ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ 1. ปริมาณบัตรเครดิตและยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิตล่าสุดในเดือน พ.ย.48ว่า ปริมาณบัตรเครดิตและยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปริมาณบัตรเครดิตมีจำนวนทั้งสิ้น 9,843,102 บัตร เพิ่มขึ้น 179,982 บัตรจากเดือนก่อนหน้า แบ่งเป็นบัตรเครดิตของ ธพ.ไทย 3,862,680 บัตร บัตรเครดิตของ ธพ. ต่างประเทศ 1,052,895 บัตร และบัตรเครดิตของนอนแบงก์ 4,927,527 บัตร ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตมีจำนวนทั้งสิ้น 138,590.17 ล.บาท เพิ่มขึ้น 2.626 ล.บาทจากเดือน ต.ค. โดยเป็นยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตของ ธพ.ไทย 47,730.29 ล.บาท ยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตของ ธพ.ต่างประเทศ 26,958.03 ล.บาท และยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตของนอนแบงก์ 63,901.85 ล.บาท โดยเหตุผลที่ยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นน้อย เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ และมีวงเงินบัตรเครดิตจำนวนหนึ่งที่ใช้จ่ายเต็มหรือเกือบเต็มจำนวนแล้ว สำหรับปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 2,488 ล.บาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ ธพ.ไทย 2,472 ล.บาท ธพ.ต่างประเทศ 36 ล.บาท และนอนแบงก์ 52 ล.บาท (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด) 2. ธปท.รายงานสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนต่อ ก.คลังว่าไม่น่าเป็นห่วง รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนจากผู้ว่าการ ธปท.ว่า ไม่น่าเป็นห่วง โดยเงินบาทที่แข็งค่า เกิดจากการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามาเพื่อเก็งกำไร แต่เข้ามาเพื่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหลัก สำหรับระดับของค่าเงินบาทที่เหมาะสมนั้น ต้องเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับค่าเงินของโลก ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าควรอยู่ในระดับใดจึงเหมาะสม (กรุงเทพธรุกิจ) 3. บีโอไอเชื่อมั่นการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมาย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 800,000 ล.บาท เนื่องจากภาคอุตสาหกรรม ทั้งปิโตรเครมี รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในระดับที่ดี ประกอบกับการที่ นรม.ออกมาแถลงนโยบายในเรื่องต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และโครงการเมกะโปรเจ็กต์ จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น (โลกวันนี้) 4. นรม.มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นรม. กล่าวในงานแถลงนโยบายเศรษฐกิจต่อนักลงทุนว่า ในปี 48 ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบวิกฤตต่างๆ มากมาย อาทิ ภัยแล้ง น้ำท่วม ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง แต่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ 4.7% ผลิตภัณฑ์ในประเทศ(จีดีพี)มีมูลค่า 7.1 ล้านล้านบาท อัตราเงินเฟ้อ 4.5% เงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 52,100 ล.ดอลลาร์ สรอ. และหนี้สาธารณะ 46% ของจีดีพี สำหรับปี 49 คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 5.5% เป็นอย่างน้อยและมีมูลค่า 7.7 ล.บาท ส่วนเงินบาทอาจจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียกำลังได้รับความสนใจจากต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุน ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนตัวลง (โลกวันนี้) ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ 1. ยอดสินเชื่อคงค้างของ ธ.พ. ญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. ลดลงเล็กน้อย รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 48 ธ.กลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค. ยอดสินเชื่อคงค้างในระบบ ธ.พ. ซึ่งรวมทั้งสหกรณ์ อยู่ที่ระดับ 446.6706 ล้านล้านเยน (3.909 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.) ลดลงน้อยมากเพียงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า และน้อยที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี นับตั้งแต่ที่มีการจัดเก็บตัวเลขดังกล่าวในเดือน ม.ค. 44 ส่งสัญญานการลงทุนที่สดใส เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ และการเงินฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นาย Yoshimasa Maruyama นักเศรษฐศาสตร์จาก BNP Paribas คาดว่าในไตรมาสแรกปี 49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 48 ยอดสินเชื่อ ธพ. จะเริ่มเพิ่มขึ้น เนื่องจากกิจการจะกู้ยืมมากขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้น เจ้าหน้าที่จาก ธ.กลางญี่ปุ่นกล่าวว่ายอดสินเชื่อ ธพ. ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ตกอยู่ในภาวะชะงักงันมานานกว่าทศวรรษ โดยเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้วเติบโตร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นอีกในเดือนต่อๆไปจากความต้องการอย่างมากในภาคเอกชน โดยหลังจากที่เศรษฐกิจดีขึ้นและธุรกิจดีขึ้นหลังจากที่กิจการมีการรื้อปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ส่งผลให้มีความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นและธุรกิจมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย (รอยเตอร์) 2. คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะชะลอตัวลงจากปี 48 รายงานจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ม.ค.49 Academy of Macroeconomic Research ของ National Development and Reform Commission ของจีน คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 8.5 — 9.0 ลดลงเล็กน้อยจากปี 48 ที่ประมาณการว่าจีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 9.8 ทั้งนี้ นักวิจัยของสถาบันดังกล่าวที่เป็นผู้รวบรวมรายงานการวิจัยกล่าวว่า ภายหลังจากที่ สนง.สถิติแห่งชาติของจีนได้มีการปรับเพิ่มข้อมูลอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีการปรับจีดีพีในปี 47 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.1 จากเดิมร้อยละ 9.5 ทำให้สถาบันดังกล่าวต้องมีการปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน จึงคาดว่าในปีนี้การขยายตัวน่าจะเกือบถึงระดับร้อยละ 9 อย่างไรก็ตาม สถาบันดังกล่าวเห็นว่าภารกิจของรัฐบาลจีนในปีนี้คือ การหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืด เนื่องจากคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 จากปีที่แล้ว และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ CPI อาจเป็นตัวเลขติดลบ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะเงินฝืดได้ (รอยเตอร์) 3. อัตราว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ธ.ค.48 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 รายงานจากโซล เมื่อ 12 ม.ค.49 สนง.สถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้รายงานอัตราว่างงานในเกาหลีใต้ในเดือน ธ.ค.48 หลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วอยู่ที่ร้อยละ 3.5 จากร้อยละ 3.6 ในเดือน พ.ย.48 ในขณะที่รอยเตอร์คาดไว้ว่าที่ร้อยละ 3.6 โดยจำนวนคนมีงานทำหลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วลดลงเล็กน้อยจาก 23.01 ล้านคนในเดือน พ.ย.48 เป็น 22.85 ล้านคนในเดือน ธ.ค.48 นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่าตลาดแรงงานของเกาหลีใต้กำลังฟื้นตัวโดยเป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและความต้องการในประเทศที่กำลังฟื้นตัว ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นในอนาคตของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมซึ่งสำรวจโดย ธ.กลางเกาหลีใต้เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 88 ในเดือน ม.ค.49 สูงสุดในรอบ 8 เดือนจากระดับ 86 ในเดือน ธ.ค.48 อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าตัวเลขการว่างงานที่ดีขึ้นดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้ ธ.กลางเกาหลีใต้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 12 ม.ค.49 นี้หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้งในไตรมาสสุดท้ายปี 48 ที่ผ่านมาทำให้อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 3.75 ต่อปี โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.พ. หรือ มี.ค.49 ทั้ง ธ.กลางและ ก.คลังเกาหลีใต้คาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของเอเชียจะขยายตัวร้อยละ 5 ในปี 49 นี้จากร้อยละ 3.9 ในปี 48 จากการฟื้นตัวของความต้องการทั้งในและต่างประเทศ (รอยเตอร์) 4. การส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้ไปยังจีนในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 20 ชะลอลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3 รายงานจากโซล เมื่อ 12 ม.ค.49 ก.พาณิชย์เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า การส่งออกของเกาหลีใต้ไปยังประเทศจีนในปี 49 คาดว่าจะขยายตัวจำนวน 74 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือประมาณร้อยละ 20 จากการส่งออกเครื่องรับโทรทัศน์ ชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักรกล นับเป็นการส่งออกที่ชะลอตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เทียบกับที่ส่งออกจำนวน 60 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในปี 48 (ตัวเลขจนถึง 20 ธ.ค.48) โดยคาดว่าในปี 48 เกาหลีใต้จะส่งออกไปยังจีนประมาณร้อยละ 25 หลังจากที่ขยายตัวถึงร้อยละ 41.8 และ 47.8 ในปี 47 และ 46 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา รมว.พาณิชย์เผยว่าอัตราการเติบโตการส่งออกโดยรวมในปีนี้คาดว่าจะยังขยายตัวมากกว่าร้อยละ 11.7 อนึ่ง จีนนับเป็นประเทศที่เกาหลีใต้ส่งออกสินค้าถึงร้อยละ 22 ของยอดส่งออกทั้งหมด เทียบกับ สรอ.ที่มีสัดส่วนการส่งออกเพียงร้อยละ 15 ขณะเดียวกัน รมว.พาณิชย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการสินค้าประเภทเครื่องจักรและส่วนประกอบสินค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าไปยังจีนถึงร้อยละ 80 ถูกส่งไปให้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของจีน (รอยเตอร์)ข้อมูลเศรษฐกิจ 12 ม.ค. 49 11 ม.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.873 38.557 ธปท. อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.6806/39.9791 38.3598/38.6471 ธปท. อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.14438 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 764.01/ 32.52 701.91/15.60 ตลท. ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,150/10,250 10,150/10,250 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.62 56 38.15 ปตท./รอยเตอร์ ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 11 ม.ค. 49 26.84*/24.29* 26.84*/24.29* 19.69/14.59 ปตท.