พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 15 - 21 ก.พ. 2549

ข่าวทั่วไป Wednesday February 15, 2006 14:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน พุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 20/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 15-21 ก.พ. 2549
ในช่วงวันที่ 15-17 ก.พ. ลมตะวันออกกำลังอ่อนพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดน้อยลง ส่วนคลื่นในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ในช่วงวันที่ 18-19 ก.พ. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และอุณหภูมิจะลดลงโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศอุ่นขึ้นกับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ในตอนเช้า
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 15-16 ก.พ. ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และสตูล ควรระวังอันตรายจากสภาวะน้ำบ่าไหลหลากยังคงเกิดขึ้นได้ ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ก.พ. ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย เนื่องจากจะทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นลดต่ำลง
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม.
มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 %ของพื้นที่ เนื่องจากระยะนี้มีหมอกในตอนเช้า ดังนั้นเกษตรกร ควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้อย เนื่องจากปริมาณฝนที่อาจขาดแคลนในระยะต่อไป
ตะวันออกเฉียงเหนือ
มีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20 % ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
มีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-20 % ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรค ได้ง่าย นอกจากนี้ควรปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยด้วย
กลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส และจะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20%ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส และจะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20%ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรระวังความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร ที่ตากไว้กลางแจ้ง นอกจากนี้บริเวณที่มีฝนตกน้อยควรให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียงเพราะเพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต
ตะวันออก
อากาศเย็นทางตนบนของภาคในตอนเช้ากับมีหมอกหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศเย็นทางตนบนของภาคในตอนเช้ากับมีหมอกหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ด้วย และควรใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 15-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ทางตอนล่าง ของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-21 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 15-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ทางตอนล่าง ของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-21 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. สำหรับพื้นที่การเกษตรที่มี น้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาคหากระดับน้ำลดลงแล้วควรรีบพื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ