ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ยืนยันไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผย
ว่า ธปท.จะยังไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49 โดยยังคงใช้เป้าหมายเดิมที่อัตรา 4.75-5.75% สำหรับ
สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาค
เอกชนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่ง
เป็นระดับที่น่าพอใจ (กรุงเทพธุรกิจ 18, ข่าวสด 18, ไทยโพสต์ 18)
2. สศค.ประมาณการยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปี 49 ที่ระดับ 2.1% ของจีดีพี นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง
ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในปี 49 ว่า จะยังคงมียอดขาด
ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องจากปี 48 เป็นจำนวนประมาณ 4 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็น 2.1% ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ
(จีดีพี) สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาวะการค้ามีอัตราการเติบโต แต่คาดว่าทั้งปีจะขาดดุลการค้า
ประมาณ 7.5-9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็นเฉลี่ยเดือนละประมาณ 700-800 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยมีสาเหตุหลัก
จากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบ ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ สศค.จะรายงานประมาณการเศรษฐกิจประจำปี 49 ที่ได้มีการ
คาดการณ์ใหม่ต่อ รมว.คลัง เพื่อวางกรอบนโยบายต่อไป (โพสต์ทูเดย์)
3. คาดว่ายอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รอง
นรม.และ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปโรดโชว์ดึงดูดการลงทุนของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลร่วมกับ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในทวีป เอเชีย สหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า
นักลงทุนทั่วโลกยังคงให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยและยืนยันว่าพร้อมจะเข้ามาลงทุน ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ ยอดขอรับการส่งเสริม
การลงทุนจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 800,000 ล.บาท โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่
เช่น ฟูจิสึ โซนี่ จากญี่ปุ่น และซัมซุง แอลจี จากเกาหลีใต้ ต่างยืนยันว่าจะมีการขยายการลงทุนในไทยแน่นอน (ผู้จัดการรายวัน,
ไทยโพสต์, ข่าวสด)
4. คาดว่าดัชนีหุ้นไทยในปี 49 จะขยายตัวเหนือระดับ 800 จุดได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ว่า จากการรวบรวมข้อมูลคาดการณ์ตัวเลขดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
(บลจ.) พบว่า แม้สถานการณ์การเมืองจะเพิ่มแรงกดดันต่อ ตลท.มากขึ้น แต่ บล. และ บลจ. ส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่าดัชนีหุ้นปีนี้มีโอกาส
ปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 800 จุดได้ และจากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์กว่า 20 บริษัท ของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่านักวิเคราะห์ยังเชื่อมั่นว่าดัชนีหุ้นปีนี้จะขึ้นไปอยู่สูงกว่า 800 จุดได้ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะ
เติบโตได้ร้อยละ 4.8 (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. สรอ.ควรให้ความสำคัญกับการขาดดุลการค้ากับทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะกับจีน รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 17 ก.พ.49
ประธาน ธ.เพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือ ADB กล่าวว่าความไม่สมดุลของบัญชีเดินสะพัดทั่วโลกเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือ
ของทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เขาได้ย้ำถึงมาตรการที่ที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือ G 7 ได้สรุปไว้เมื่อปีที่แล้วว่า
สรอ.ควรกระตุ้นการออมภาคครัวเรือนและลดการขาดดุลงบประมาณ ในขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นควรปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจมากกว่านี้
นอกจากนี้ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันควรเพิ่มการลงทุนและบริโภคในประเทศ และประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วใน
เอเชีย เช่น จีน ควรใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ
สรอ.กับทั่วโลกที่มีจำนวนมากกว่า 700 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เมื่อปีที่แล้วว่า ในระยะยาวแล้ว สรอ.ต้องพยายามลดการขาดดุลการค้าของ
สรอ.กับทั่วโลกลงไม่เฉพาะกับจีนเท่านั้น มิฉะนั้นอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของ สรอ.และของโลกได้ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีในเดือน ก.พ.49 จะยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับเดือนก่อน รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อ 17 ก.พ.49 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่าดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีสำหรับเดือน ก.พ.49 โดย
Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีจากผลสำรวจธุรกิจในเยอรมนีจำนวน 7,000 แห่งจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ
101.5 จากระดับ 102.0 ในเดือนก่อนซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ทั้งนี้เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลงและค่าเงินยูโรที่ลดลง
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกของเยอรมนีมีราคาถูกลงในตลาดโลก ในขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนของทั้ง
ภาครัฐและเอกชนก็มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจความเห็นของชาวเยอรมนีจำนวน 2,000 คนเมื่อเร็ว ๆ นี้โดย GfK ซึ่ง
เป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำอีกแห่งของเยอรมนีที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นบวกทั้ง 3 ด้านเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.44
คือ ด้านความต้องการใช้จ่าย ความคาดหวังภาวะเศรษฐกิจในอนาคตและด้านรายได้ส่วนบุคคล Ifo มีกำหนดจะรายงานผลสำรวจอย่าง
เป็นทางการในวันที่ 23 ก.พ.49 นี้ เวลา 9.00 น.ตามเวลากรีนนิช (รอยเตอร์)
3. ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา รายงานจากกรุงเอเธนส์
เมื่อ 17 ก.พ. 49 สมาชิกของ ECB Governing Council (Nicholas Garganas) เปิดเผยว่า ความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อของ
เขตเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือน ธ.ค.48 ซึ่ง ธ.กลางยุโรปต้องรีบจัดการอย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในเรื่องระดับราคา ทั้งนี้ ประธาน ธ.กลางยุโรปเปิดเผยว่าตลาดคาดการณ์ว่า ธ.กลางยุโรปจะปรับเพิ่มอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มอีกร้อยละ 0.25 ให้อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 และจะปรับเพิ่มอีกอย่าง
น้อย 1 ครั้งในปี 49 นี้ ซึ่งประธาน ธ.กลางยุโรปยืนยันว่า จะยังคงป้องกันระดับราคาให้มีเสถียรภาพ โดยเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อจะอยู่
ไม่เกินระดับร้อยละ 2.0 เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับข้อมูลล่าสุด ซึ่งจะใช้เป็น
มาตรฐานการประเมินการคาดการณ์ด้านเงินเฟ้อในอนาคต อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปในเดือน ม.ค.49 อยู่ที่ระดับร้อยละ
2.4 ดีกว่าเป้าหมายที่ ธ.กลางยุโรปกำหนดไว้ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจทำให้ ธ.กลาง เลื่อนการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยออกไป
โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตเศรษฐกิจยุโรปในไตรมาส 4 ปี 48 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 เทียบต่อไตรมาส (รอยเตอร์)
4. ญี่ปุ่นเสนอเงินกู้ให้ สรอ. เป็นค่าใช้จ่ายในการย้ายฐานทัพทหารออกจากญี่ปุ่นรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ
วันที่ 19 ก.พ.49 นสพ. Nihon Keizai Shimbun ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาแผนการอนุมัติเงินกู้ให้กับ สรอ.
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบางส่วนในการเคลื่อนย้ายฐานทัพทหารของ สรอ. ออกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความพยายามหาทางออกในการเจรจา
กับรัฐบาล สรอ. ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ในประเด็นที่สำคัญบางประการที่รวมถึงการร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายทหาร
นาวิกโยธินอเมริกันประมาณ 7,000 คน จากทางใต้ของเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นไปยังเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก โดย สรอ. ประเมิน
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเคลื่อนย้ายฐานทัพทหารครั้งนี้ไว้ประมาณ 7.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเชื่อว่า สรอ. ได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นรับ
ผิดชอบมากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายทั้งหมด แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
และจะมีการเจรจากันอีกครั้งในวันอังคารนี้ที่เกาะฮาวาย โดยในข้อตกลงส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรระหว่างกันเพื่อรักษาความปลอดภัย
ของประเทศ ญี่ปุ่นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งฐานทัพทางทหารของ สรอ. ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่เป็นที่
ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไปมากนัก ทั้งนี้ เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้วญี่ปุ่นและ สรอ. ได้เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดระบบฐานทัพ
ทางทหารของ สรอ. ในญี่ปุ่นที่มีทหารอเมริกันประมาณ 50,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีในการปรับกองทัพ สรอ. ให้มีความยืดหยุ่น
และเข้ากันได้ดีกับกองกำลังของญี่ปุ่น แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากชุมชนท้องถิ่นที่มีความ
กังวลเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรม ตลอดจนมลภาวะทางเสียงจากฐานทัพทหารอเมริกัน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ก.พ. 49 17 ก.พ. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.317 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1397/39.4275 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.30156 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.35/ 16.85 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,200/10,300 10,150/10,250 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.03 55.46 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 16 ก.พ. 49 26.04*/24.29** 26.04*/24.29** 19.69/14.59 ปตท.
* ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 3 ก.พ. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ยืนยันไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผย
ว่า ธปท.จะยังไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 49 โดยยังคงใช้เป้าหมายเดิมที่อัตรา 4.75-5.75% สำหรับ
สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาค
เอกชนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่ง
เป็นระดับที่น่าพอใจ (กรุงเทพธุรกิจ 18, ข่าวสด 18, ไทยโพสต์ 18)
2. สศค.ประมาณการยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปี 49 ที่ระดับ 2.1% ของจีดีพี นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง
ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในปี 49 ว่า จะยังคงมียอดขาด
ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องจากปี 48 เป็นจำนวนประมาณ 4 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็น 2.1% ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ
(จีดีพี) สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาวะการค้ามีอัตราการเติบโต แต่คาดว่าทั้งปีจะขาดดุลการค้า
ประมาณ 7.5-9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็นเฉลี่ยเดือนละประมาณ 700-800 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยมีสาเหตุหลัก
จากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบ ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ สศค.จะรายงานประมาณการเศรษฐกิจประจำปี 49 ที่ได้มีการ
คาดการณ์ใหม่ต่อ รมว.คลัง เพื่อวางกรอบนโยบายต่อไป (โพสต์ทูเดย์)
3. คาดว่ายอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 49 จะเป็นไปตามเป้าหมาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รอง
นรม.และ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปโรดโชว์ดึงดูดการลงทุนของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลร่วมกับ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในทวีป เอเชีย สหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า
นักลงทุนทั่วโลกยังคงให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยและยืนยันว่าพร้อมจะเข้ามาลงทุน ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้ ยอดขอรับการส่งเสริม
การลงทุนจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 800,000 ล.บาท โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่
เช่น ฟูจิสึ โซนี่ จากญี่ปุ่น และซัมซุง แอลจี จากเกาหลีใต้ ต่างยืนยันว่าจะมีการขยายการลงทุนในไทยแน่นอน (ผู้จัดการรายวัน,
ไทยโพสต์, ข่าวสด)
4. คาดว่าดัชนีหุ้นไทยในปี 49 จะขยายตัวเหนือระดับ 800 จุดได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ว่า จากการรวบรวมข้อมูลคาดการณ์ตัวเลขดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
(บลจ.) พบว่า แม้สถานการณ์การเมืองจะเพิ่มแรงกดดันต่อ ตลท.มากขึ้น แต่ บล. และ บลจ. ส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่าดัชนีหุ้นปีนี้มีโอกาส
ปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 800 จุดได้ และจากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์กว่า 20 บริษัท ของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่านักวิเคราะห์ยังเชื่อมั่นว่าดัชนีหุ้นปีนี้จะขึ้นไปอยู่สูงกว่า 800 จุดได้ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะ
เติบโตได้ร้อยละ 4.8 (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. สรอ.ควรให้ความสำคัญกับการขาดดุลการค้ากับทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะกับจีน รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 17 ก.พ.49
ประธาน ธ.เพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือ ADB กล่าวว่าความไม่สมดุลของบัญชีเดินสะพัดทั่วโลกเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือ
ของทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เขาได้ย้ำถึงมาตรการที่ที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือ G 7 ได้สรุปไว้เมื่อปีที่แล้วว่า
สรอ.ควรกระตุ้นการออมภาคครัวเรือนและลดการขาดดุลงบประมาณ ในขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นควรปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจมากกว่านี้
นอกจากนี้ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันควรเพิ่มการลงทุนและบริโภคในประเทศ และประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วใน
เอเชีย เช่น จีน ควรใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ
สรอ.กับทั่วโลกที่มีจำนวนมากกว่า 700 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เมื่อปีที่แล้วว่า ในระยะยาวแล้ว สรอ.ต้องพยายามลดการขาดดุลการค้าของ
สรอ.กับทั่วโลกลงไม่เฉพาะกับจีนเท่านั้น มิฉะนั้นอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของ สรอ.และของโลกได้ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีในเดือน ก.พ.49 จะยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับเดือนก่อน รายงาน
จากเบอร์ลิน เมื่อ 17 ก.พ.49 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่าดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีสำหรับเดือน ก.พ.49 โดย
Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีจากผลสำรวจธุรกิจในเยอรมนีจำนวน 7,000 แห่งจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ
101.5 จากระดับ 102.0 ในเดือนก่อนซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ทั้งนี้เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลงและค่าเงินยูโรที่ลดลง
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกของเยอรมนีมีราคาถูกลงในตลาดโลก ในขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนของทั้ง
ภาครัฐและเอกชนก็มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจความเห็นของชาวเยอรมนีจำนวน 2,000 คนเมื่อเร็ว ๆ นี้โดย GfK ซึ่ง
เป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำอีกแห่งของเยอรมนีที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นบวกทั้ง 3 ด้านเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.44
คือ ด้านความต้องการใช้จ่าย ความคาดหวังภาวะเศรษฐกิจในอนาคตและด้านรายได้ส่วนบุคคล Ifo มีกำหนดจะรายงานผลสำรวจอย่าง
เป็นทางการในวันที่ 23 ก.พ.49 นี้ เวลา 9.00 น.ตามเวลากรีนนิช (รอยเตอร์)
3. ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา รายงานจากกรุงเอเธนส์
เมื่อ 17 ก.พ. 49 สมาชิกของ ECB Governing Council (Nicholas Garganas) เปิดเผยว่า ความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อของ
เขตเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือน ธ.ค.48 ซึ่ง ธ.กลางยุโรปต้องรีบจัดการอย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในเรื่องระดับราคา ทั้งนี้ ประธาน ธ.กลางยุโรปเปิดเผยว่าตลาดคาดการณ์ว่า ธ.กลางยุโรปจะปรับเพิ่มอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มอีกร้อยละ 0.25 ให้อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 และจะปรับเพิ่มอีกอย่าง
น้อย 1 ครั้งในปี 49 นี้ ซึ่งประธาน ธ.กลางยุโรปยืนยันว่า จะยังคงป้องกันระดับราคาให้มีเสถียรภาพ โดยเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อจะอยู่
ไม่เกินระดับร้อยละ 2.0 เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับข้อมูลล่าสุด ซึ่งจะใช้เป็น
มาตรฐานการประเมินการคาดการณ์ด้านเงินเฟ้อในอนาคต อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปในเดือน ม.ค.49 อยู่ที่ระดับร้อยละ
2.4 ดีกว่าเป้าหมายที่ ธ.กลางยุโรปกำหนดไว้ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจทำให้ ธ.กลาง เลื่อนการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยออกไป
โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตเศรษฐกิจยุโรปในไตรมาส 4 ปี 48 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 เทียบต่อไตรมาส (รอยเตอร์)
4. ญี่ปุ่นเสนอเงินกู้ให้ สรอ. เป็นค่าใช้จ่ายในการย้ายฐานทัพทหารออกจากญี่ปุ่นรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ
วันที่ 19 ก.พ.49 นสพ. Nihon Keizai Shimbun ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาแผนการอนุมัติเงินกู้ให้กับ สรอ.
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบางส่วนในการเคลื่อนย้ายฐานทัพทหารของ สรอ. ออกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความพยายามหาทางออกในการเจรจา
กับรัฐบาล สรอ. ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ในประเด็นที่สำคัญบางประการที่รวมถึงการร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายทหาร
นาวิกโยธินอเมริกันประมาณ 7,000 คน จากทางใต้ของเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นไปยังเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก โดย สรอ. ประเมิน
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเคลื่อนย้ายฐานทัพทหารครั้งนี้ไว้ประมาณ 7.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเชื่อว่า สรอ. ได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นรับ
ผิดชอบมากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายทั้งหมด แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
และจะมีการเจรจากันอีกครั้งในวันอังคารนี้ที่เกาะฮาวาย โดยในข้อตกลงส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรระหว่างกันเพื่อรักษาความปลอดภัย
ของประเทศ ญี่ปุ่นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งฐานทัพทางทหารของ สรอ. ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่เป็นที่
ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไปมากนัก ทั้งนี้ เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้วญี่ปุ่นและ สรอ. ได้เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดระบบฐานทัพ
ทางทหารของ สรอ. ในญี่ปุ่นที่มีทหารอเมริกันประมาณ 50,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีในการปรับกองทัพ สรอ. ให้มีความยืดหยุ่น
และเข้ากันได้ดีกับกองกำลังของญี่ปุ่น แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากชุมชนท้องถิ่นที่มีความ
กังวลเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรม ตลอดจนมลภาวะทางเสียงจากฐานทัพทหารอเมริกัน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 ก.พ. 49 17 ก.พ. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.317 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1397/39.4275 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.30156 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.35/ 16.85 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,200/10,300 10,150/10,250 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.03 55.46 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 16 ก.พ. 49 26.04*/24.29** 26.04*/24.29** 19.69/14.59 ปตท.
* ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 3 ก.พ. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--