พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 17-23 มีนาคม 2549

ข่าวทั่วไป Friday March 17, 2006 14:31 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 33/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 17-23 มีนาคม 2549 ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.ลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค.ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีผลกระทบ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมมีกำลังค่อนข้างแรง ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. จะมีแนวพัดสอบเข้าหากันของลมใต้และ ลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่ง ๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายเนื่องจากกระโชกแรง ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน และอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดตาก และลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. อากาศร้อนในตอนกลางวัน และอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดตาก และลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เนื่องจากอากาศร้อนและแห้งอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย ชาวสวนควร เก็บกวาดกิ่งไม้และใบไม้แห้งกองไว้ให้เป็นที่ นอกจากนี้ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอด้วย ตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้มีน้อยเกษตรกรจึงควรให้น้ำแก่พืชโดยเฉพาะพืชที่มีขนาดเล็กและมีระบบรากตื้น รวมทั้งควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรคลุมโคนต้นพืชเพื่อลดการระเหยของน้ำในดิน กลาง อากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อน ชาวไร่ไม่ควรเผาซากพืชที่เหลืออยู่ เพราะจะทำให้เกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ง่าย รวมทั้งยังทำให้ดินเสื่อมโทรม ส่วนชาวสวนองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ด้วย ตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาคในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ตามบริเวณชายฝั่ง ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น เป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อากาศร้อนทางตอนบนของภาคในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ตามบริเวณชายฝั่ง ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น เป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าวซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและกินอาหารได้น้อยลง เกษตรกรจึงควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนและจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอด้วย ใต้ ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 40-60 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วน ทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 40-60 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วน ทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเป็นแห่ง ๆ 20-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้และใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลร่วงหล่น อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. คลื่นลมในอ่าวไทย จะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ