กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสกญ. ณ นครโฮจิมินห์ ว่าเมื่อ 17 มิถุนายน 2543 นายเฉลิมพล ทันจิตต์กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้เดินทางไปจังหวัดหวุงเตาของเวียดนามเพื่อร่วมเป็นประธานในพิธีส่งมอบเรือประมงไทยงวดแรกจำนวน 5 ลำ จากจำนวนทั้งหมด 25 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติให้บริษัท East Sea Corporation ( Bien Dong ) และ บริษัท Halong Fishing Corporation (ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กระทรวงประมงเวียดนาม) เช่าจากบริษัท Thai Leamthong Growing Fisheries Co.Ltd. จากจังหวัดปัตตานี เพื่อทำประมงในน่านน้ำเวียดนาม โดยมีนายหว่าง วัน ปาน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลเป็นตัวแทนกระทรวงประมงแห่งเวียดนาม นอกจากทางเวียดนามจะเช่าเรือประมงไทยแล้ว ยังได้ว่าจ้างไต้ก๋ง/บุคลากรไทยประจำเรือลำละ 4 คนอีกด้วย กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนด้วยว่า ทางการไทยได้ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ และผลักดันให้ฝ่ายเวียดนามในหลายโอกาส อาทิ
ในโอกาสการเยือนเวียดนามของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพบปะหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงประมงเวียดนามในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2543 และการพบปะหารือระหว่างดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามในโอกาสที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2543 ณ กรุงเทพฯ และในการพบหารือระหว่าง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีเวียดนามในโอกาสที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 มีนาคม 2543 โดยฝ่ายไทยขอให้ทางการเวียดนามพิจารณาสนับสนุนแนวทางความร่วมมือดังกล่าวด้วยดี ซึ่งจะเป็นการช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีการทำประมง น้ำลึกด้วย
รวมทั้งขอให้เวียดนามพิจารณาเช่าเรือประมงไทยเพิ่มเติมพร้อมบุคลากรประจำเรือที่มีประสบการณ์ด้วยเพื่อให้การทำประมงได้เต็มที่ การที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติให้บริษัทประมงเวียดนามเช่าเรือประมงจากไทยเพื่อทำประมงในเวียดนามนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของความร่วมมือด้านประมงไทย-เวียดนาม ทั้งนี้ไทยเป็นประเทศแรกที่ประสบความสำเร็จในการทำสัญญาเช่าเรือประมงในลักษณะดังกล่าวกับ เวียดนาม เมื่อคำนึงถึงทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของเวียดนาม และประสบการณ์และเทคโนโลยีในการทำประมงน้ำลึกของไทยแล้ว การเช่าเรือประมงไทยพร้อมบุคลากรที่มีประสบการณ์ ดังกล่าวนับเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญสำหรับความร่วมมือด้านประมงอื่นๆ
ภายหลังจากที่ความร่วมมือด้านประมงไทย-เวียดนามได้ชะงักงันไปเมื่อเวียดนามประกาศยกเลิกการให้สัมปทานแก่ต่างชาติเพื่อทำประมงในเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคม 2537 ในอนาคต คาดว่าเวียดนามจะเช่าเรือประมงจากไทยเพิ่มมากขึ้นและจะขยายความร่วมมือด้านประมงอื่นๆต่อไป อาทิ โรงแช่แข็ง โรงงานผลิตอาหารทะเล โรงงานแปรรูปผลิตประมง ซึ่งจะเป็นหนทางที่ทำให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมประมงเพื่อการส่งออกใน เวียดนามในลักษณะครบวงจรมากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสกญ. ณ นครโฮจิมินห์ ว่าเมื่อ 17 มิถุนายน 2543 นายเฉลิมพล ทันจิตต์กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้เดินทางไปจังหวัดหวุงเตาของเวียดนามเพื่อร่วมเป็นประธานในพิธีส่งมอบเรือประมงไทยงวดแรกจำนวน 5 ลำ จากจำนวนทั้งหมด 25 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติให้บริษัท East Sea Corporation ( Bien Dong ) และ บริษัท Halong Fishing Corporation (ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กระทรวงประมงเวียดนาม) เช่าจากบริษัท Thai Leamthong Growing Fisheries Co.Ltd. จากจังหวัดปัตตานี เพื่อทำประมงในน่านน้ำเวียดนาม โดยมีนายหว่าง วัน ปาน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลเป็นตัวแทนกระทรวงประมงแห่งเวียดนาม นอกจากทางเวียดนามจะเช่าเรือประมงไทยแล้ว ยังได้ว่าจ้างไต้ก๋ง/บุคลากรไทยประจำเรือลำละ 4 คนอีกด้วย กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนด้วยว่า ทางการไทยได้ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ และผลักดันให้ฝ่ายเวียดนามในหลายโอกาส อาทิ
ในโอกาสการเยือนเวียดนามของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพบปะหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงประมงเวียดนามในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2543 และการพบปะหารือระหว่างดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามในโอกาสที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2543 ณ กรุงเทพฯ และในการพบหารือระหว่าง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีเวียดนามในโอกาสที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 มีนาคม 2543 โดยฝ่ายไทยขอให้ทางการเวียดนามพิจารณาสนับสนุนแนวทางความร่วมมือดังกล่าวด้วยดี ซึ่งจะเป็นการช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีการทำประมง น้ำลึกด้วย
รวมทั้งขอให้เวียดนามพิจารณาเช่าเรือประมงไทยเพิ่มเติมพร้อมบุคลากรประจำเรือที่มีประสบการณ์ด้วยเพื่อให้การทำประมงได้เต็มที่ การที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติให้บริษัทประมงเวียดนามเช่าเรือประมงจากไทยเพื่อทำประมงในเวียดนามนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของความร่วมมือด้านประมงไทย-เวียดนาม ทั้งนี้ไทยเป็นประเทศแรกที่ประสบความสำเร็จในการทำสัญญาเช่าเรือประมงในลักษณะดังกล่าวกับ เวียดนาม เมื่อคำนึงถึงทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของเวียดนาม และประสบการณ์และเทคโนโลยีในการทำประมงน้ำลึกของไทยแล้ว การเช่าเรือประมงไทยพร้อมบุคลากรที่มีประสบการณ์ ดังกล่าวนับเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญสำหรับความร่วมมือด้านประมงอื่นๆ
ภายหลังจากที่ความร่วมมือด้านประมงไทย-เวียดนามได้ชะงักงันไปเมื่อเวียดนามประกาศยกเลิกการให้สัมปทานแก่ต่างชาติเพื่อทำประมงในเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคม 2537 ในอนาคต คาดว่าเวียดนามจะเช่าเรือประมงจากไทยเพิ่มมากขึ้นและจะขยายความร่วมมือด้านประมงอื่นๆต่อไป อาทิ โรงแช่แข็ง โรงงานผลิตอาหารทะเล โรงงานแปรรูปผลิตประมง ซึ่งจะเป็นหนทางที่ทำให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมประมงเพื่อการส่งออกใน เวียดนามในลักษณะครบวงจรมากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-