นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. ปี 2548 ว่ามีมูลค่าทั้งสิ้น 2,011 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 77,416.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ร้อยละ 6.5 โดยแบ่งเป็นการส่งออกเครื่องนุ่งห่มมูลค่า 1,008.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสิ่งทอ (ผ้าผืน เส้นด้าย และเส้นใย) มูลค่า 1,002.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 50.2 และ 49.8 ตามลำดับ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายหารส่งออกสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่มในปี 2548 ทั้งปีไว้ที่ร้อยละ 20
สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยังคงเป็นตลาดส่งออกหลัก 3 อันดับแรกของไทย ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. ปี 2548 มีมูลค่าส่งออก 607.4 , 359.1 และ 142.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 30.2 , 17.9 และ 7.1 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงระยะเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 9.1 ขณะที่สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีอัตราลดลงร้อยละ 0.1 และ 3.7 ตามลำดับ
ส่วนจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 4 ของไทย มีมูลค่าการส่งออก 99.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 7.1 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 19 โดยส่งออกเส้นใยประดิษฐ์มากที่สุด 33.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.1 รองลงมา คือ ผ้าผืน มูลค่า 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.4
นายราเชนทร์ฯ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าการส่งออกในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. จะมีอัตราการขยายตัวเพียงร้อยละ 6.5 เท่านั้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกสิ่งทอไทยจะมีอัตราขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการใช้มาตรการ safeguard การนำเข้าสินค้าสิ่งทอจากจีนของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
สำหรับการนำเข้าสิ่งทอในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. ปี 2548 มีมูลค่า 954.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันกับปีที่ผ่านมาร้อยละ 10.4 สินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ร้อยละ 95.8 เป็นสินค้า สิ่งทอเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต (ผ้าผืน เส้นด้าย เส้นใย) โดยนำเข้าผ้าผืนมากที่สุด มูลค่า 421 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 44.1 สำหรับเครื่องนุ่งห่มมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 4.2 แหล่งนำเข้า สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญได้แก่ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และไต้หวัน มูลค่า 206.8 , 136.5 , 100.6 และ 94.5 ตามลำดับ
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยังคงเป็นตลาดส่งออกหลัก 3 อันดับแรกของไทย ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. ปี 2548 มีมูลค่าส่งออก 607.4 , 359.1 และ 142.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 30.2 , 17.9 และ 7.1 ตามลำดับ โดยการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงระยะเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 9.1 ขณะที่สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีอัตราลดลงร้อยละ 0.1 และ 3.7 ตามลำดับ
ส่วนจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 4 ของไทย มีมูลค่าการส่งออก 99.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 7.1 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 19 โดยส่งออกเส้นใยประดิษฐ์มากที่สุด 33.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.1 รองลงมา คือ ผ้าผืน มูลค่า 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.4
นายราเชนทร์ฯ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าการส่งออกในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. จะมีอัตราการขยายตัวเพียงร้อยละ 6.5 เท่านั้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกสิ่งทอไทยจะมีอัตราขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการใช้มาตรการ safeguard การนำเข้าสินค้าสิ่งทอจากจีนของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น
สำหรับการนำเข้าสิ่งทอในช่วงเดือน ม.ค. — เม.ย. ปี 2548 มีมูลค่า 954.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันกับปีที่ผ่านมาร้อยละ 10.4 สินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ร้อยละ 95.8 เป็นสินค้า สิ่งทอเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต (ผ้าผืน เส้นด้าย เส้นใย) โดยนำเข้าผ้าผืนมากที่สุด มูลค่า 421 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 44.1 สำหรับเครื่องนุ่งห่มมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 4.2 แหล่งนำเข้า สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญได้แก่ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และไต้หวัน มูลค่า 206.8 , 136.5 , 100.6 และ 94.5 ตามลำดับ
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-