นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและ แนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสที่ 3 และเครื่องชี้ในเดือนมกราคม 2549 แสดงถึงการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศในอัตราที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี อุปสงค์ต่างประเทศมีแนวโน้มขยายตัวดี และคณะกรรมการฯ ประเมินว่ายังคงมีแรงส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อไปจากการส่งออก เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอยู่ในเกณฑ์ดี
แรงกดดันต่อเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีอยู่ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเริ่มชะลอลง เป็นลำดับ แต่คณะกรรมการฯ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับสูงและยังคงมีความเสี่ยงที่อาจสูงเกินเป้าหมายในระยะต่อไปได้ สำหรับเสถียรภาพต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง
คณะกรรมการฯ เห็นว่า แรงกดดันด้านราคายังคงมีอยู่และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบ จึงเห็นควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในระยะต่อไปให้อยู่ในเป้าหมาย
คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน ร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 4.25 เป็นร้อยละ 4.50 ต่อปี โดยมีผลทันที
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสที่ 3 และเครื่องชี้ในเดือนมกราคม 2549 แสดงถึงการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศในอัตราที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี อุปสงค์ต่างประเทศมีแนวโน้มขยายตัวดี และคณะกรรมการฯ ประเมินว่ายังคงมีแรงส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อไปจากการส่งออก เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอยู่ในเกณฑ์ดี
แรงกดดันต่อเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีอยู่ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเริ่มชะลอลง เป็นลำดับ แต่คณะกรรมการฯ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับสูงและยังคงมีความเสี่ยงที่อาจสูงเกินเป้าหมายในระยะต่อไปได้ สำหรับเสถียรภาพต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง
คณะกรรมการฯ เห็นว่า แรงกดดันด้านราคายังคงมีอยู่และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบ จึงเห็นควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในระยะต่อไปให้อยู่ในเป้าหมาย
คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน ร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 4.25 เป็นร้อยละ 4.50 ต่อปี โดยมีผลทันที
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--