__นายปรีชา สุวรรณทัต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากการที่คณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) ไม่สามารถประกาศรายชื่อ ส.ว. ให้ครบ 200 คน ว่า จะมีผลทำให้ไม่สามารถเรียกประชุม รัฐสภาในวันที่ 24 มิ.ย. ได้ เพราะตามรัฐธรรมนูกำหนดไว้ว่า ให้เรียกประชุมเคยกฤษฎีกา เปิดประชุมรัฐสภา คำว่า รัฐสภาคือ 2 สภา สภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา คือรัฐสภา แต่เราเรียกกันแบบชาวบ้านว่าเปิดประชุมสภา ก็นึกว่าเป็นสภาเดียว ดังนั้นวันที่24 มิ.ย.นี้ถ้า กกต.ไม่สามารถประกาศรายชื่อครบทั้ง 200 คนก็ไม่สามารถเรียก ประชุมรัฐสภาสมัยสามัได้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่จำเป็นต้องาส่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูตีความ เพราะมี ความ ชัดเจนอยู่แล้ว คือการเปิดประชุมรัฐสภา ปัหาที่สำคัญ ตอนนี้คือไม่สามารถเรียกประชุมได้ พร้อมกันนี้ ได้ กล่าวว่าการแก้ไขโดยวิธีทางกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้ เพราะว่ายังไม่มีสภา ดังนั้นกฎหมายที่จะเข้าสู่สภา ก็ไม่ได้และไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูหรือว่า พ.ร.บ.ต่าง ๆ ไม่ มี ทางทำได้ ตอนนี้ถือว่าตันหมด ต้องรอให้มีสมาชิกครบทั้ง 2 สภาเท่านั้น ซึ่งหลายคนก็เข้าใจผิดว่า ให้รัฐบาล ออกพระราชกำหนดได้ ทั้งนี้ พรก.สามารถออกได้ หากเป็นกฎหมายธรรมดา แต่หากเป็นกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูไม่สามารถออกได้ เพราะไม่ได้ให้อำนาจไว้ รวมทั้งพระราชบัญ ัติงบประมาณก็ไม่สามารถออกได้ ถือว่าตันหมด มีทางเดียวคือ กกต.ต้องเร่งประกาศรายชื่อให้ครบ ทั้งนี้เราไม่สามารถไปก้าวก่าย กกต.ได้ เพราะ เขาบอกว่า เกรงจะเกิดปัหาตามมาภายหลัง ตอนนี้ทำได้แค่ภาวนาเท่านั้นขอให้ประกาศรายชื่อให้ครบก่อนวัน ที่ 24 มิถุนายน หาก กกต.ถึงแม้จะแขวนรายชื่อเพียงคนเดียวหรือจะประกาศ 199 คน ก็ยังไม่ได้อยู่ดีทั้งนี้ยังไม่ ได้พูดถึงการเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้ที่จะตามมา ซึ่งจะมีปัญ หาให้ปวดหัวอีกมาก เอาแค่ปัหาปัจจุบันก็เห็นทางตัน แล้ว
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ กกต.อย่างเดียวว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ให้มีการแขวน หรือแขวนให้เสร็จ ก่อน วันที่ 24 มิ.ย. อย่างไรก็ตามคิดว่า การเลือกตั้งครั้งที่ 3น่าจะประกาศทันหากไม่มีการแขวน ครั้งต่อไปอีก คือ ครั้งที่ 4 เพราะจะเลยวันที่ 24 มิ.ย. ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ประกาศรายชื่อครบก่อนแล้วแขวนทีหลัง กกต.ก็ บอกแล้วว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจเราก็ก้าวก่ายไม่ได้ ซึ่งประเด็นนี้นักกฎหมายหลายคน ก็บอกว่า ทำได้
นายปรีชา กล่าวว่า หาก กกต.จะประกาศรายชื่อหลังการเลือก ตั้งครั้งนี้ไปก่อนแล้วแขวนทีหลัง เขาก็ต้องรับผิด ชอบ เพราะครั้งที่แล้วก็แขวนบนรายชื่อแล้ว จะเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างการเลือก ตั้งครั้งที่ แล้วกับครั้งนี้ จะทำให้ถูกวิจารณ์ได้ ต้องเห็นใจกกต. ส่วนการแก้กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมาจาก กตต. ซึ่งหากจะไม่ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศลงเลือกตั้งซ่อมด้วย ก็จะต้องแก้รัฐธรรมนูแน่นอน จะแก้เพียง กฎหมายประ กอบรัฐธรรมนูเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นเรื่องให่ เพราะจะต้องมี การประชุม ร่วมระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.
หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูแน่ใจหรือว่า ส.ว.ชุดใหม่จะร่วมมือด้วย หากกกต. เสนอแก้ไขกฎหมายก็อาจจะมี ประเด็น อื่นตามมาด้วย ซึ่งก็จะยุ่งกันให่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูถือว่า เป็นการเปิดประตูให้มีการแก้ไข ประเด็นต่าง ๆ แล้ว จะไปห้ามคนอื่นไม่ให้เสนอความคิดแก้ไขในประเด็นอื่น ๆ ก็ไม่ได้ ดังนั้น ผมคิดว่า อย่าไป ไกลถึงขั้นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะมีประเด็นอื่นเสนอให้แก้ไขตามมาอย่างแน่นอน แล้วก็จะถูกสังคมมอง ว่า เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนู เพื่อตัวเอง กลุ่มที่เคยสนับสนุนรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้หรือกลุ่มธงเขียว ก็จะต่อต้าน และ จะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองตามมา ดังนั้นควรให้ส.ส.ชุดใหม่ 500 คน กับ ส.ว. ชุดใหม่ เป็นผู้มา แก้ไขดีกว่า ขณะนี้แก้ไขเพียงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูก็พอ นายปรีชา กล่าว--จบ--
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ กกต.อย่างเดียวว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ให้มีการแขวน หรือแขวนให้เสร็จ ก่อน วันที่ 24 มิ.ย. อย่างไรก็ตามคิดว่า การเลือกตั้งครั้งที่ 3น่าจะประกาศทันหากไม่มีการแขวน ครั้งต่อไปอีก คือ ครั้งที่ 4 เพราะจะเลยวันที่ 24 มิ.ย. ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ประกาศรายชื่อครบก่อนแล้วแขวนทีหลัง กกต.ก็ บอกแล้วว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจเราก็ก้าวก่ายไม่ได้ ซึ่งประเด็นนี้นักกฎหมายหลายคน ก็บอกว่า ทำได้
นายปรีชา กล่าวว่า หาก กกต.จะประกาศรายชื่อหลังการเลือก ตั้งครั้งนี้ไปก่อนแล้วแขวนทีหลัง เขาก็ต้องรับผิด ชอบ เพราะครั้งที่แล้วก็แขวนบนรายชื่อแล้ว จะเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างการเลือก ตั้งครั้งที่ แล้วกับครั้งนี้ จะทำให้ถูกวิจารณ์ได้ ต้องเห็นใจกกต. ส่วนการแก้กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมาจาก กตต. ซึ่งหากจะไม่ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศลงเลือกตั้งซ่อมด้วย ก็จะต้องแก้รัฐธรรมนูแน่นอน จะแก้เพียง กฎหมายประ กอบรัฐธรรมนูเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นเรื่องให่ เพราะจะต้องมี การประชุม ร่วมระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.
หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูแน่ใจหรือว่า ส.ว.ชุดใหม่จะร่วมมือด้วย หากกกต. เสนอแก้ไขกฎหมายก็อาจจะมี ประเด็น อื่นตามมาด้วย ซึ่งก็จะยุ่งกันให่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูถือว่า เป็นการเปิดประตูให้มีการแก้ไข ประเด็นต่าง ๆ แล้ว จะไปห้ามคนอื่นไม่ให้เสนอความคิดแก้ไขในประเด็นอื่น ๆ ก็ไม่ได้ ดังนั้น ผมคิดว่า อย่าไป ไกลถึงขั้นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะมีประเด็นอื่นเสนอให้แก้ไขตามมาอย่างแน่นอน แล้วก็จะถูกสังคมมอง ว่า เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนู เพื่อตัวเอง กลุ่มที่เคยสนับสนุนรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้หรือกลุ่มธงเขียว ก็จะต่อต้าน และ จะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองตามมา ดังนั้นควรให้ส.ส.ชุดใหม่ 500 คน กับ ส.ว. ชุดใหม่ เป็นผู้มา แก้ไขดีกว่า ขณะนี้แก้ไขเพียงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูก็พอ นายปรีชา กล่าว--จบ--