พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน จันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 121 /2548 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 10-16 ตุลาตม 2548 ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีฝน ฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจายในระหว่างบ่ายถึงค่ำ สำหรับร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านภาคใต้ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรในช่วงวันที่ 12 — 13 ต.ค. ความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 14 — 16 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา โดยจะมีอากาศเย็นและมีฝน ฟ้าคะนองส่วนมากในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ข้อควรระวัง ในระยะนี้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นลงอีกและมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรป้องกันการระมัดระวังในการ เดินเรือ ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้ เหนือ ลักษณอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝน 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ระยะนี้อุณหภูมิจะลดลง ทำให้มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ยานพาหนะขณะผ่านบริเวณที่มีหมอก รวมทั้งควรทำแผงกำบังลมหนาวในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้ด้วย ตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีลมแรง กับมีฝน 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในระหว่าง บ่ายถึงค่ำ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 12-13 ต.ค. จะมีฝน 30-40 % ของพื้นที่ ทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ระยะนี้อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ส่วนชาวไร่ข้าวโพดควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง กลาง ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 20-30 % ของพื้นที่ กับมีลมแรงบางแห่งในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ต่อจากนั้นจะมีฝน ลดลงอยู่ในเกณฑ์ 10-20 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร #เนื่องจากระยะนี้อากาศชื้นโดยเฉพาะในตอนเช้า สำหรับพืชผักที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรระวังและ ป้องกันการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรคแอนแทรกโนสในพริก และโรคเน่าเละในผักตระกูลกะหล่ำ ตะวันออก ลักษณะอากาศ # ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 30-60 % ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมแรงบางแห่ง ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ต่อจากนั้นจะมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อาจทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะ เป็นสาเหตุทำให้กุ้งอ่อนแอและตายได้ ดังนั้นเกษตรกรจึงควรเปิดเครื่องตีน้ำบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหาย จากสภาวะดังกล่าว ใต้ ลักษณะอากาศ # ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง 60-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวนความเร็ว 20-40 กม./ชม. # ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ระยะนี้มีฝนตกชุก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณที่ราบลุ่มบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหาย จากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำในยางพาราและโรคราสีชมพูในลองกอง ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและตาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-