พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 14 - 20 ต.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Friday October 14, 2005 14:21 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 123 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 14-20 ตุลาตม 2548
ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางพื้นที่ทาง ตอนล่างของภาค ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ส่วนร่องความกดอากาศต่ำจะยังคง พาดผ่านภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ต.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจะมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา แต่ยังคงมีอากาศเย็น ภาคกลางและภาคตะวันออกจะมี ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา เกษตรกรควรดูแล สุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปอาจเกิดสภาวะน้ำท่วมในที่ราบลุ่มของ พื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ตอนล่างได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้มีอากาศเย็นลงในตอนเช้า ดังนั้นเกษตรกรควรระวังป้องกันการระบาดของโรคหวัดและ โรคปอดบวม นอกจากนี้ควรกักเก็บน้ำและวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค เว้นแต่ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอาจเป็นผลให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย จึงควรจัดทำที่กำบังลมหนาว ส่วนสัตว์ ที่ยังเล็กควรเพิ่มความอบอุ่นให้อย่างเพียงพอ
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ต่อจากนั้นมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่ง ๆ 30% ของพื้นที่ในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
#เนื่องจากระยะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ส่วน ผู้ที่ปลูกองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ต่อจากนั้นมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์บางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30% ของพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้อากาศชื้น ชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช เช่น หนอนกินใบในเงาะ หนอนชอนใบในมังคุด และโรคราใบติดในทุเรียน
ใต้
ลักษณะอากาศ
#ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-80% ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 14-15 และ 19-20 ต.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ช่วงนี้จะมีฝนตกชุก เกษตรกรควรระบายน้ำไม่ให้ท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนานๆ เพราะจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้ ส่วนผู้ที่เริ่มปลูกพืชรุ่นใหม่ควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคเน่าคอดิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ