พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน พุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 35/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 22-28 มีนาคม 2549 ในวันที่ 22 มี.ค.แนวพัดสอบเข้าหากันของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-28 มี.ค.จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและมี ลมใต้พัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยจะมีอากาศร้อนเกือบทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในบางแห่งในภาคเหนือ กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งในตอนบ่ายถึงค่ำ ข้อควรระวัง ในระยะนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากในตอนบ่ายและค่ำ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายเนื่องจากลมกระโชกแรงในขณะที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ อากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก ลำพูน และลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10% ของพื้นที่ส่วนมากในวันที่ 22 มี.ค. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. # อากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก ลำพูน และลำปาง อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10% ของพื้นที่ส่วนมากในวันที่ 22 มี.ค. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ระยะนี้พืชจะสูญเสียความชื้นเนื่องจากน้ำระเหยสูง ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ และคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สำหรับชาวสวนลิ้นจี่และลำไยควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนเกือบทั่วไป อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30% ของพื้นที่และมีลมกระโชกแรงบางแห่งในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศร้อนเกือบทั่วไป อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30% ของพื้นที่และมีลมกระโชกแรงบางแห่งในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เกษตรกรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจาก ลมกระโชกแรงด้วย ส่วนผู้ที่ปลูกพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ต้นแคระแกร็น กลาง อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 10-20% ของพื้นที่ ส่วนมากในวันที่ 22 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 10-20% ของพื้นที่ ส่วนมากในวันที่ 22 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้ในตอนกลางวันจะมีอากาศร้อน เกษตรกร จึงควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดอุณหภูมิลง และจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษา ตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30% ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ชาวสวนควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรง ใต้ ทางฝั่งตะวันออกในวันที่ 22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-28 มี.ค. ฝนจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทางฝั่งตะวันออกในวันที่ 22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-28 มี.ค. ฝนจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในวันที่ 22 มี.ค. ต่อจากนั้นฝนจะลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ในช่วงวันที่ 22 มี.ค.จะมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เกษตรกรควร เก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ ส่วนบริเวณตอนบนของภาคจะมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกอย่างเพียงพอ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชผักด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-