ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.มั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อในไตรมาส 4 ปี 49 และปี 50 จะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และปีหน้าคาดว่าจะอยู่ในแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยไม่ได้
รับผลกระทบจากเม็ดเงิน งปม.ที่เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท ในการทำ งปม.ขาดดุลของภาครัฐ และการปรับขึ้นราคาของสินค้าในหมวดอาหาร และ
สินค้าเกษตร โดยเฉพาะพืชผัก ที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม (ผู้จัดการรายวัน)
2. ธปท.พิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการปรับปรุง ธพ.เสริมสร้างความแข็งแกร่ง รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่นายอรุณ จิรชวาลา ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ธ.นครหลวงไทยนั้น ทาง ธปท.ได้มีการพิจารณาถึงแนวทางความ
เป็นไปได้ในการปรับปรุง ธพ. เสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บททางการเงินของ ธปท. โดยหนึ่งในวิธีการดังกล่าวนั้น
ความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการธนาคารบางแห่งเพื่อแก้ไขให้ฐานะการเงินมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยหากพิจารณาจกาสถานะและความ
เป็นไปได้ในปัจจุบัน จะมีธนาคารที่เข้าข่ายสามารถควบรวมกิจการได้ 4 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยธนาคาร ธ.ทหารไทย และ
ธ.นครหลวงไทย ทั้งนี้ ในการพิจารณาแนวทางการควบรวมกิจการดังกล่าว อาจใช้วิธีการควบรวมธนาคาร 2 แห่งเข้าด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความ
จำเป็น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการควบรวม ธ.นครหลวงไทยเข้ากับ ธ.ทหารไทย ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะแก้ปัญหาขาดทุนสะสมของ
ธ.ทหารไทย ที่มีอยู่กว่า 3 หมื่นล้านบาท และทำให้ธนาคารใหม่ภายหลังการควบรวมแข็งแกร่งขึ้น (มติชน)
3. ยอดคงค้างการลงทุนในหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 เทียบต่อปี รายงานจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจการลงทุนในหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทยผ่านผู้รับฝากหลักทรัพย์
ณ สิ้นเดือน ธ.ค.48 ว่า นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาถือครองหลักทรัพย์ไทย มียอดคงค้างคิดตามราคาตลาดรวม 1.55 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น
3.87 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 33.3 จากสิ้นปี 47 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
และกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนต่างชาติสูงถึงร้อยละ 28.2 ของมูลค่า
ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ ตลท. สำหรับประเทศที่ลงทุนในหลักทรัพย์ของไทยมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร ลงทุนร้อยละ 34.7 ของ
สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด รองลงมาคือ สิงคโปร์ ร้อยละ 17.9 สรอ. ร้อยละ 17.2 และประเทศอื่น ๆ อีกร้อยละ 30.2 อย่างไรก็ตาม
แม้สหราชอาณาจักรจะลงทุนในไทยสัดส่วนมากที่สุด แต่สัดส่วนดังกล่าวก็ลดลงจากปีก่อนค่อนข้างมาก (เดลินิวส์)
4. ธปท.สนับสนุนการจัดทำระบบตั๋วร่วมเพื่อการขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการกำหนดนโยบายตั๋วร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง
และจราจร (สนข.) ก.คลัง รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดินบีเอ็มซีแอล รถไฟฟ้ามหานคร (รฟม) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรือด่วนเจ้าพระยา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ธปท.จะได้ประโยชน์
จากการจัดทำระบบตั๋วร่วมเพื่อการขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแง่ของการลดต้นทุนการใช้เงินสดและธนบัตร
ซึ่งสามารถลดต้นทุนที่สูงมากลงได้ โดยการหารือครั้งนี้ เป็นการทำความเข้าใจเบื้องต้นในหลักการ และวางแผนปฏิบัติการ (Road Map) โดย
จะต้องหารือกับ ธพ.ว่า ยินดีที่จะทำตามระบบใด หรือต้องการเสนอรูปแบบใดหรือไม่” ทั้งนี้ ธปท.ไม่ได้เป็นผู้กำกับดูแล แต่จะเป็นผู้เข้ามาช่วย
ดูแลระบบการชำระเงินโดยระบบเอทีเอ็ม หรือบัตรเดบิต (ไทยรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ก.ย.49 ลดลงในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 49 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 18 ต.ค.49 สนง.
สถิติแห่งชาติของอังกฤษหรือ ONS รายงานยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.49 ในขณะที่นักวิเคราะห์
คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อเดือน ส่งผลให้ยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ
ปี 48 ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยราคาสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก
นับตั้งแต่เดือน ม.ค.45 และเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.44 เป็นต้นมา ในขณะที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่
เพิ่มสูงขึ้นซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธ.กลางอังกฤษเมื่อเดือน ส.ค.49 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังคาดว่าเป็นผลมา
จากสภาพอากาศที่อบอุ่นในเดือนดังกล่าวมีส่วนทำให้ยอดค้าปลีกโดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้าลดลง อย่างไรก็ดีแม้ว่ายอดค้าปลีกจะลดลง แต่
นักวิเคราะห์บางคนก็ยังคาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในเดือน พ.ย.49 นี้จากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า
เป้าที่ ธ.กลางอังกฤษตั้งไว้ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 2.3 ในปี 49 และชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 1.4 ในปี 50 รายงานจากเบอร์ลิน
เมื่อ 18 ต.ค.49 ผลสำรวจความเห็นของธุรกิจกว่า 25,000 แห่งโดยสภาอุตสาหกรรมและการค้าคาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 49 จะขยาย
ตัวร้อยละ 2.3 ต่อปี สูงสุดในรอบ 6 ปีจากการขยายตัวของการส่งออกและการลงทุน นอกจากนี้การจ้างงานในปี 49 ยังขยายตัวในอัตราสูงสุด
ในรอบ 6 ปี สำหรับในปี 50 คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวประมาณ 1 ใน 3 เหลือร้อยละ 1.4 ต่อปีจากผลกระทบของการขึ้นอัตราภาษีที่เรียก
เก็บจากผู้บริโภคอีกร้อยละ 3.0 และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากแนวโน้มที่จะ ธ.กลางยุโรปจะยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตอันใกล้ ซึ่ง
ผลสำรวจดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับความเห็นของสำนักวิจัยชั้นนำทั้ง 6 แห่งของเยอรมนีและประมาณการล่าสุดของ ก.การค้าซึ่งมีกำหนดจะ
ประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ต.ค.49 นี้ (รอยเตอร์)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีในเดือน ก.ย.49 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 19 ต.ค.49 Federal Statistics Office
เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer prices index : PPI) ของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป ในเดือน
ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.3 ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าดัชนีจะลดลงร้อยละ 0.2 แต่เป็นการลดลงอย่างมากเมื่อ
เทียบกับเดือนก่อนหน้าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีดัชนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ต่ำกว่าเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าซึ่งดัชนีเพิ่มขึ้นร้อยละ
5.9 ทั้งนี้ The Statistics Office กล่าวว่า ดัชนีเมื่อเทียบต่อปีที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลกระทบของหลักเกณฑ์ทางสถิติ สำหรับราคาผล
ผลิตต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ PPI ได้แก่ ราคาไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 และ 23.5 ตามลำดับ ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์
เกี่ยวกับน้ำมันกลับลดลงร้อยละ 5.1(รอยเตอร์)
4. เกาหลีใต้อาจปรับลดเป้าจีดีพีปี 50 จากความเสี่ยงกรณีเกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์ รายงานจากกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.49 Kwon O-kyu รมว.คลังของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ปลายปีนี้เกาหลีใต้อาจจะทบทวนและปรับลดเป้าการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 50 เนื่องจากความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดมากขึ้นกรณีแผนการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลี
เหนือ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ก.คลังเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 50 จะเติบโตลดลงเหลือประมาณร้อยละ 4.6 จากประมาณร้อยละ 5.0 ในปีนี้
ในขณะที่สถาบันเพื่อการพัฒนาเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 4.3 ในปี 50 จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.0
ในปีนี้ ส่วนนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจจะกำลังเตรียมการทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 อาจจะทำให้ทัศนคติ
ทางธุรกิจตกต่ำลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม หลังจากมีรายงานการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือแล้วดัชนีชี้
วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวได้ฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติเหมือนเดิม (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ต.ค. 49 19 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.347 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.1828/37.4724 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12063 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 720.87/15.34 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,500/10,600 10,400/10,500 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.58 56.38 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.มั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อในไตรมาส 4 ปี 49 และปี 50 จะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และปีหน้าคาดว่าจะอยู่ในแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยไม่ได้
รับผลกระทบจากเม็ดเงิน งปม.ที่เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท ในการทำ งปม.ขาดดุลของภาครัฐ และการปรับขึ้นราคาของสินค้าในหมวดอาหาร และ
สินค้าเกษตร โดยเฉพาะพืชผัก ที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม (ผู้จัดการรายวัน)
2. ธปท.พิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการปรับปรุง ธพ.เสริมสร้างความแข็งแกร่ง รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่นายอรุณ จิรชวาลา ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ธ.นครหลวงไทยนั้น ทาง ธปท.ได้มีการพิจารณาถึงแนวทางความ
เป็นไปได้ในการปรับปรุง ธพ. เสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บททางการเงินของ ธปท. โดยหนึ่งในวิธีการดังกล่าวนั้น
ความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการธนาคารบางแห่งเพื่อแก้ไขให้ฐานะการเงินมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยหากพิจารณาจกาสถานะและความ
เป็นไปได้ในปัจจุบัน จะมีธนาคารที่เข้าข่ายสามารถควบรวมกิจการได้ 4 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยธนาคาร ธ.ทหารไทย และ
ธ.นครหลวงไทย ทั้งนี้ ในการพิจารณาแนวทางการควบรวมกิจการดังกล่าว อาจใช้วิธีการควบรวมธนาคาร 2 แห่งเข้าด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความ
จำเป็น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการควบรวม ธ.นครหลวงไทยเข้ากับ ธ.ทหารไทย ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะแก้ปัญหาขาดทุนสะสมของ
ธ.ทหารไทย ที่มีอยู่กว่า 3 หมื่นล้านบาท และทำให้ธนาคารใหม่ภายหลังการควบรวมแข็งแกร่งขึ้น (มติชน)
3. ยอดคงค้างการลงทุนในหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 เทียบต่อปี รายงานจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจการลงทุนในหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทยผ่านผู้รับฝากหลักทรัพย์
ณ สิ้นเดือน ธ.ค.48 ว่า นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาถือครองหลักทรัพย์ไทย มียอดคงค้างคิดตามราคาตลาดรวม 1.55 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น
3.87 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 33.3 จากสิ้นปี 47 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
และกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนต่างชาติสูงถึงร้อยละ 28.2 ของมูลค่า
ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ ตลท. สำหรับประเทศที่ลงทุนในหลักทรัพย์ของไทยมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร ลงทุนร้อยละ 34.7 ของ
สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด รองลงมาคือ สิงคโปร์ ร้อยละ 17.9 สรอ. ร้อยละ 17.2 และประเทศอื่น ๆ อีกร้อยละ 30.2 อย่างไรก็ตาม
แม้สหราชอาณาจักรจะลงทุนในไทยสัดส่วนมากที่สุด แต่สัดส่วนดังกล่าวก็ลดลงจากปีก่อนค่อนข้างมาก (เดลินิวส์)
4. ธปท.สนับสนุนการจัดทำระบบตั๋วร่วมเพื่อการขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการกำหนดนโยบายตั๋วร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง
และจราจร (สนข.) ก.คลัง รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดินบีเอ็มซีแอล รถไฟฟ้ามหานคร (รฟม) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรือด่วนเจ้าพระยา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ธปท.จะได้ประโยชน์
จากการจัดทำระบบตั๋วร่วมเพื่อการขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแง่ของการลดต้นทุนการใช้เงินสดและธนบัตร
ซึ่งสามารถลดต้นทุนที่สูงมากลงได้ โดยการหารือครั้งนี้ เป็นการทำความเข้าใจเบื้องต้นในหลักการ และวางแผนปฏิบัติการ (Road Map) โดย
จะต้องหารือกับ ธพ.ว่า ยินดีที่จะทำตามระบบใด หรือต้องการเสนอรูปแบบใดหรือไม่” ทั้งนี้ ธปท.ไม่ได้เป็นผู้กำกับดูแล แต่จะเป็นผู้เข้ามาช่วย
ดูแลระบบการชำระเงินโดยระบบเอทีเอ็ม หรือบัตรเดบิต (ไทยรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ก.ย.49 ลดลงในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 49 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 18 ต.ค.49 สนง.
สถิติแห่งชาติของอังกฤษหรือ ONS รายงานยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.49 ในขณะที่นักวิเคราะห์
คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อเดือน ส่งผลให้ยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ
ปี 48 ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยราคาสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก
นับตั้งแต่เดือน ม.ค.45 และเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.44 เป็นต้นมา ในขณะที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่
เพิ่มสูงขึ้นซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธ.กลางอังกฤษเมื่อเดือน ส.ค.49 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังคาดว่าเป็นผลมา
จากสภาพอากาศที่อบอุ่นในเดือนดังกล่าวมีส่วนทำให้ยอดค้าปลีกโดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้าลดลง อย่างไรก็ดีแม้ว่ายอดค้าปลีกจะลดลง แต่
นักวิเคราะห์บางคนก็ยังคาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ในเดือน พ.ย.49 นี้จากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า
เป้าที่ ธ.กลางอังกฤษตั้งไว้ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 2.3 ในปี 49 และชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 1.4 ในปี 50 รายงานจากเบอร์ลิน
เมื่อ 18 ต.ค.49 ผลสำรวจความเห็นของธุรกิจกว่า 25,000 แห่งโดยสภาอุตสาหกรรมและการค้าคาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 49 จะขยาย
ตัวร้อยละ 2.3 ต่อปี สูงสุดในรอบ 6 ปีจากการขยายตัวของการส่งออกและการลงทุน นอกจากนี้การจ้างงานในปี 49 ยังขยายตัวในอัตราสูงสุด
ในรอบ 6 ปี สำหรับในปี 50 คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวประมาณ 1 ใน 3 เหลือร้อยละ 1.4 ต่อปีจากผลกระทบของการขึ้นอัตราภาษีที่เรียก
เก็บจากผู้บริโภคอีกร้อยละ 3.0 และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากแนวโน้มที่จะ ธ.กลางยุโรปจะยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตอันใกล้ ซึ่ง
ผลสำรวจดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับความเห็นของสำนักวิจัยชั้นนำทั้ง 6 แห่งของเยอรมนีและประมาณการล่าสุดของ ก.การค้าซึ่งมีกำหนดจะ
ประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ต.ค.49 นี้ (รอยเตอร์)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีในเดือน ก.ย.49 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 19 ต.ค.49 Federal Statistics Office
เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer prices index : PPI) ของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป ในเดือน
ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.3 ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าดัชนีจะลดลงร้อยละ 0.2 แต่เป็นการลดลงอย่างมากเมื่อ
เทียบกับเดือนก่อนหน้าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีดัชนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ต่ำกว่าเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าซึ่งดัชนีเพิ่มขึ้นร้อยละ
5.9 ทั้งนี้ The Statistics Office กล่าวว่า ดัชนีเมื่อเทียบต่อปีที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลกระทบของหลักเกณฑ์ทางสถิติ สำหรับราคาผล
ผลิตต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ PPI ได้แก่ ราคาไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 และ 23.5 ตามลำดับ ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์
เกี่ยวกับน้ำมันกลับลดลงร้อยละ 5.1(รอยเตอร์)
4. เกาหลีใต้อาจปรับลดเป้าจีดีพีปี 50 จากความเสี่ยงกรณีเกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์ รายงานจากกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.49 Kwon O-kyu รมว.คลังของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ปลายปีนี้เกาหลีใต้อาจจะทบทวนและปรับลดเป้าการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 50 เนื่องจากความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดมากขึ้นกรณีแผนการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลี
เหนือ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ก.คลังเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 50 จะเติบโตลดลงเหลือประมาณร้อยละ 4.6 จากประมาณร้อยละ 5.0 ในปีนี้
ในขณะที่สถาบันเพื่อการพัฒนาเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 4.3 ในปี 50 จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.0
ในปีนี้ ส่วนนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจจะกำลังเตรียมการทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 อาจจะทำให้ทัศนคติ
ทางธุรกิจตกต่ำลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม หลังจากมีรายงานการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือแล้วดัชนีชี้
วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวได้ฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติเหมือนเดิม (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ต.ค. 49 19 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.347 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.1828/37.4724 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12063 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 720.87/15.34 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,500/10,600 10,400/10,500 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.58 56.38 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--