พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 17 - 23 สิงหาคม 2548

ข่าวทั่วไป Thursday August 18, 2005 06:33 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน พุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 17-23 สิงหาคม 2548
ในระยะนี้ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องในจะยังคงพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ยมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในระยะต่อไป สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกมากกว่าภาคอื่น ๆ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
# ข้อควรระวัง # ในระยะนี้อาจเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากบางพื้นที่ของพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60-70% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนบนของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-21 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้ปริมาณฝนจะลดลง สำหรับบริเวณที่น้ำท่วม เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และ ฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม รวมทั้งสำรวจสวนหากพบต้นไม้ที่ล้มเอนควรค้ำยันและผูกยึดให้ตั้งตรง และถ้ามีรอยแผลควรถากออกแล้วทาด้วยปูนแดงเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
ตะวันออกเฉียงเหนือ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60-80% ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาคและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 17-21 ส.ค. ต่อนั้นจะมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ 40-60 % ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครพนม และมุกดาหาร ในระยะ 1-2 วันนี้ เกษตรกรจึงควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และควรอบพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
กลาง
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 30-50% ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 60%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มใกล้แม่น้ำ ควรกั้นขอบบ่อสูงขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าและมีน้ำล้นตลิ่ง ส่วนผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังหากเจริญเติบโตเต็มที่ควรรีบจับขาย นอกจากนี้ควรตรวจเช็คสภาพน้ำหากมีความขุ่นมากควรรีบเคลื่อนย้ายไปไว้ในบ่อที่มีความปลอดภัย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่บริเวณ ลุ่มริมแม่น้ำ เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 65%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# บริเวณที่มีฝนตกชาวสวนเงาะควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคจุดสนิม และโรคราสีชมพู ซึ่งจะทำให้ใบร่วงและกิ่งแห้งตาย หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรตัดกิ่งที่เป็นโรคไปทำลาย นอกจากนี้ผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เช่น ถัวเขียวและถั่วลิสง ควรระวังความชื้น เพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหาย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง 30-50% ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95% ตอนบ่าย 60%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้มีฝนแต่ปริมาณไม่มาก ชาวสวนลองกองที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วควรตัดแต่งกิ่ง แล้วทารอยตัดด้วยปูนแดงเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา รวมทั้งใส่ปุ๋ยเพื่อให้ต้นพื้นตัวได้เร็ว นอกจากนี้ควรดูแลอย่าให้มีวัชพืชและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรกองสุมบริเวณโคนต้น เพื่อป้องกันการระบาดของโรครากเน่า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ