คำตอบ : เขตเศรษฐกิจพิเศษ Ontustik (Ontustik Special Economic Zone) ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง Shymkent ซึ่งเป็น
ศูนย์กลางเศรษฐกิจทางตอนใต้ของคาซัคสถาน ครอบคลุมพื้นราว 200 เฮกตาร์ จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่
ทางภาคใต้ของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสิ่งทอที่สำคัญแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์และมีสภาพภูมิอากาศ
เหมาะสม สามารถปลูกพืชประเภทเส้นใย ซึ่งต้องใช้น้ำมากได้ดี โดยเฉพาะการปลูกฝ้าย โดยในเขตนี้สามารถผลิตฝ้ายได้มากกว่า 85% ของผล
ผลิตฝ้ายทั้งประเทศ และกว่า 90% ของผลผลิตฝ้ายทั้งหมดถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ จีนและรัสเซีย ฯลฯ เนื่องจากคาซัคสถานยังขาดความรู้
ความชำนาญในการผลิตสิ่งทอ อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฝ้ายที่ผลิตได้และเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอก
ประเทศที่นับวันจะขยายตัวเพิ่มขึ้นดังนั้น รัฐบาลคาซัคสถานจึงได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ Ontustik ขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะจูงใจให้เกิดการลงทุน
และพัฒนาเทคโนโลยีอันจะนำมาซึ่งการเพิ่มคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ
เขต Ontustik จะเน้นส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 11 ประเภทอาทิ การผลิตเส้นด้ายทุกชนิด โดย
เฉพาะด้ายที่ทำจากฝ้าย การทอผ้า การย้อมผ้า การผลิตสิ่งทอสำเร็จรูป ฯลฯ สำหรับสาระน่ารู้เกี่ยวกับเขต Ontustik มีดังนี้
- สิทธิพิเศษทางภาษี นักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในกิจการ 11 ประเภท ดังกล่าวข้างต้น จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
นิติบุคคล (อัตราปกติ 30%) ภาษีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (อัตราปกติ 15%)ฯลฯ เป็นเวลานานถึง 10 ปี โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ
นักลงทุนจะต้องไม่มีกิจการในลักษณะเดียวกันนี้อยู่นอกเขตOntustik โดยรายได้รวมทั้งปีของนักลงทุนจะต้องมาจากธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเขต Ontustik
มากกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมด และต้องใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไม่น้อยกว่า 30% นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้รับยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยว
เนื่องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอที่นำมาใช้ในเขต Ontustik อีกด้วย
- มีตลาดขนาดใหญ่รองรับการส่งออก คาซัคสถานตั้งอยู่ใกล้กับหลายภูมิภาคที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบขั้นต้นของ
อุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะเส้นด้ายที่ทำจากฝ้าย (Cotton Yarn) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผ้าผืน ได้แก่ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีการนำเข้า
เส้นด้ายจากฝ้ายสูงถึง 16.5 ล้านตันต่อปี ทวีปยุโรป 1.6 ล้านตันต่อปี และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (The Commonwealth of
Independent States : CIS) 0.6 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ภูมิภาคเหล่านี้ยังมีการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบขั้นกลาง อาทิ ผ้าผืน เพื่อใช้ผลิตเสื้อผ้า
สำเร็จรูป ในประเทศอีกด้วย ทำให้นักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในเขตนี้สามารถส่งออกสิ่งทอประเภทต่าง ๆ ต่อไปยังประเทศโดยรอบ ทั้งนี้ รัฐบาลคาซัค
สถานมีโครงการที่จะก่อสร้างถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังจีน รัสเซีย และอุซเบกิสถาน อันจะช่วยเพิ่มความสะดวกและลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า
สิ่งทอได้อีกทางหนึ่งด้วย
- แรงงานมีฝีมือ เขต Ontustik มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน จากประชากรในคาซัคสถานทั้งหมด 16 ล้านคน
โดยประชากรในแถบนี้มีความชำนาญในการผลิตสินค้าสิ่งทอเพราะได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิตจากบริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนก่อน
หน้านี้ ทำให้นักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนในเขต Ontustik นี้สามารถหาแรงงานมีฝีมือได้ง่าย โดยมีค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยราว 300 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน
- ระบบสาธารณูปโภคพร้อม รัฐบาลคาซัคสถานได้ขยายเครือข่ายถนนและรางรถไฟครอบคลุมพื้นที่ในเขต Ontustik เพื่อ
ให้การเดินทางเข้า-ออกจากบริเวณดังกล่าวสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน มีค่าใช้บริการค่อนข้างต่ำ อาทิ ค่า
ธรรมเนียมการใช้ไฟฟ้ามีอัตราเพียง 0.041 ดอลลาร์สหรัฐ/กิโลวัตต์/ชั่วโมง ค่าใช้น้ำประปามีอัตรา 0.234 ดอลลาร์สหรัฐ/ลูกบาศก์เมตร ฯลฯ นอก
จากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการจะก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสิ่งทอโดยเฉพาะ เพื่อรองรับการผลิตที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ รัฐบาลคาซัคสถานได้ชักชวนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเขต Ontustik อย่างต่อเนื่องล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2549 ที่
ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของคาซัคสถานได้จัดการประชุมสิ่งทอนานาชาติขึ้นที่เมือง Almaty ทางภาคใต้ของคาซัคสถาน เพื่อชักจูงให้
นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในเขตOntustik ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลคาดว่า เขต Ontustik จะสามารถดึงดูด
เงินลงทุนจากต่างประเทศได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลการลงทุนในเขต Ontustik สามารถ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ www.textilezone.kz
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-
ศูนย์กลางเศรษฐกิจทางตอนใต้ของคาซัคสถาน ครอบคลุมพื้นราว 200 เฮกตาร์ จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่
ทางภาคใต้ของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสิ่งทอที่สำคัญแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์และมีสภาพภูมิอากาศ
เหมาะสม สามารถปลูกพืชประเภทเส้นใย ซึ่งต้องใช้น้ำมากได้ดี โดยเฉพาะการปลูกฝ้าย โดยในเขตนี้สามารถผลิตฝ้ายได้มากกว่า 85% ของผล
ผลิตฝ้ายทั้งประเทศ และกว่า 90% ของผลผลิตฝ้ายทั้งหมดถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ จีนและรัสเซีย ฯลฯ เนื่องจากคาซัคสถานยังขาดความรู้
ความชำนาญในการผลิตสิ่งทอ อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฝ้ายที่ผลิตได้และเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอก
ประเทศที่นับวันจะขยายตัวเพิ่มขึ้นดังนั้น รัฐบาลคาซัคสถานจึงได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ Ontustik ขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะจูงใจให้เกิดการลงทุน
และพัฒนาเทคโนโลยีอันจะนำมาซึ่งการเพิ่มคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ
เขต Ontustik จะเน้นส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 11 ประเภทอาทิ การผลิตเส้นด้ายทุกชนิด โดย
เฉพาะด้ายที่ทำจากฝ้าย การทอผ้า การย้อมผ้า การผลิตสิ่งทอสำเร็จรูป ฯลฯ สำหรับสาระน่ารู้เกี่ยวกับเขต Ontustik มีดังนี้
- สิทธิพิเศษทางภาษี นักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในกิจการ 11 ประเภท ดังกล่าวข้างต้น จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
นิติบุคคล (อัตราปกติ 30%) ภาษีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (อัตราปกติ 15%)ฯลฯ เป็นเวลานานถึง 10 ปี โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ
นักลงทุนจะต้องไม่มีกิจการในลักษณะเดียวกันนี้อยู่นอกเขตOntustik โดยรายได้รวมทั้งปีของนักลงทุนจะต้องมาจากธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเขต Ontustik
มากกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมด และต้องใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไม่น้อยกว่า 30% นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้รับยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยว
เนื่องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอที่นำมาใช้ในเขต Ontustik อีกด้วย
- มีตลาดขนาดใหญ่รองรับการส่งออก คาซัคสถานตั้งอยู่ใกล้กับหลายภูมิภาคที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบขั้นต้นของ
อุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะเส้นด้ายที่ทำจากฝ้าย (Cotton Yarn) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผ้าผืน ได้แก่ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีการนำเข้า
เส้นด้ายจากฝ้ายสูงถึง 16.5 ล้านตันต่อปี ทวีปยุโรป 1.6 ล้านตันต่อปี และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (The Commonwealth of
Independent States : CIS) 0.6 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ภูมิภาคเหล่านี้ยังมีการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบขั้นกลาง อาทิ ผ้าผืน เพื่อใช้ผลิตเสื้อผ้า
สำเร็จรูป ในประเทศอีกด้วย ทำให้นักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในเขตนี้สามารถส่งออกสิ่งทอประเภทต่าง ๆ ต่อไปยังประเทศโดยรอบ ทั้งนี้ รัฐบาลคาซัค
สถานมีโครงการที่จะก่อสร้างถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังจีน รัสเซีย และอุซเบกิสถาน อันจะช่วยเพิ่มความสะดวกและลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า
สิ่งทอได้อีกทางหนึ่งด้วย
- แรงงานมีฝีมือ เขต Ontustik มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน จากประชากรในคาซัคสถานทั้งหมด 16 ล้านคน
โดยประชากรในแถบนี้มีความชำนาญในการผลิตสินค้าสิ่งทอเพราะได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิตจากบริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนก่อน
หน้านี้ ทำให้นักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนในเขต Ontustik นี้สามารถหาแรงงานมีฝีมือได้ง่าย โดยมีค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยราว 300 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน
- ระบบสาธารณูปโภคพร้อม รัฐบาลคาซัคสถานได้ขยายเครือข่ายถนนและรางรถไฟครอบคลุมพื้นที่ในเขต Ontustik เพื่อ
ให้การเดินทางเข้า-ออกจากบริเวณดังกล่าวสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน มีค่าใช้บริการค่อนข้างต่ำ อาทิ ค่า
ธรรมเนียมการใช้ไฟฟ้ามีอัตราเพียง 0.041 ดอลลาร์สหรัฐ/กิโลวัตต์/ชั่วโมง ค่าใช้น้ำประปามีอัตรา 0.234 ดอลลาร์สหรัฐ/ลูกบาศก์เมตร ฯลฯ นอก
จากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการจะก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสิ่งทอโดยเฉพาะ เพื่อรองรับการผลิตที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ รัฐบาลคาซัคสถานได้ชักชวนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเขต Ontustik อย่างต่อเนื่องล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2549 ที่
ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของคาซัคสถานได้จัดการประชุมสิ่งทอนานาชาติขึ้นที่เมือง Almaty ทางภาคใต้ของคาซัคสถาน เพื่อชักจูงให้
นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในเขตOntustik ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลคาดว่า เขต Ontustik จะสามารถดึงดูด
เงินลงทุนจากต่างประเทศได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลการลงทุนในเขต Ontustik สามารถ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ www.textilezone.kz
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-