ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากปรับตัวลดลงจากช่วงปลายปี 48 อย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากว่า มีการปรับตัวลดลงจากช่วงปลายปี 48 อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วน
สินเชื่อต่อเงินฝากในเดือน ต.ค.48 มีสัดส่วน 91.25% ลดลงเหลือ 90.35% ในเดือน พ.ย.48 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
90.90% ในเดือน ธ.ค.48 ก่อนที่จะลดลงเหลือเพียง 87.96% ในเดือน ม.ค.49 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำนวน
สินเชื่อในเดือน ม.ค.นี้ ยังคงเพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อมีจำนวน 5,711,922 ล.บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.ที่มีจำนวน
5,681,450 ล.บาท หรือเพิ่มขึ้น 30,472 ล.บาท ในขณะที่เงินฝากมีจำนวน 6,493,562 ล.บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน
ธ.ค.ที่มีจำนวน 6,250,561 ล.บาท หรือเพิ่มขึ้น 243,001 ล.บาท ทั้งนี้ ผอส.ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ธปท. เปิด
เผยว่า สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ลดลง เป็นผลมาจาก ธพ.คาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้น ทำให้เร่งเงินฝากมาก
ขึ้นเพื่อคงระดับดอกเบี้ยเงินฝากก่อนที่ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นมากกว่าปัจจุบัน สำหรับการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.นั้นขึ้นอยู่กับ
หลายปัจจัย โดยปีที่ผ่านมามีทั้งราคาน้ำมัน ไข้หวัดนก ภัยธรรมชาติ และปัญหาภาคใต้ ส่วนปัจจุบันการลงทุนยังค่อนข้างนิ่ง
จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการปล่อยสินเชื่อจะเป็นอย่างไร (กรุงเทพธุรกิจ, เดลินิวส์)
2. ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำเอเชียของฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากยุโรป ให้ข้อมูล
ผ่านดาวโจนส์ ระบุว่า ความวุ่นวายทางการเมืองของไทยในขณะนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งอันดับความน่าเชื่อถือหรือ
เรทติ้งของประเทศและเรทติ้งของธนาคารในไทย แต่ขอให้มีความตื่นตัวกับความกังวลที่ว่า หากเหตุวุ่นวายทางการเมือง
ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องอาจมีผลกระทบต่อเรทติ้งได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธพ.ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ปีแรกขึ้นอีก 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีแรกสำหรับลูกค้าโครงการปรับ
ขึ้นเป็น 3.75% และลูกค้าทั่วไป 4.00% หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ย MLR —0.25% มีผลเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วน
ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ปรับเพิ่มเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ส่งผลให้เงินฝากประจำอยู่ที่ 2.75-4.25%
มีผลวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้าน ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ทำให้อัตราดอกเบี้ย
เงินฝากประจำอยู่ที่ 3-4.25% ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเป็น 7.25% MOR 7.50% และ MRR 7.75% มีผลวันที่
15 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วน ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25% มีผลวันที่ 17 มี.ค.
โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ที่ 3.00-4.25% ส่วน MLR อยู่ที่ 7.25% MOR 7.50% MRR 7.75% ในส่วนของ ธ.กสิกรไทย
จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะมีผลวันนี้ (16 มี.ค.49) (โลกวันนี้ , กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ราคาบ้านในอังกฤษช่วง ธ.ค.48-ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีรายงานจากกรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.49 Royal Institution of Chartered Surveyors เปิดเผยผลสำรวจราคา
บ้านในอังกฤษในช่วงเดือน ธ.ค.48 — ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 และเป็นการเพิ่ม
ขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 รวมทั้งมีแนวโน้มว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยดุลยภาพราคาบ้าน
เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ +17 ในช่วง 3 เดือนนับถึงเดือน ก.พ.49 จากระดับ +9 ในเดือน ม.ค.49 นอกจากนี้ ในรายงาน
ดังกล่าวยังกล่าวว่าคณะผู้สำรวจหลายคนมีความเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 22 เดือนว่าราคาบ้านจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะมีความไปได้น้อยที่จะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน ส.ค.48 ที่ ธ.กลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทางการลงเพื่อช่วยกระตุ้นความต้องการในการซื้อบ้านให้สูงขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ราคาบ้านในลอนดอนเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ
3 ปีครึ่ง เนื่องจากมีความต้องอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก (รอยเตอร์)
2. จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของอังกฤษในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี รายงาน
จากลอนดอน เมื่อ 15 มี.ค.49 สนง.สถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานจำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในเดือน
ก.พ.49 เพิ่มขึ้น 14,600 คน เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.35 ซึ่งเป็นปีที่อังกฤษเพิ่งหลุดพ้นจากภาวะ
เศรษฐกิจถดถอย โดยมีงานมากกว่า 100,000 ตำแหน่งที่หายไปเมื่อปีที่แล้วแต่อัตราว่างงานยังคงที่อยู่ที่ร้อยละ 2.9 ใน
ขณะที่รายได้เฉลี่ยของคนอังกฤษในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลา
เดียวกันปีก่อน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ต่อปี โดยในเดือน ม.ค.49 เพียงเดือนเดียวรายได้
เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ต่อปี เพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.46 ทั้งนี้ สนง.สถิติแห่งชาติอ้างว่าเป็นผลมาจาก
โบนัสที่พนักงานในภาคการเงินได้รับในปีนี้น้อยกว่าเมื่อเดือน ม.ค.48 จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า
ธ.กลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการ
ว่างงาน ภาษีและค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น (รอยเตอร์)
3. ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน ม.ค.49 ลดลงร้อยละ 3.9 เทียบต่อเดือน รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ
15 มี.ค.49 สำนักงานสถิติสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกสิงคโปร์ในเดือน ม.ค.49 ลดลงร้อยละ 3.9 จากเดือนก่อนหน้า
(หลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.3 ในเดือน ธ.ค.48 ส่วนยอดขายปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 1.1 และหากเทียบต่อปียอดขายปลีกเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 4.8 เนื่องจากยอดขายในห้างสรรพสินค้า นาฬิกาและเครื่องประดับ ซุปเปอร์มาร์เก็ต รองเท้าและเครื่องนุ่งห่ม
ตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 (รอยเตอร์)
4. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นอย่างผิดคาด รายงานจากโซล เมื่อวันที่ 16 มี.ค.49
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายที่
ร้อยละ 3.5 (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) สูงกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือน และสูงกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ
รอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.4 เท่ากับเดือน ม.ค. ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการว่างงานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับ
ตั้งแต่ที่เคยทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.0 เมื่อเดือนก.ย. 48 และเป็นระดับสูงที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปี ทั้งนี้จำนวนคนที่มี
งานทำของเดือน ก.พ. อยู่ที่ 23.06 ล้านคน ลดลงจาก 23.11 ล้านคน ในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการว่างงาน
จะเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าภาคบริการและยอดค้าปลีกยังคงขยายตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ
มากขึ้น และหลุดพ้นจากภาวะตกต่ำเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าอัตราการว่างงานเฉลี่ยในปี 49 จะอยู่ที่ร้อยละ
3.6 ลดลงจากร้อยละ 3.8 ในปี 48 ส่วนคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ทั้ง ธ.กลาง และ ก.คลัง คาดว่าในปีนี้
เศรษฐกิจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.0 เร่งขึ้นจากร้อยละ 4.0 เมื่อปีที่แล้ว โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์
ในประเทศ และ การส่งออก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ธ.กลางเกาหลีใต้จึงได้ปรับเพิ่มอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้งนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้ออันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว
มากขึ้น และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนาย Park Seung ผวก. ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ส่งสัญญานว่าการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด
ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16 มี.ค. 49 15 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่ง
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.188 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0454/39.3291 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.54297 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 741.21/ 14.03 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,200/10,300 10,200/10,300 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.32 59.21 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 4 มี.ค. 49 26.74*/25.49** 26.74*/25.49** 19.69/14.59 ปตท.
**ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 มี.ค. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากปรับตัวลดลงจากช่วงปลายปี 48 อย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากว่า มีการปรับตัวลดลงจากช่วงปลายปี 48 อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วน
สินเชื่อต่อเงินฝากในเดือน ต.ค.48 มีสัดส่วน 91.25% ลดลงเหลือ 90.35% ในเดือน พ.ย.48 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
90.90% ในเดือน ธ.ค.48 ก่อนที่จะลดลงเหลือเพียง 87.96% ในเดือน ม.ค.49 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำนวน
สินเชื่อในเดือน ม.ค.นี้ ยังคงเพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อมีจำนวน 5,711,922 ล.บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.ที่มีจำนวน
5,681,450 ล.บาท หรือเพิ่มขึ้น 30,472 ล.บาท ในขณะที่เงินฝากมีจำนวน 6,493,562 ล.บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน
ธ.ค.ที่มีจำนวน 6,250,561 ล.บาท หรือเพิ่มขึ้น 243,001 ล.บาท ทั้งนี้ ผอส.ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ธปท. เปิด
เผยว่า สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ลดลง เป็นผลมาจาก ธพ.คาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้น ทำให้เร่งเงินฝากมาก
ขึ้นเพื่อคงระดับดอกเบี้ยเงินฝากก่อนที่ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นมากกว่าปัจจุบัน สำหรับการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.นั้นขึ้นอยู่กับ
หลายปัจจัย โดยปีที่ผ่านมามีทั้งราคาน้ำมัน ไข้หวัดนก ภัยธรรมชาติ และปัญหาภาคใต้ ส่วนปัจจุบันการลงทุนยังค่อนข้างนิ่ง
จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการปล่อยสินเชื่อจะเป็นอย่างไร (กรุงเทพธุรกิจ, เดลินิวส์)
2. ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำเอเชียของฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากยุโรป ให้ข้อมูล
ผ่านดาวโจนส์ ระบุว่า ความวุ่นวายทางการเมืองของไทยในขณะนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งอันดับความน่าเชื่อถือหรือ
เรทติ้งของประเทศและเรทติ้งของธนาคารในไทย แต่ขอให้มีความตื่นตัวกับความกังวลที่ว่า หากเหตุวุ่นวายทางการเมือง
ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องอาจมีผลกระทบต่อเรทติ้งได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธพ.ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ปีแรกขึ้นอีก 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีแรกสำหรับลูกค้าโครงการปรับ
ขึ้นเป็น 3.75% และลูกค้าทั่วไป 4.00% หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ย MLR —0.25% มีผลเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วน
ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ปรับเพิ่มเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ส่งผลให้เงินฝากประจำอยู่ที่ 2.75-4.25%
มีผลวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้าน ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ทำให้อัตราดอกเบี้ย
เงินฝากประจำอยู่ที่ 3-4.25% ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเป็น 7.25% MOR 7.50% และ MRR 7.75% มีผลวันที่
15 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วน ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25% มีผลวันที่ 17 มี.ค.
โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ที่ 3.00-4.25% ส่วน MLR อยู่ที่ 7.25% MOR 7.50% MRR 7.75% ในส่วนของ ธ.กสิกรไทย
จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะมีผลวันนี้ (16 มี.ค.49) (โลกวันนี้ , กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ราคาบ้านในอังกฤษช่วง ธ.ค.48-ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีรายงานจากกรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.49 Royal Institution of Chartered Surveyors เปิดเผยผลสำรวจราคา
บ้านในอังกฤษในช่วงเดือน ธ.ค.48 — ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 และเป็นการเพิ่ม
ขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 รวมทั้งมีแนวโน้มว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยดุลยภาพราคาบ้าน
เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ +17 ในช่วง 3 เดือนนับถึงเดือน ก.พ.49 จากระดับ +9 ในเดือน ม.ค.49 นอกจากนี้ ในรายงาน
ดังกล่าวยังกล่าวว่าคณะผู้สำรวจหลายคนมีความเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 22 เดือนว่าราคาบ้านจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะมีความไปได้น้อยที่จะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน ส.ค.48 ที่ ธ.กลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทางการลงเพื่อช่วยกระตุ้นความต้องการในการซื้อบ้านให้สูงขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ราคาบ้านในลอนดอนเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ
3 ปีครึ่ง เนื่องจากมีความต้องอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก (รอยเตอร์)
2. จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของอังกฤษในเดือน ก.พ.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี รายงาน
จากลอนดอน เมื่อ 15 มี.ค.49 สนง.สถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานจำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในเดือน
ก.พ.49 เพิ่มขึ้น 14,600 คน เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.35 ซึ่งเป็นปีที่อังกฤษเพิ่งหลุดพ้นจากภาวะ
เศรษฐกิจถดถอย โดยมีงานมากกว่า 100,000 ตำแหน่งที่หายไปเมื่อปีที่แล้วแต่อัตราว่างงานยังคงที่อยู่ที่ร้อยละ 2.9 ใน
ขณะที่รายได้เฉลี่ยของคนอังกฤษในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลา
เดียวกันปีก่อน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ต่อปี โดยในเดือน ม.ค.49 เพียงเดือนเดียวรายได้
เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ต่อปี เพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.46 ทั้งนี้ สนง.สถิติแห่งชาติอ้างว่าเป็นผลมาจาก
โบนัสที่พนักงานในภาคการเงินได้รับในปีนี้น้อยกว่าเมื่อเดือน ม.ค.48 จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า
ธ.กลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการ
ว่างงาน ภาษีและค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น (รอยเตอร์)
3. ยอดขายปลีกของสิงคโปร์ในเดือน ม.ค.49 ลดลงร้อยละ 3.9 เทียบต่อเดือน รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ
15 มี.ค.49 สำนักงานสถิติสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกสิงคโปร์ในเดือน ม.ค.49 ลดลงร้อยละ 3.9 จากเดือนก่อนหน้า
(หลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.3 ในเดือน ธ.ค.48 ส่วนยอดขายปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 1.1 และหากเทียบต่อปียอดขายปลีกเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 4.8 เนื่องจากยอดขายในห้างสรรพสินค้า นาฬิกาและเครื่องประดับ ซุปเปอร์มาร์เก็ต รองเท้าและเครื่องนุ่งห่ม
ตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 (รอยเตอร์)
4. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นอย่างผิดคาด รายงานจากโซล เมื่อวันที่ 16 มี.ค.49
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายที่
ร้อยละ 3.5 (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) สูงกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือน และสูงกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ
รอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.4 เท่ากับเดือน ม.ค. ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการว่างงานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับ
ตั้งแต่ที่เคยทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.0 เมื่อเดือนก.ย. 48 และเป็นระดับสูงที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปี ทั้งนี้จำนวนคนที่มี
งานทำของเดือน ก.พ. อยู่ที่ 23.06 ล้านคน ลดลงจาก 23.11 ล้านคน ในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการว่างงาน
จะเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าภาคบริการและยอดค้าปลีกยังคงขยายตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ
มากขึ้น และหลุดพ้นจากภาวะตกต่ำเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าอัตราการว่างงานเฉลี่ยในปี 49 จะอยู่ที่ร้อยละ
3.6 ลดลงจากร้อยละ 3.8 ในปี 48 ส่วนคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ทั้ง ธ.กลาง และ ก.คลัง คาดว่าในปีนี้
เศรษฐกิจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.0 เร่งขึ้นจากร้อยละ 4.0 เมื่อปีที่แล้ว โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์
ในประเทศ และ การส่งออก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ธ.กลางเกาหลีใต้จึงได้ปรับเพิ่มอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้งนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้ออันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว
มากขึ้น และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนาย Park Seung ผวก. ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ส่งสัญญานว่าการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด
ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16 มี.ค. 49 15 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่ง
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.188 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0454/39.3291 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.54297 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 741.21/ 14.03 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,200/10,300 10,200/10,300 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.32 59.21 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 4 มี.ค. 49 26.74*/25.49** 26.74*/25.49** 19.69/14.59 ปตท.
**ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 มี.ค. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--