1. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ภาวะการผลิตข้าวโพดรุ่น 1 ปี 2542/43 เกษตรกรเพาะปลูกเสร็จสิ้นแล้ว เกษตรกรบางรายที่ปลูกก่อนเริ่มเก็บเกี่ยวแล้วประมาณร้อยละ 3 - 5 ของผลผลิต ขณะนี้ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % ในเดือนสิงหาคมมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.34 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 4.79 บาทของเดือนกรกฎาคมร้อยละ 9.39 คาดว่าราคาข้าวโพดจะโน้มต่ำลงอีกหลังจากที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนกันยายน-ตุลาคมจะมีผลผลิตออกมากที่สุดประมาณร้อยละ 60ของผลผลิตซึ่งเกษตรกรจะได้รับความเดือดร้อนจากราคาตกต่ำ
จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชนได้มีการประชุมหารือเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการด่วน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่าควรนำมาตรการรับจำนำข้าวโพดมาใช้อีกเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และได้นำเสนอในที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาช่วยเหลือด้านราคาและการตลาดสินค้าเกษตร เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2542 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการแทรกแซงตลาดข้าวโพดด้วยการรับจำนำ ซึ่งมีสาระเดียวกันดังนี้
1) กำหนดราคาเป้าหมายนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5 % ณ แหล่งผลิต กิโลกรัมละ 4.00 บาท
2) ปริมาณรับจำนำข้าวโพดทั้งหมด 500,000 ตัน ให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) รับจำนำจากเกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉางจำนวน 250,000 ตัน และ 150,000 ตัน ตามลำดับ และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำจากเกษตรกรที่มียุ้งฉางเป็นของตนเองจำนวน100,000 ตัน
3) ระยะเวลารับจำนำและชำระคืนเงินกู้เริ่มหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 1 วัน ถึง 31 ธันวาคม 2542 กำหนดไถ่ถอนให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนับถัดจากเดือนที่รับจำนำ
4) ค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ต้องชดเชยให้เบิกจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งประมาณการเบื้องต้นว่ามีทั้งสิ้น 146.66 ล้านบาท
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน และข้าวโพดชนิดความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัม 4.37 บาทเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.30 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.60
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา ส่วนราคาขายส่งที่ไซโลรับซื้อ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาส่งออก เอฟ โอ บี สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
จีนส่งเสริมให้มีการส่งออกข้าวโพดเพื่อลดผลิตภายในประเทศ
มีรายงานข่าวจาก HONG KONG แจ้งว่าราคาส่งออกของจีนนั้นอยู่ในระดับต่ำซึ่งจีนได้เสนอขายข้าวโพดที่ราคา FOB ของจีนอยู่ที่ 97 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน (3,672.42 บาท/ ตัน) ปัจจัยผลักดันที่ทำให้จีนต้องขายข้าวโพด ก็เพื่อต้องการที่จะลด Stock ของข้าวโพดที่มีอยู่มากภายในประเทศก่อนที่ผลผลิตข้าวโพดฤดูใหม่จะออกมาในปีนี้ แต่จีนก็ได้ขายข้าวโพดเพิ่มขึ้นในเอเซีย ซึ่งมีความต้องการข้าวโพดจำนวน 10 ล้านตัน จีนสามารถขายได้เพียง 5-8 ล้านตัน สำหรับราคาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าของสหรัฐฯ ได้สูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องมาจากภาวะอากาศร้อนและแห้งแล้งทำให้ผลผลิตข้าวโพดสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย
ในปี 2542 คาดว่าจีนได้ขายข้าวโพดอยู่ระหว่าง 3.5 - 4 ล้านตัน ส่วนในปี 2541 จีนได้ขายข้าวโพดจำนวน 4.4 ล้านตัน ซึ่งลดลง 0.65 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 14.77
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนกันยายน ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 ในสัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 224.15 เซนต์ (3,341.07 บาท/ตัน) เทียบกับบุชเชลละ 212.55 เซนต์ (3,123.82 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.46
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 9 - 15 ส.ค. 2542--
ภาวะการผลิตข้าวโพดรุ่น 1 ปี 2542/43 เกษตรกรเพาะปลูกเสร็จสิ้นแล้ว เกษตรกรบางรายที่ปลูกก่อนเริ่มเก็บเกี่ยวแล้วประมาณร้อยละ 3 - 5 ของผลผลิต ขณะนี้ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % ในเดือนสิงหาคมมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.34 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 4.79 บาทของเดือนกรกฎาคมร้อยละ 9.39 คาดว่าราคาข้าวโพดจะโน้มต่ำลงอีกหลังจากที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนกันยายน-ตุลาคมจะมีผลผลิตออกมากที่สุดประมาณร้อยละ 60ของผลผลิตซึ่งเกษตรกรจะได้รับความเดือดร้อนจากราคาตกต่ำ
จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชนได้มีการประชุมหารือเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการด่วน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่าควรนำมาตรการรับจำนำข้าวโพดมาใช้อีกเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และได้นำเสนอในที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาช่วยเหลือด้านราคาและการตลาดสินค้าเกษตร เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2542 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการแทรกแซงตลาดข้าวโพดด้วยการรับจำนำ ซึ่งมีสาระเดียวกันดังนี้
1) กำหนดราคาเป้าหมายนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5 % ณ แหล่งผลิต กิโลกรัมละ 4.00 บาท
2) ปริมาณรับจำนำข้าวโพดทั้งหมด 500,000 ตัน ให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) รับจำนำจากเกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉางจำนวน 250,000 ตัน และ 150,000 ตัน ตามลำดับ และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำจากเกษตรกรที่มียุ้งฉางเป็นของตนเองจำนวน100,000 ตัน
3) ระยะเวลารับจำนำและชำระคืนเงินกู้เริ่มหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 1 วัน ถึง 31 ธันวาคม 2542 กำหนดไถ่ถอนให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนับถัดจากเดือนที่รับจำนำ
4) ค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ต้องชดเชยให้เบิกจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งประมาณการเบื้องต้นว่ามีทั้งสิ้น 146.66 ล้านบาท
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน และข้าวโพดชนิดความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัม 4.37 บาทเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.30 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.60
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา ส่วนราคาขายส่งที่ไซโลรับซื้อ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาส่งออก เอฟ โอ บี สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
จีนส่งเสริมให้มีการส่งออกข้าวโพดเพื่อลดผลิตภายในประเทศ
มีรายงานข่าวจาก HONG KONG แจ้งว่าราคาส่งออกของจีนนั้นอยู่ในระดับต่ำซึ่งจีนได้เสนอขายข้าวโพดที่ราคา FOB ของจีนอยู่ที่ 97 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน (3,672.42 บาท/ ตัน) ปัจจัยผลักดันที่ทำให้จีนต้องขายข้าวโพด ก็เพื่อต้องการที่จะลด Stock ของข้าวโพดที่มีอยู่มากภายในประเทศก่อนที่ผลผลิตข้าวโพดฤดูใหม่จะออกมาในปีนี้ แต่จีนก็ได้ขายข้าวโพดเพิ่มขึ้นในเอเซีย ซึ่งมีความต้องการข้าวโพดจำนวน 10 ล้านตัน จีนสามารถขายได้เพียง 5-8 ล้านตัน สำหรับราคาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าของสหรัฐฯ ได้สูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องมาจากภาวะอากาศร้อนและแห้งแล้งทำให้ผลผลิตข้าวโพดสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย
ในปี 2542 คาดว่าจีนได้ขายข้าวโพดอยู่ระหว่าง 3.5 - 4 ล้านตัน ส่วนในปี 2541 จีนได้ขายข้าวโพดจำนวน 4.4 ล้านตัน ซึ่งลดลง 0.65 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 14.77
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนกันยายน ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 ในสัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 224.15 เซนต์ (3,341.07 บาท/ตัน) เทียบกับบุชเชลละ 212.55 เซนต์ (3,123.82 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.46
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 9 - 15 ส.ค. 2542--