กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (6 มิถุนายน 2544) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีแบบเรียนของพม่ามีเนื้อหาในด้านลบต่อประเทศไทยว่า การทำให้เยาวชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงของประเทศเพื่อนบ้านนั้น ไม่เป็นสิ่งที่ดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนของประเทศทั้งสอง และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนนั้น คนไทยทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชนขยันทำงานอย่างยิ่ง และประเทศชาติก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี มีเสถียรภาพและความมั่นคง
เนื้อหาในแบบเรียนพม่าเป็นเรื่องของการตีความ ซึ่งฝ่ายไทยเห็นว่าไม่ถูกต้อง และเมื่อพบกับฝ่ายพม่าก็จะแสดงความคิดเห็นว่า หากฝ่ายพม่าจะได้ดูแลเรื่องนี้ก็นับเป็นสิ่งที่ดี เพราะ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องซึ่งส่งผลให้เยาวชนเข้าใจผิดมิได้เป็นการสร้างฐานความเข้าใจในระดับประชาชนต่อประชาชนที่เข็มแข็งต่อไปในอนาคต
ต่อข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า ไทยจะขอให้พม่าระงับการใช้แบบเรียนหรือไม่ ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวว่า ไทยคงไม่ก้าวล่วงกิจการภายในประเทศของพม่า และเรื่องดังกล่าวมิได้มีประเด็นที่ร้ายแรงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์หรือการทูตที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้อง ยกขึ้นหารืออย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากได้พบกับฝ่ายพม่าก็จะแจ้งในฐานะมิตรประเทศว่า กรณีนี้เป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ และคาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ซึ่งจะไม่ช่วยให้เยาวชนมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน
ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการแลกเปลี่ยนนักประวัติศาสตร์ และ นักวิชาการระหว่างกัน ตลอดจนร่วมกันทำงาน จะช่วยให้ความเข้าใจในเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเพราะความสัมพันธ์ในภาคประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยได้มาก ดังนั้นจึงขอให้นักวิชาการพิจารณาด้วย และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-
วันนี้ (6 มิถุนายน 2544) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีแบบเรียนของพม่ามีเนื้อหาในด้านลบต่อประเทศไทยว่า การทำให้เยาวชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงของประเทศเพื่อนบ้านนั้น ไม่เป็นสิ่งที่ดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนของประเทศทั้งสอง และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนนั้น คนไทยทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชนขยันทำงานอย่างยิ่ง และประเทศชาติก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี มีเสถียรภาพและความมั่นคง
เนื้อหาในแบบเรียนพม่าเป็นเรื่องของการตีความ ซึ่งฝ่ายไทยเห็นว่าไม่ถูกต้อง และเมื่อพบกับฝ่ายพม่าก็จะแสดงความคิดเห็นว่า หากฝ่ายพม่าจะได้ดูแลเรื่องนี้ก็นับเป็นสิ่งที่ดี เพราะ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องซึ่งส่งผลให้เยาวชนเข้าใจผิดมิได้เป็นการสร้างฐานความเข้าใจในระดับประชาชนต่อประชาชนที่เข็มแข็งต่อไปในอนาคต
ต่อข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า ไทยจะขอให้พม่าระงับการใช้แบบเรียนหรือไม่ ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวว่า ไทยคงไม่ก้าวล่วงกิจการภายในประเทศของพม่า และเรื่องดังกล่าวมิได้มีประเด็นที่ร้ายแรงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์หรือการทูตที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้อง ยกขึ้นหารืออย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากได้พบกับฝ่ายพม่าก็จะแจ้งในฐานะมิตรประเทศว่า กรณีนี้เป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ และคาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ซึ่งจะไม่ช่วยให้เยาวชนมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน
ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการแลกเปลี่ยนนักประวัติศาสตร์ และ นักวิชาการระหว่างกัน ตลอดจนร่วมกันทำงาน จะช่วยให้ความเข้าใจในเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเพราะความสัมพันธ์ในภาคประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยได้มาก ดังนั้นจึงขอให้นักวิชาการพิจารณาด้วย และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-