ราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสสูงสุดในรอบ 26 ปี เนื่องจากมีปัจจัยหลายตัวเป็นแรงส่ง เช่น - แนวโน้มเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะขยายตัวต่ำ รวมทั้งการขาดดุลของสหรัฐฯ - เงินเฟ้อสูงขึ้นต่อเนื่อง - กองทุนต่าง ๆ มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์มีค่าที่สามารถประกันความเสี่ยงได้มากกว่าการลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์อื่น ๆ - ปริมาณความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอุตสาหกรรมอื่นเพิ่มขึ้น - กระแสการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางบางแห่งในเอเชียโดยเฉพาะธนาคารกลาง สิงคโปร์ อินเดีย และจีน ซึ่งมีทองคำสำรองค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับธนาคารกลางในยุโรปและอื่น ๆ จะเพิ่มปริมาณทองคำในคลังสำรองเพื่อลดการถือครองเงินสกุลดอลลาร์ลง เพราะค่าเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นเงินสกุลหลักของโลกอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องเป็นเวลาค่อนข้างนานประเด็นวิเคราะห์ 1. ได้มีนักวิเคราะห์หลายรายคาดว่าราคาทองอาจจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีกภายในต้นปี 2549 ราคาทองคำจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีความเป็นไปได้ว่าราคาจะปรับตัวไปถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ใน 5-7 ปี ข้างหน้า 2. ในทางกลับกันเมื่อราคาทองมีภาวะขึ้นอย่างรวดเร็วก็อาจจะลงเร็วได้ ดังนั้น การเก็งกำไรอาจจะเสี่ยงก็ได้เพราะในอดีตก็เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ราคาทองในตลาดโลกลดลงกว่า 100 ดอลลาร์ในเวลา 2 วัน 3. ผู้ผลิตเครื่องประดับต่างได้รับผลกระทบด้านต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีผลให้การจำหน่ายเครื่องประดับมีภาวะชะลอตัวลง ที่มา: http://www.depthai.go.th