พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 141/2548 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธ.ค. 2548 ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ชุมพรลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และคลื่นลม ในอ่าวไทยมีกำลังแรง หลังจากนั้นภาคใต้จะมีฝนลดลงและคลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลงด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิ ลดลง โดยคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ซึ่งจะเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของพื้นที่เสี่ยงภัยส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวด้วย สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่ม ความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ ลักษณอากาศ # มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองในช่วงที่อากาศหนาวเพื่อไม่ให้ป่วยเป็นโรคผิวหนังและโรคที่เกิดกับระบบ ทางเดินหายใจ ส่วนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกด้วย นอกจากนี้ควรระวัง ป้องกันศัตรูพืชที่อาจจะระบาด เช่น เพลี้ยไฟและไรในลำไย ตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะอากาศ #มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-11 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-11 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากในช่วงนี้อากาศแห้ง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอและคลุมโคนต้นพืชด้วยหญ้าแห้งหรือฟางข้าวเพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งควรระวังอันตรายขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก นอกจากนี้ควรระวังป้องกันศัตรูพืชที่อาจระบาด เช่น เพลี้ยแป้งและเพลี้ยหอยในมันสำปะหลัง กลาง ลักษณะอากาศ # อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงนี้มีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะด้วย สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่และพืชผัก เช่น พริก ถั่วลันเตา ถั่วเขียว แตงกวา และแตงโม ควรดูแลให้น้ำแก่พืชตามความจำเป็น ตะวันออก ลักษณะอากาศ #อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะ ลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. อุณหภูมิจะ ลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เนื่องจากอากาศแห้ง ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่พืชโดยเฉพาะกล้าไม้ผลที่ยังเล็ก คลุมโคนต้นด้วยเศษใบไม้แห้งเพื่อสงวนความชื้นดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดไว้ด้วย ใต้ ลักษณะอากาศ # ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่ง ๆ เว้นแต่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย.และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 40-70% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย.และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ผลกระทบต่อการเกษตร # ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่ง ๆ เว้นแต่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย.และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 40-70% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย.และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งควรอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง ส่วนบริเวณทางตอนล่างของภาคเมื่อปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออก อย่าให้ท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันการระบาดของโรครากเน่าโคนเน่า อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย.และ 29 พ.ย. — 1 ธ.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-