พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน ศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 27/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 3-9 มีนาคม 2549
ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า และลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณ อ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 5-9 มี.ค. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ # อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส # อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส เกษตรกรบริเวณตอนบนของภาคควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรในช่วงดังกล่าว สำหรับกระท้อนที่กำลังติดผลอ่อน ชาวสวนควรให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ # อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยด้วย สำหรับชาวไร่มันสำปะหลังควรดูแลอย่าให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ใบร่วง
กลาง # อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนบางแห่ง 10%ของพื้นที่ ทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. # อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนบางแห่ง 10%ของพื้นที่ ทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่และไม้ผลอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันชะงักการเจริญเติบโต ส่วนผู้ที่ปลูกองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ผลแคระแกร็น
ตะวันออก # มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30%ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. # มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30%ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่พอกับความต้องการของพืชโดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชด้วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนเจาะผลในทุเรียน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหาย
ใต้ # ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10%ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. # ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10%ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-40% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อยโดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรจัดทำแนวกันไฟรอบๆพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะสวนยางพารา เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยด้วย ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆ ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3-4 มี.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-พห-