐฯ ได้ถอนชื่อประเทศไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกห้ามนำกุ้งเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 8
พฤศจิกายน 2539
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ นำกฏหมายภายในของตนออกมาใช้นอกอาณาเขต
ซึ่งเป็นการกีดกันทางการค้าได้อีก ประเทศไทยอินเดีย มาเลเซีย และปากีสถาน ได้ร่วมกันยื่นฟ้อง
สหรัฐฯ ต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2539 และการพิจารณาของ
คณะกรรมาธิการขององค์การการค้าโลก (WTO) ภายหลังที่ได้ทำการศึกษาข้อเท็จจริงต่าง ๆ แล้ว
ได้ตัดสินว่ากฏหมายห้ามนำเข้ากุ้งทะเลของสหรัฐฯ ละเมิดกฏเกณฑ์การค้าโลก เป็นการกีดกันทาง
การค้าอย่างไม่เป็นธรรมเพราะชาติใด ๆ ไม่มีสิทธิแบ่งแยกสินค้านำเข้าจากชาติอื่น ๆ ซึ่งผลิตขึ้น
ตามนโยบายหรือวิถีทางของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2541 รัฐสภาสหรัฐฯ โดยการเสนอบัญชีรายชื่อประเทศ
ผู้นำเข้ากุ้งสู่สหรัฐอเมริกาของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรองประเทศต่าง ๆ 39 ประเทศ
รวมทั้งประเทศไทย ว่าปฏิบัติถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฏหมายดังกล่าวโดยแยกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
(1) ประเทศที่ได้รับการร้องว่ามีการติดตั้งเครื่องมือคัดแยกเต่าทะเล (TED) ออกจาก
อวนลากกุ้งมี 16 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน อินโดนีเซีย โคลัมเบีย อีควาดอร์ เอลซัลวาดอร์
ฮอนดูรัส เบลิช ออสตาริกา กัวเตมาลา กายอานา เม็กซิโก นิคารากัว ปานามา ซูรินัม
ตรินิแดด และโทมาโก
(2) ประเทศที่มีวิธีการจับกุ้งโดยใช้แรงงานคนมากกว่าเครื่องมือมี 7 ประเทศ ได้แก่
สาธารณรัฐโดมินิกัน ฟิจิ ไฮติ จาไมกา โอมาน เปรู และศรีลังกา
(3) ประเทศซึ่งจับกุ้งในน่านน้ำเย็นมี 16 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เบลเยี่ยม
คานาดา ชิลี ฟินแลนด์ เยอรมัน ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์
รัสเซีย สวีเดน อังกฤษ และอุรุกวัย
ข้อคิดเห็น
1. การตัดสินดังกล่าวของ WTO นับว่าเป็นความสำเร็จของประเทศกำลังพัฒนา ในการ
ป้องกันมิให้ประเทศที่พัฒนาแล้ว มีการนำกฏหมายและมาตรการภายในมาบังคับใช้กับประเทศอื่น ๆ
ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือแรงงานก็ตาม
2. การที่ประเทศไทยมีชื่ออยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการติดตั้งเครื่องมือคัดแยกเต่าทะเล
(TED) จะส่งผลดีต่อการส่งออกกุ้งทะเลของไทยทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งมัก
จะนำเอามาตรการใหม่ ๆ มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกีดกันการค้าอยู่เสมอมา ในขณะเดียวกัน กรม
ประมงของไทยเองจะต้องติดตามและประเมินผลการใช้เครื่องมือ TED ของเรือประมงไทยต่อไป
เพื่อไม่ให้มีการละเลยหรือยกเลิกการใช้ เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้อีก
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 25-31 พ.ค. 2541--