กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วย นาย Vladimir Zametalin รองนายกรัฐมนตรีเบลารุส พร้อมด้วยนาย Valery Ye Sadokho รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลารุส และภาคเอกชนเบลารุสจะเดินทางเยือนประเทศไทย โดยเป็นแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคม 2543 ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีเบลารุสมีกำหนดพบหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร) ประธานสภาหอการค้า และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้ง จะได้มีการลงนามในพิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-เบลารุส และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเบลารุส ในวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2543
ไทยกับเบลารุสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2535 และมีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด ปัจจุบันไทยมอบหมายให้สถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงมอสโกรับผิดชอบดูแลความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เบลารุส และเบลารุสแต่งตั้งให้นาย Oleg Chekunkov เอกอัครราชฑูตเบลารุส ประจำกรุงฮานอยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มดูแลประเทศไทยด้วย การเยือนไทยของรองนายกรัฐมนตรีเบลารุสครั้งนี้ เป็นการเยือนระดับสูงครั้งแรกนับจากว่างเว้นมาหลายปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้จักคุ้นเคยและแสวงหาลู่ทางขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ทั้งนี้ การค้าไทย-เบลารุสในปี 2542 มีมูลค่า 4.6 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์ยาง หลอดภาพโทรทัศน์สี หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าจากเบลารุส
พิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศทั้งสอง และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเบลารุสที่ได้มีการลงนามในระหว่างการเยือนครั้งนี้ จะเป็นพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนติดต่อและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการเมือง การค้า เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป นอกจากนี้ ไทยและเบลารุสพึ่งเสร็จสิ้นการเจรจาเพื่อจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติการลงนาม ซึ่งหากอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างกันมากขึ้น เนื่องจากภาคเอกชนสองฝ่ายจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อนอีกต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-
ด้วย นาย Vladimir Zametalin รองนายกรัฐมนตรีเบลารุส พร้อมด้วยนาย Valery Ye Sadokho รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลารุส และภาคเอกชนเบลารุสจะเดินทางเยือนประเทศไทย โดยเป็นแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคม 2543 ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีเบลารุสมีกำหนดพบหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร) ประธานสภาหอการค้า และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้ง จะได้มีการลงนามในพิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-เบลารุส และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเบลารุส ในวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2543
ไทยกับเบลารุสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2535 และมีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด ปัจจุบันไทยมอบหมายให้สถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงมอสโกรับผิดชอบดูแลความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เบลารุส และเบลารุสแต่งตั้งให้นาย Oleg Chekunkov เอกอัครราชฑูตเบลารุส ประจำกรุงฮานอยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มดูแลประเทศไทยด้วย การเยือนไทยของรองนายกรัฐมนตรีเบลารุสครั้งนี้ เป็นการเยือนระดับสูงครั้งแรกนับจากว่างเว้นมาหลายปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้จักคุ้นเคยและแสวงหาลู่ทางขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ทั้งนี้ การค้าไทย-เบลารุสในปี 2542 มีมูลค่า 4.6 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์ยาง หลอดภาพโทรทัศน์สี หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าจากเบลารุส
พิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศทั้งสอง และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเบลารุสที่ได้มีการลงนามในระหว่างการเยือนครั้งนี้ จะเป็นพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนติดต่อและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการเมือง การค้า เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป นอกจากนี้ ไทยและเบลารุสพึ่งเสร็จสิ้นการเจรจาเพื่อจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติการลงนาม ซึ่งหากอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างกันมากขึ้น เนื่องจากภาคเอกชนสองฝ่ายจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อนอีกต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : [email protected] จบ--
-อน-