แท็ก
ธปท.
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ยืนยันเงินทุนยังไหลเข้าประเทศไม่มีผลกระทบจากปัจจัยด้านการเมือง ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง ผลกระทบการเมืองต่อภาวะการลงทุนของไทยในขณะนี้ว่า ยังคงมีเงินทุนไหลเข้า
มาในไทยอยู่ และไม่มีเงินทุนไหลออกจากประเทศ ทั้งนี้ ในปี 48 มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 6,621 ล้านดอลลาร์ สรอ.
หลังจากที่ปี 47 มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 591 ล้านดอลลาร์ สรอ. และเป็นการไหลเข้าครั้งแรกในรอบ 9 ปี นับจาก
ปี 39 ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 19,500 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนกรณีที่มีการเลื่อนเสนอโครงการเมกะโปรเจกต์ไป
นั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ธปท.คาดการณ์อัตรา
การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 4.75-5.75 เพิ่มขึ้นจากปี 48 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 4.5
(กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์, มติชน, ไทยโพสต์)
2. อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ปลัด ก.พาณิชย์ กล่าวถึง ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
(เงินเฟ้อ) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศในเดือน ก.พ.49 ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.เมื่อเทียบต่อ
เดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 แต่เมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 และคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อตั้งแต่เดือน มี.ค.จน
ถึงกลางปี 49 มีแนวโน้มเฉลี่ยต่อเดือนระหว่างร้อยละ 5.6-5.7 เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีความผันผวนอยู่ อย่างไร
ก็ตาม หลังจากครึ่งปีหลัง อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่อเดือนจะมีแนวโน้มลดลง โดยคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะ
อยู่ระหว่างร้อยละ 3.5-4.5 ด้วยสมมติฐานจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.7-5.7 ค่า
เงินบาทอยู่ที่ 41 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) 14 วัน เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ
4.5 ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 190 บาทต่อวัน ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ การ
ที่เงินเฟ้อเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เป็นเพราะดัชนีหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5
จากการเพิ่มขึ้นของค่าสาธารณูปโภค (แนวหน้า, โลกวันนี้, ไทยรัฐ, บ้านเมือง, มติชน, สยามรัฐ, ข่าวสด)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นการเมืองไทยเดือน ก.พ.49 ลดลง 3.58 จุด ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ประธาน
ดำเนินงานสวนดุสิตโพล ม.ราชภัฎสวนดุสิต แถลงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นการเมืองไทยประจำเดือน ก.พ.49
ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 8,296 คน ระหว่างวันที่ 20-28 ก.พ.49
มีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 94.05 จุด ลดลง 3.58 จุดจากเดือน ม.ค.49 โดยเดือนนี้มีตัวชี้วัด 17 ตัวตกต่ำที่สุด
ในรอบ 11 เดือน โดยดัชนีที่ลดลง 5 อันดับแรก คือ 1) ความสามัคคีของคนในชาติลดลง —10.46 เมื่อเทียบต่อเดือน 2)
การปฏิบัติตนของนักการเมือง/ความสามัคคีของนักการเมืองลดลง —7.62 3) ข่าวสารที่เผยแพร่จากสื่อต่าง ๆ ให้
ประชาชนได้รับรู้ลดลง —60.3 4) การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าลดลง —5.49 และ 5) สภาพสังคมโดย
รวมเกิดความแตกแยก —5.42 นอกจากนี้ ยังพลว่า การแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน ผลงานของฝ่ายค้าน
และ นรม. ความเชื่อมั่นก็ลดลงเช่นเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ, แนวหน้า)
4. บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.49 จะชะลอลง บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์
แนวโน้มเศรษฐกิจในเดือน ก.พ.49 ว่า ภาวะการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนจะยังถูกกระทบจาก
ความเชื่อมั่นที่ลดลงตามสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ รวมทั้งจากราคาน้ำมันในประเทศที่ยังคงทรงตัว
ในระดับใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. ขณะที่การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศก็น่าที่จะลดลง ดังจะเห็นได้จาก
มูลค่าการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศที่ลดลงอย่างมากในเดือน ก.พ.ที่จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน
ม.ค.ที่มีจำนวน 7.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. โดยได้
รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินเยน โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือน ก.พ.49 (สยามรัฐ)
5. อัตราการเติบโตการใช้ไฟฟ้าลดทุกภาคส่วนกว่าร้อยละ 50 ในไตรมาส 1 ปี งปม.49 รองปลัด
ก.พลังงาน เปิดเผยถึงผลสรุปการใช้ไฟฟ้าโดยรวมทั้งประเทศช่วงไตรมาส 1 ปี งปม.49 (ต.ค.-ธ.ค.48) ว่า
มีปริมาณการใช้รวมทั้งสิ้นจำนวน 29,595 ล้านหน่วย ส่งผลต่ออัตราการเติบโตการใช้ไฟฟ้าลดทุกภาคส่วนกว่าร้อยละ
50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี งปม.48 แบ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยลดลงร้อยละ 1.4 ธุรกิจบริการลดลงร้อยละ
9.4 ภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.9 และการเกษตรลดลงร้อยละ 12.0 เป็นต้น ส่วนผลการใช้ไฟฟ้าประจำปี
งปม.48 มีอัตราการเติบโตลดลงจากปี 47 ร้อยละ 2 เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือประหยัดไฟฟ้าจากการดำเนิน
กิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงาน (โลกวันนี้, สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของโลกในเดือน ก.พ. จะขยายตัวสูงที่สุดในรอบปีครึ่งรายงานจาก
ลอนดอน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 49 ผลการสำรวจของ JP Morgan ที่สำรวจกลุ่มผู้จัดการจัดซื้อจากประเทศต่างๆทั่วโลก
ประมาณ 20 ประเทศ รวมทั้ง สรอ. ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย เพื่อจัดทำ Purchasing Managers’
Index — PMI ของโลก ซึ่งคาดว่าในเดือน ก.พ. ภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกจะขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ ปีครึ่ง
เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในผลผลิต และคำสั่งซื้อใหม่ โดย PMI ทั่วโลก จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 55.3 ในเดือน
ก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.4 ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 1ปีครึ่ง
ส่วนดัชนีผลผลิตของโลกอยู่ที่ระดับ 57.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.4 และสูงสุดในรอบ 18 เดือน สำหรับดัชนีคำสั่งซื้อใหม่
เพิ่มขึ้นที่ระดับ 58.5 ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 47 ที่อยู่ที่ระดับ 57.2 สำหรับดัชนีการจ้างงานอยู่ที่ระดับ
52.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.9 และสูงกว่าเส้นที่แบ่งครึ่งระหว่างการขยายตัวและการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต
บ่งชี้ว่าดัชนีการจ้างงานขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปีครึ่ง อย่างไรก็ตามราคาต้นทุนการผลิตก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
อยู่ที่ 62.8 เพิ่มจาก 61.6 ซึ่งแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมิได้เป็นอุปสรรคต่อการจ้างงานแต่ประการใดซึ่งคาดว่า
PMI ของโลก จะยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในเดือนต่อไป (รอยเตอร์)
2. อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงที่ระดับร้อยละ 2.3 ในเดือน ก.พ.49 รายงานจากบรัสเซลส์เมื่อ
1 มี.ค.49 The European Union’s statistics office (Eurostat) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของกลุ่ม 12
ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) ในเดือน ก.พ.49 ลดลงตามการคาดการณ์ของตลาดที่ระดับร้อยละ 2.3 เทียบต่อปี
จากร้อยละ 2.4 ในเดือนก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของราคาน้ำมันซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยลง ทั้งนี้
ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ได้คงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ
จากภาวะเงินเฟ้ออันเป็นผลจากราคาน้ำมันและการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า ECB
จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.5 ในการประชุมวันที่ 2 มี.ค.49 นี้ นอกจากนี้ Eurostat
เปิดเผยอัตราการว่างงานในเขตยูโรโซนในเดือน ม.ค.49 ว่า อยู่ที่ระดับร้อยละ 8.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลง ไม่สอดคล้องกับตัวเลขคำสั่งซื้อและผลผลิตอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ในระดับ
ที่แข็งแกร่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของเกาหลีใต้เดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานจากกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.49 ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากปีก่อน
ต่ำกว่าผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.6 และที่เคยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.8 ในเดือน ม.ค.49 ซึ่ง
เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน นับเป็นการสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นอย่างเร่งตัวที่ติดต่อกัน 2 เดือน ของอัตราเงินเฟ้อ
ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 หรือต่ำกว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยอัตราการ
เติบโตของการบริโภคภายในประเทศที่ทรงตัวในระยะหลายเดือนมานี้จะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่
สนง.สถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ยังไม่ปรับตัวเลขตามฤดูกาลในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 จากเดือน ม.ค.49 เทียบกับผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และร้อยละ 0.8 ในเดือน
ม.ค.49 ส่วนอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานรายปีที่ไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและอาหารในเดือน ก.พ.49 อยู่ที่ระดับเดิมร้อยละ
1.7 จากเดือน ม.ค.49 ทั้งนี้ ธ.กลางของเกาหลีใต้ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้ง นับตั้งแต่เดือน ต.ค.48
เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ โดยปรับเพิ่มรวมร้อยละ 0.75 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
และมีกำหนดประชุมเพื่อทบทวนอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 9 มี.ค.นี้ และ ธ.กลางของเกาหลีใต้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในกลาง
ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสอดคล้องกับภาวะการเติบโตของการบริโภคภายในประเทศ (รอยเตอร์)
4. ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากโซล เมื่อ
1 มี.ค.49 ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ
5 เดือนนับตั้งแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 ต่อปีในเดือน ก.ย.48 โดยยอดส่งออกในเดือน ก.พ.49 มีจำนวน 23.96 พันล้านดอลลาร์
สรอ.ในขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 ต่อปีมีจำนวน 23.42 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้มียอดเกินดุลการค้าจำนวน
538 ล้านดอลลาร์ สรอ. เกินดุลน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในรอบ 3 ปี โดยยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่าความต้องการใน
ประเทศกำลังขยายตัว ในขณะที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกและยอดนำเข้าในเดือน ก.พ.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9
และ 23.0 ต่อปีตามลำดับ ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ.49 ช่วยลดความกังวลว่าการส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินวอน
ของเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.และเงินเยนของญี่ปุ่น จากการที่ยอดส่งออกใน
เดือน ม.ค.และ ก.พ.49 รวมกันชะลอตัวลงโดยขยายตัวร้อยละ 10.3 ต่อปี ก.คลังของเกาหลีใต้เตรียมออกมาตรการเพื่อลด
แรงกดดันที่ทำให้ค่าเงินวอนสูงขึ้น โดยจะอนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้สามารถนำเงินตราต่างประเทศไปลงทุนโดยตรงและซื้อที่อยู่อาศัย
ในประเทศได้ พร้อมทั้งจะเพิ่มวงเงินที่ ธ.พาณิชย์สามารถถือครองเงินตราต่างประเทศด้วย (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 2 มี.ค. 49 1 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.309 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1261/39.4076 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.34922 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 748.28/ 18.08 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,300/10,400 10,300/10,400 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.32 58.24 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 49 26.44*/24.69* 26.44*/24.69* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ยืนยันเงินทุนยังไหลเข้าประเทศไม่มีผลกระทบจากปัจจัยด้านการเมือง ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง ผลกระทบการเมืองต่อภาวะการลงทุนของไทยในขณะนี้ว่า ยังคงมีเงินทุนไหลเข้า
มาในไทยอยู่ และไม่มีเงินทุนไหลออกจากประเทศ ทั้งนี้ ในปี 48 มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 6,621 ล้านดอลลาร์ สรอ.
หลังจากที่ปี 47 มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 591 ล้านดอลลาร์ สรอ. และเป็นการไหลเข้าครั้งแรกในรอบ 9 ปี นับจาก
ปี 39 ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 19,500 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนกรณีที่มีการเลื่อนเสนอโครงการเมกะโปรเจกต์ไป
นั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ธปท.คาดการณ์อัตรา
การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 4.75-5.75 เพิ่มขึ้นจากปี 48 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 4.5
(กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์, มติชน, ไทยโพสต์)
2. อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ปลัด ก.พาณิชย์ กล่าวถึง ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
(เงินเฟ้อ) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศในเดือน ก.พ.49 ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.เมื่อเทียบต่อ
เดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 แต่เมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 และคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อตั้งแต่เดือน มี.ค.จน
ถึงกลางปี 49 มีแนวโน้มเฉลี่ยต่อเดือนระหว่างร้อยละ 5.6-5.7 เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีความผันผวนอยู่ อย่างไร
ก็ตาม หลังจากครึ่งปีหลัง อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่อเดือนจะมีแนวโน้มลดลง โดยคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะ
อยู่ระหว่างร้อยละ 3.5-4.5 ด้วยสมมติฐานจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.7-5.7 ค่า
เงินบาทอยู่ที่ 41 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) 14 วัน เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ
4.5 ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 190 บาทต่อวัน ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ การ
ที่เงินเฟ้อเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เป็นเพราะดัชนีหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5
จากการเพิ่มขึ้นของค่าสาธารณูปโภค (แนวหน้า, โลกวันนี้, ไทยรัฐ, บ้านเมือง, มติชน, สยามรัฐ, ข่าวสด)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นการเมืองไทยเดือน ก.พ.49 ลดลง 3.58 จุด ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ประธาน
ดำเนินงานสวนดุสิตโพล ม.ราชภัฎสวนดุสิต แถลงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นการเมืองไทยประจำเดือน ก.พ.49
ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 8,296 คน ระหว่างวันที่ 20-28 ก.พ.49
มีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 94.05 จุด ลดลง 3.58 จุดจากเดือน ม.ค.49 โดยเดือนนี้มีตัวชี้วัด 17 ตัวตกต่ำที่สุด
ในรอบ 11 เดือน โดยดัชนีที่ลดลง 5 อันดับแรก คือ 1) ความสามัคคีของคนในชาติลดลง —10.46 เมื่อเทียบต่อเดือน 2)
การปฏิบัติตนของนักการเมือง/ความสามัคคีของนักการเมืองลดลง —7.62 3) ข่าวสารที่เผยแพร่จากสื่อต่าง ๆ ให้
ประชาชนได้รับรู้ลดลง —60.3 4) การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าลดลง —5.49 และ 5) สภาพสังคมโดย
รวมเกิดความแตกแยก —5.42 นอกจากนี้ ยังพลว่า การแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน ผลงานของฝ่ายค้าน
และ นรม. ความเชื่อมั่นก็ลดลงเช่นเดียวกัน (กรุงเทพธุรกิจ, แนวหน้า)
4. บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.49 จะชะลอลง บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์
แนวโน้มเศรษฐกิจในเดือน ก.พ.49 ว่า ภาวะการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนจะยังถูกกระทบจาก
ความเชื่อมั่นที่ลดลงตามสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ รวมทั้งจากราคาน้ำมันในประเทศที่ยังคงทรงตัว
ในระดับใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. ขณะที่การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศก็น่าที่จะลดลง ดังจะเห็นได้จาก
มูลค่าการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศที่ลดลงอย่างมากในเดือน ก.พ.ที่จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน
ม.ค.ที่มีจำนวน 7.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. โดยได้
รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินเยน โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือน ก.พ.49 (สยามรัฐ)
5. อัตราการเติบโตการใช้ไฟฟ้าลดทุกภาคส่วนกว่าร้อยละ 50 ในไตรมาส 1 ปี งปม.49 รองปลัด
ก.พลังงาน เปิดเผยถึงผลสรุปการใช้ไฟฟ้าโดยรวมทั้งประเทศช่วงไตรมาส 1 ปี งปม.49 (ต.ค.-ธ.ค.48) ว่า
มีปริมาณการใช้รวมทั้งสิ้นจำนวน 29,595 ล้านหน่วย ส่งผลต่ออัตราการเติบโตการใช้ไฟฟ้าลดทุกภาคส่วนกว่าร้อยละ
50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี งปม.48 แบ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยลดลงร้อยละ 1.4 ธุรกิจบริการลดลงร้อยละ
9.4 ภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.9 และการเกษตรลดลงร้อยละ 12.0 เป็นต้น ส่วนผลการใช้ไฟฟ้าประจำปี
งปม.48 มีอัตราการเติบโตลดลงจากปี 47 ร้อยละ 2 เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือประหยัดไฟฟ้าจากการดำเนิน
กิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงาน (โลกวันนี้, สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของโลกในเดือน ก.พ. จะขยายตัวสูงที่สุดในรอบปีครึ่งรายงานจาก
ลอนดอน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 49 ผลการสำรวจของ JP Morgan ที่สำรวจกลุ่มผู้จัดการจัดซื้อจากประเทศต่างๆทั่วโลก
ประมาณ 20 ประเทศ รวมทั้ง สรอ. ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย เพื่อจัดทำ Purchasing Managers’
Index — PMI ของโลก ซึ่งคาดว่าในเดือน ก.พ. ภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกจะขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ ปีครึ่ง
เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในผลผลิต และคำสั่งซื้อใหม่ โดย PMI ทั่วโลก จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 55.3 ในเดือน
ก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.4 ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 1ปีครึ่ง
ส่วนดัชนีผลผลิตของโลกอยู่ที่ระดับ 57.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.4 และสูงสุดในรอบ 18 เดือน สำหรับดัชนีคำสั่งซื้อใหม่
เพิ่มขึ้นที่ระดับ 58.5 ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 47 ที่อยู่ที่ระดับ 57.2 สำหรับดัชนีการจ้างงานอยู่ที่ระดับ
52.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.9 และสูงกว่าเส้นที่แบ่งครึ่งระหว่างการขยายตัวและการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต
บ่งชี้ว่าดัชนีการจ้างงานขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปีครึ่ง อย่างไรก็ตามราคาต้นทุนการผลิตก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
อยู่ที่ 62.8 เพิ่มจาก 61.6 ซึ่งแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมิได้เป็นอุปสรรคต่อการจ้างงานแต่ประการใดซึ่งคาดว่า
PMI ของโลก จะยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในเดือนต่อไป (รอยเตอร์)
2. อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงที่ระดับร้อยละ 2.3 ในเดือน ก.พ.49 รายงานจากบรัสเซลส์เมื่อ
1 มี.ค.49 The European Union’s statistics office (Eurostat) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของกลุ่ม 12
ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) ในเดือน ก.พ.49 ลดลงตามการคาดการณ์ของตลาดที่ระดับร้อยละ 2.3 เทียบต่อปี
จากร้อยละ 2.4 ในเดือนก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของราคาน้ำมันซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยลง ทั้งนี้
ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ได้คงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ
จากภาวะเงินเฟ้ออันเป็นผลจากราคาน้ำมันและการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า ECB
จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.5 ในการประชุมวันที่ 2 มี.ค.49 นี้ นอกจากนี้ Eurostat
เปิดเผยอัตราการว่างงานในเขตยูโรโซนในเดือน ม.ค.49 ว่า อยู่ที่ระดับร้อยละ 8.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลง ไม่สอดคล้องกับตัวเลขคำสั่งซื้อและผลผลิตอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ในระดับ
ที่แข็งแกร่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของเกาหลีใต้เดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานจากกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.49 ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากปีก่อน
ต่ำกว่าผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.6 และที่เคยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.8 ในเดือน ม.ค.49 ซึ่ง
เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน นับเป็นการสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นอย่างเร่งตัวที่ติดต่อกัน 2 เดือน ของอัตราเงินเฟ้อ
ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 หรือต่ำกว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยอัตราการ
เติบโตของการบริโภคภายในประเทศที่ทรงตัวในระยะหลายเดือนมานี้จะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่
สนง.สถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ยังไม่ปรับตัวเลขตามฤดูกาลในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 จากเดือน ม.ค.49 เทียบกับผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และร้อยละ 0.8 ในเดือน
ม.ค.49 ส่วนอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานรายปีที่ไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและอาหารในเดือน ก.พ.49 อยู่ที่ระดับเดิมร้อยละ
1.7 จากเดือน ม.ค.49 ทั้งนี้ ธ.กลางของเกาหลีใต้ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้ง นับตั้งแต่เดือน ต.ค.48
เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ โดยปรับเพิ่มรวมร้อยละ 0.75 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
และมีกำหนดประชุมเพื่อทบทวนอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 9 มี.ค.นี้ และ ธ.กลางของเกาหลีใต้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในกลาง
ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสอดคล้องกับภาวะการเติบโตของการบริโภคภายในประเทศ (รอยเตอร์)
4. ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากโซล เมื่อ
1 มี.ค.49 ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ
5 เดือนนับตั้งแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 ต่อปีในเดือน ก.ย.48 โดยยอดส่งออกในเดือน ก.พ.49 มีจำนวน 23.96 พันล้านดอลลาร์
สรอ.ในขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 ต่อปีมีจำนวน 23.42 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้มียอดเกินดุลการค้าจำนวน
538 ล้านดอลลาร์ สรอ. เกินดุลน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในรอบ 3 ปี โดยยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่าความต้องการใน
ประเทศกำลังขยายตัว ในขณะที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกและยอดนำเข้าในเดือน ก.พ.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9
และ 23.0 ต่อปีตามลำดับ ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ.49 ช่วยลดความกังวลว่าการส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินวอน
ของเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.และเงินเยนของญี่ปุ่น จากการที่ยอดส่งออกใน
เดือน ม.ค.และ ก.พ.49 รวมกันชะลอตัวลงโดยขยายตัวร้อยละ 10.3 ต่อปี ก.คลังของเกาหลีใต้เตรียมออกมาตรการเพื่อลด
แรงกดดันที่ทำให้ค่าเงินวอนสูงขึ้น โดยจะอนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้สามารถนำเงินตราต่างประเทศไปลงทุนโดยตรงและซื้อที่อยู่อาศัย
ในประเทศได้ พร้อมทั้งจะเพิ่มวงเงินที่ ธ.พาณิชย์สามารถถือครองเงินตราต่างประเทศด้วย (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 2 มี.ค. 49 1 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.309 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1261/39.4076 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.34922 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 748.28/ 18.08 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,300/10,400 10,300/10,400 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.32 58.24 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 49 26.44*/24.69* 26.44*/24.69* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--