นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องปัญหาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการขาดดุลกระแสเงินสดเป็นจำนวนที่สูงต่อวัน ดังต่อไปนี้
1. ในช่วงต้นปีงบประมาณ กระแสเงินสดจ่ายสูงกว่ากระแสเงินสดรับ เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากกระแสของรายได้และรายจ่ายไม่เท่ากัน โดยในช่วงต้นปีจะมีรายได้เข้ามาน้อยกว่ารายจ่าย เฉลี่ย 800 ล้านบาท ต่อวันทำการ ในปีงบประมาณ 2549 ซึ่งใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2548 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท ต่อวันทำการ
2. สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณให้ส่วนราชการและภาคเอกชนโดยตรงยังสามารถทยอยเบิกจ่ายได้ตามปกติในช่วงเวลาประมาณ 3-7 วัน ทั้งนี้ เงินสดที่จ่ายในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2549 ซึ่งรวมถึงเงินเหลื่อมปีด้วย ตกประมาณวันละ 6,600 ล้านบาท ในขณะที่กระแสเงินสดรับในช่วงดังกล่าวจะเข้ามาประมาณ 5,800 กว่าล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขาดดุลกระแสเงินสดเฉลี่ยวันละประมาณ 800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังเดือนเมษายน 2549 เป็นต้นไป จะมีกระแสเงินสดเข้ามามากขึ้น และสูงกว่ากระแสเงินสดจ่าย ซึ่งจะทำให้ดุลกระแสเงินสดดีขึ้น
3. นอกจากนี้ จากข้อมูลรายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บได้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้า ในขณะที่รายจ่ายคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ประมาณร้อยละ 93 ดังนั้น จึงคาดว่าดุลกระแสเงินสดของรัฐบาลในอนาคตจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
4. กระทรวงการคลังขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนได้ทั้งหมด โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดตลอดปีงบประมาณ 2549
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 25/2549 27 มีนาคม 49--
1. ในช่วงต้นปีงบประมาณ กระแสเงินสดจ่ายสูงกว่ากระแสเงินสดรับ เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากกระแสของรายได้และรายจ่ายไม่เท่ากัน โดยในช่วงต้นปีจะมีรายได้เข้ามาน้อยกว่ารายจ่าย เฉลี่ย 800 ล้านบาท ต่อวันทำการ ในปีงบประมาณ 2549 ซึ่งใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2548 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท ต่อวันทำการ
2. สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณให้ส่วนราชการและภาคเอกชนโดยตรงยังสามารถทยอยเบิกจ่ายได้ตามปกติในช่วงเวลาประมาณ 3-7 วัน ทั้งนี้ เงินสดที่จ่ายในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2549 ซึ่งรวมถึงเงินเหลื่อมปีด้วย ตกประมาณวันละ 6,600 ล้านบาท ในขณะที่กระแสเงินสดรับในช่วงดังกล่าวจะเข้ามาประมาณ 5,800 กว่าล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขาดดุลกระแสเงินสดเฉลี่ยวันละประมาณ 800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังเดือนเมษายน 2549 เป็นต้นไป จะมีกระแสเงินสดเข้ามามากขึ้น และสูงกว่ากระแสเงินสดจ่าย ซึ่งจะทำให้ดุลกระแสเงินสดดีขึ้น
3. นอกจากนี้ จากข้อมูลรายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บได้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้า ในขณะที่รายจ่ายคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ประมาณร้อยละ 93 ดังนั้น จึงคาดว่าดุลกระแสเงินสดของรัฐบาลในอนาคตจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
4. กระทรวงการคลังขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนได้ทั้งหมด โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดตลอดปีงบประมาณ 2549
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 25/2549 27 มีนาคม 49--