กระทรวงการคลังมีความยินดีที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงการคลังประเทศญี่ปุ่น และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการจัดการสัมมนาเรื่องการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ภายใต้คณะทำงานว่าด้วยความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการหรือคณะทำงานที่ 6 (ASEAN+3 Bond Market Development Seminar for Cambodia, Lao PDR, Myanmar, and Vietnam Under the Auspices of ABMI Working Group 6) ในระหว่างวันที่ 17 — 18 มีนาคม 2548 ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ
การจัดการสัมมนาดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond
Market Initiative) ของกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 หรือ ASEAN+3 Finance Minister Meeting (AFMM+3) ซึ่งในกรอบการประชุม AFMM+3 ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น 6 กลุ่ม เพื่อทำหน้าที่ศึกษาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย ทั้งนี้ การจัดการสัมมนาดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของคณะทำงานกลุ่มที่ 6 หรือคณะทำงานว่าด้วยความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Working Group on Technical Assistance Coordination: Working Group 6) ซึ่งมีประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เป็นประธานคณะทำงานดังกล่าว ทั้งนี้ หน้าที่หลักของ Working Group 6 คือ การเป็นสื่อกลางให้ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 แสดงเจตจำนงในการให้หรือรับความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างสมรรถภาพในเชิงนโยบายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ซึ่งเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักของการจัดการสัมมนาในวันนี้เพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศกัมพูชา พม่า ลาว และเวียดนาม นอกจากนี้ การเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ในการช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลของกลุ่มประเทศดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตลาดพันธบัตรระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคตอีกด้วย
การสัมมนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศกัมพูชาในการเข้าร่วมการสัมมนาด้วย สำหรับผู้เข้าร่วมการสัมมนาส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งมาจากประเทศกัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม และประเทศสมาชิกอาเซียน+3 อื่นๆ อาทิ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น
รูปแบบการสัมมนาในครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน โดยในวันแรกจะเป็นการสัมมนาทางวิชาการเต็มวัน โดยจะครอบคลุมหัวข้อและประเด็นหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายในภาพกว้างสำหรับการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาล การบริหารหนี้และเงินสดภายใต้ระบบการคลัง ภูมิหลังและประสบการณ์การพัฒนาตลาดพันธบัตรของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย และสถานะภาพปัจจุบันของตลาดพันธบัตรภายในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม สำหรับการสัมมนาในวันที่สองจะเป็นการสัมมนาในรูปแบบวิชาการในช่วงครึ่งเช้า และในช่วงครึ่งบ่ายจะพาผู้เข้าร่วมสัมมนาไปเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดตราสารหนี้ และบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งการไปเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ เห็นการดำเนินงานของระบบการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ Bond Electronic Exchange: BEX ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายตราสารหนี้โดยใช้เทคโนโลยีทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีข้อมูลที่โปร่งใส ตลอดจนกระบวนการส่งมอบและชำระราคาที่เชื่อถือได้ เพื่อต้องการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านปริมาณการซื้อขาย คุณภาพของตราสารหนี้ ตัวกลางการซื้อขาย แหล่งข้อมูลอ้างอิง และได้ขยายขอบเขตการพัฒนาให้กว้างขวางขึ้นเพื่อรองรับต่อแนวนโยบายการพัฒนามาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียต่อไปในอนาคต
การสัมมนาเรื่องการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ภายใต้คณะทำงานที่ 6 ของมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียในกรอบอาเซียน+3 ครั้งนี้ (ASEAN+3 Bond Market Development Seminar for Cambodia, Lao PDR, Myanmar, and Vietnam Under the Auspices of ABMI Working Group 6) เป็นการสัมมนาที่มีผลดีต่อการดำเนินมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียโดยตรง เนื่องจากเป็นโอกาสอันดีในการช่วยเสริมสร้างความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาตลาดพันธบัตรภายในภูมิภาคให้มีความแข็งแกร่งและมีความสมบูรณ์ต่อไป
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 21/2548 17 มีนาคม 2548--
การจัดการสัมมนาดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond
Market Initiative) ของกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 หรือ ASEAN+3 Finance Minister Meeting (AFMM+3) ซึ่งในกรอบการประชุม AFMM+3 ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น 6 กลุ่ม เพื่อทำหน้าที่ศึกษาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย ทั้งนี้ การจัดการสัมมนาดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของคณะทำงานกลุ่มที่ 6 หรือคณะทำงานว่าด้วยความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Working Group on Technical Assistance Coordination: Working Group 6) ซึ่งมีประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เป็นประธานคณะทำงานดังกล่าว ทั้งนี้ หน้าที่หลักของ Working Group 6 คือ การเป็นสื่อกลางให้ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 แสดงเจตจำนงในการให้หรือรับความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างสมรรถภาพในเชิงนโยบายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ซึ่งเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักของการจัดการสัมมนาในวันนี้เพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศกัมพูชา พม่า ลาว และเวียดนาม นอกจากนี้ การเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ในการช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลของกลุ่มประเทศดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตลาดพันธบัตรระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคตอีกด้วย
การสัมมนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศกัมพูชาในการเข้าร่วมการสัมมนาด้วย สำหรับผู้เข้าร่วมการสัมมนาส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งมาจากประเทศกัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม และประเทศสมาชิกอาเซียน+3 อื่นๆ อาทิ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น
รูปแบบการสัมมนาในครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน โดยในวันแรกจะเป็นการสัมมนาทางวิชาการเต็มวัน โดยจะครอบคลุมหัวข้อและประเด็นหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายในภาพกว้างสำหรับการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาล การบริหารหนี้และเงินสดภายใต้ระบบการคลัง ภูมิหลังและประสบการณ์การพัฒนาตลาดพันธบัตรของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย และสถานะภาพปัจจุบันของตลาดพันธบัตรภายในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม สำหรับการสัมมนาในวันที่สองจะเป็นการสัมมนาในรูปแบบวิชาการในช่วงครึ่งเช้า และในช่วงครึ่งบ่ายจะพาผู้เข้าร่วมสัมมนาไปเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดตราสารหนี้ และบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งการไปเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ เห็นการดำเนินงานของระบบการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ Bond Electronic Exchange: BEX ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายตราสารหนี้โดยใช้เทคโนโลยีทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีข้อมูลที่โปร่งใส ตลอดจนกระบวนการส่งมอบและชำระราคาที่เชื่อถือได้ เพื่อต้องการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านปริมาณการซื้อขาย คุณภาพของตราสารหนี้ ตัวกลางการซื้อขาย แหล่งข้อมูลอ้างอิง และได้ขยายขอบเขตการพัฒนาให้กว้างขวางขึ้นเพื่อรองรับต่อแนวนโยบายการพัฒนามาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียต่อไปในอนาคต
การสัมมนาเรื่องการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ภายใต้คณะทำงานที่ 6 ของมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียในกรอบอาเซียน+3 ครั้งนี้ (ASEAN+3 Bond Market Development Seminar for Cambodia, Lao PDR, Myanmar, and Vietnam Under the Auspices of ABMI Working Group 6) เป็นการสัมมนาที่มีผลดีต่อการดำเนินมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียโดยตรง เนื่องจากเป็นโอกาสอันดีในการช่วยเสริมสร้างความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาตลาดพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาตลาดพันธบัตรภายในภูมิภาคให้มีความแข็งแกร่งและมีความสมบูรณ์ต่อไป
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 21/2548 17 มีนาคม 2548--