แท็ก
กัมพูชา
กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ประเทศไทยและกัมพูชา ได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2544 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2544 เป็นต้นไป โดยสันธิสัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ความผิดที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กันและกัน ต้องเป็นความผิดที่ลงโทษได้ตามกฎหมายในทั้งสองรัฐ และต้องมีกำหนดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี
2. รัฐซึ่งได้รับการร้องขอไม่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งกระทำความผิดทางการเมืองและความผิดทางทหาร
3. ไม่ต้องมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อรัฐที่ได้รับการร้องขอมีคำพิพากษาในความผิดนั้นแล้วหรือเมื่อคดีขาดอายุความตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอ
4. รัฐภาคีมีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ส่งคนชาติเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหมายความว่า รัฐมีดุลยพินิจในการส่งหรือไม่ส่งคนในชาติของตนเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ได้
5. ผู้กระทำผิดที่ถูกส่งตัวไปจะไม่ถูกลงโทษในความผิดอื่น นอกเหนือจากในความผิดที่ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
6. รัฐที่ได้รับการร้องขอจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน จนกระทั่งเวลาส่งมอบตัว
7. สนธิสัญญาฯ นี้จะใช้บังคับเฉพาะกับความผิดที่ได้กระทำหลังจากที่สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับเท่านั้น
8. สนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับ 30 วัน หลังจากการแลกเปลี่ยนสัตยาบัน
สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนฉบับนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของไทย ที่จะส่งเสริม ความสัมพันธ์อันดีกับกัมพูชา โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ และเพื่อขจัดเงื่อนไขต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน อันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-
ประเทศไทยและกัมพูชา ได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2544 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2544 เป็นต้นไป โดยสันธิสัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ความผิดที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กันและกัน ต้องเป็นความผิดที่ลงโทษได้ตามกฎหมายในทั้งสองรัฐ และต้องมีกำหนดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี
2. รัฐซึ่งได้รับการร้องขอไม่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งกระทำความผิดทางการเมืองและความผิดทางทหาร
3. ไม่ต้องมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อรัฐที่ได้รับการร้องขอมีคำพิพากษาในความผิดนั้นแล้วหรือเมื่อคดีขาดอายุความตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอ
4. รัฐภาคีมีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ส่งคนชาติเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหมายความว่า รัฐมีดุลยพินิจในการส่งหรือไม่ส่งคนในชาติของตนเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ได้
5. ผู้กระทำผิดที่ถูกส่งตัวไปจะไม่ถูกลงโทษในความผิดอื่น นอกเหนือจากในความผิดที่ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
6. รัฐที่ได้รับการร้องขอจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน จนกระทั่งเวลาส่งมอบตัว
7. สนธิสัญญาฯ นี้จะใช้บังคับเฉพาะกับความผิดที่ได้กระทำหลังจากที่สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับเท่านั้น
8. สนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับ 30 วัน หลังจากการแลกเปลี่ยนสัตยาบัน
สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนฉบับนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของไทย ที่จะส่งเสริม ความสัมพันธ์อันดีกับกัมพูชา โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ และเพื่อขจัดเงื่อนไขต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน อันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-