แท็ก
ธปท.
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. คาดว่า ธ.พาณิชย์ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนในปีนี้ นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน
ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ฐานะของ ธ.พาณิชย์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี หลังจากก่อนหน้านี้ ธปท. ได้เข้าไปตรวจสอบฐานะของ ธ.พาณิชย์ทั้งระบบแล้ว
พบว่าเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์แม้จะเพิ่มขึ้นบ้างแต่ไม่สูงมาก มีสำรองหนี้จัดชั้นเกินกว่าเกณฑ์ โดยเฉลี่ยตอนนี้สำรองกันถึง 140% จึงคาดว่าปีนี้
ธ.พาณิชย์คงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน แต่ในปี 50 คาดว่าจะมี ธ.พาณิชย์ 1-2 แห่ง ที่ ธปท. เห็นว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม
การเพิ่มทุนที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการมีภาระหนี้เสียหรือปัญหาหนี้เสียแต่อย่างใด แต่เพราะความจำเป็นในการขยายธุรกิจตามแผนที่เคยส่งมาให้
ธปท. พิจารณามากกว่า ซึ่งถ้าไม่เพิ่มทุนอาจจะขยายสินเชื่อสู้ธนาคารแห่งอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ การเพิ่มทุนของ ธ.พาณิชย์ไม่ได้เกิดจากการที่ ธปท.
จะใช้เกณฑ์มาตรฐาน Basel II ที่จะบังคับใช้ในปี 51 แต่อย่างใด แต่เกิดจากการที่ต้องขยายธุรกิจมากกว่า ด้านนายเกริก วณิกกุล
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของ ธ.พาณิชย์ไทยในครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ดี
แม้กำไรสุทธิรวมจะลดลงจากภาระภาษีที่ต้องจ่ายเต็มอัตรา ขณะที่เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ ธ.พาณิชย์ทั้งระบบโดยเฉลี่ยยังแข็งแกร่งที่
ร้อยละ 13.5 (โพสต์ทูเดย์, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
2. ธปท. จะนำทุนสำรองฯ ลงทุนในตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน สรอ. น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดเงิน
ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. จะนำทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย Fannie Mae ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของ สรอ.
ที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งพันธบัตรที่ออกนั้นจะมีสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้าหนุนหลังอยู่ด้วย นอกจากนี้ พันธบัตรที่ออกโดย Fannie Mae ยังมีรัฐบาล
สรอ. ค้ำประกัน จึงทำให้ ธปท. สามารถนำทุนสำรองฯ ไปลงทุนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีการแก้ไข พรบ. ธปท. แต่อย่างใด ทั้งนี้ การลงทุน
ในพันธบัตรดังกล่าวให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาล สรอ. เล็กน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ ธปท.
ให้ความระมัดระวัง โดยการลงทุนจะต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่เป็นช่วงพันธบัตรมีราคาถูก เพราะพันธบัตรดังกล่าวราคาเปลี่ยนแปลงค่อนข้าง
เร็ว เช่น กรณีที่อัตราดอกเบี้ยของ สรอ. อยู่ในช่วงขาลงจะส่งผลต่อการกู้เงินซื้อบ้านของ สรอ. จะมีการไถ่ถอนหนี้ก่อนกำหนดจึงส่งผลกระทบต่อ
ราคาพันธบัตร (มติชน, กรุงเทพธุรกิจ)
3. กองทุนฟื้นฟูฯ ขายที่ดินให้ บสก. มูลค่ากว่า 1,047 ล้านบาท นายไพโรจน์ เฮงสกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุนและหนี้
และ ผจก.กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากองทุนฟื้นฟูฯ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดิน
ให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพฯ (บสก.) ในราคา 1,047 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นที่ดินและอาคารสำนักงานของ บสก. ที่เคย
เช่าอยู่เดิมกว่า 10 สาขา ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ เคยนำออกประมูลหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีผู้ใดประมูลได้ไป โดยการขายที่ดินดังกล่าวให้กับ บสก.
เนื่องจาก บสก. มีการปรับเปลี่ยนบทบาทการดำเนินธุรกิจจากเดิมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรับซื้อสินทรัพย์ไปบริหารจัดการเพียงชั่วคราว เป็นการทำธุรกิจเป็น
ตัวกลางรับซื้อสินทรัพย์จากการยึดชำระหนี้อย่างถาวร กองทุนฟื้นฟูฯ จึงมีความเห็นว่า บสก. ต้องมีสินทรัพย์เป็นของตนเอง จึงนำอาคารสำนักงานที่
บสก. เคยเช่าอยู่ขายให้ไว้เป็นสินทรัพย์ของตัวเอง กองทุนฟื้นฟูฯ จึงเลือกขายที่ดินสำนักงานดังกล่าวให้กับ บสก. แทนการนำที่ดินออกประมูล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นการเสนอขายโดยไม่ผ่านการประมูล แต่ยืนยันว่าราคาที่ขายให้กับ บสก. เป็นราคาสูงกว่าราคากลางที่เคยประมูล
เล็กน้อย จึงเป็นราคาที่ได้กำไรแน่นอน ซึ่งการที่กองทุนฟื้นฟูฯ เลือกที่จะใช้วิธีการขายสินทรัพย์ดังกล่าวแทนการประมูลนั้นก็พิจารณาบนพื้นฐานการ
ตกลงซื้อขายในราคาที่แข่งขันได้ในตลาด จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความโปร่งใส (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ทางการเยอรมนีปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 49 ที่ระดับร้อยละ 2.3 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ
20 ต.ค.49 รมว.เศรษฐกิจเยอรมนี (Michael Glos) เปิดเผยว่า ทางการเยอรมนีได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของ
เยอรมนีในปี 49 ที่ระดับร้อยละ 2.3 นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการปรับเพิ่มประมาณการคือ
ตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าซึ่งอยู่ในภาวะที่มีเสถียรภาพ และได้มีการปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในปี 50 ที่ร้อยละ 1.4 นอกจากนี้ Michael Glos กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ
ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ว่า ยังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดและ
เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญที่สุดในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ยังคงขยายตัวได้ โดยเฉพาะในส่วนของราคาสินค้าซึ่งอยู่ในระดับที่
แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ECB ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ร้อยละ 3.25 เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และส่ง
สัญญาณว่าอาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้เพื่อยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายปลอดภาษีของจีนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลหะของฮ่องกงในจีน รายงานจากฮ่องกงเมื่อวันที่
23 ต.ค. 49 เจ้าหน้าที่ ก.พาณิชย์ของจีนกล่าวว่า จีนอาจยกเลิกนโยบายปลอดภาษีในสินค้าบางประเภท ซึ่งยังไม่ได้มีการเสนอบัญชีรายชื่อสินค้า
ดังกล่าว แต่จะมีเปิดเผยรายชื่อสินค้าที่จะยกเลิกการคืนภาษีในเดือน ต.ค. นี้ ทั้งนี้เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมชาวฮ่องกงนับพันคนที่ตั้งโรงงานใน
เมือง Guangdong กำลังเผชิญปัญหาในการต้องลดปริมาณการผลิต หรือยุติการผลิต เนื่องจากทางการจีนยกเลิกนโยบายปลอดภาษีการนำเข้าโลหะ
ต่างๆ ขณะที่กิจการที่นำเข้าผลิตภัณฑ์โลหะเกือบทั้งหมดได้ลดการนำเข้าโลหะอาทิ ทองแดง อลูมิเนียม และโลหะผสมตะกั่วแล้ว เนื่องจากนโยบาย
ดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่อาจแข่งขันได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมานโยบายปลอดภาษีของจีนดังกล่าวได้อนุญาตให้โรงงาน
อุตสาหกรรมในจีนนำเข้าวัตถุการผลิตเพื่อการส่งออกโดยได้รับการยกเว้นหรือขอคืนเงินภาษี (รอยเตอร์)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์ในเดือน ก.ย.49 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 0.1 เทียบต่อเดือน รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ
23 ต.ค.49 สำนักงานสถิติสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์ในเดือน ก.ย.49 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 0.1
(ตัวเลขหลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) เทียบต่อเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และหากเทียบต่อปี
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์เมื่อเทียบต่อเดือนลดลง
ในเดือน ก.ย. เนื่องจากราคาบ้านและเครื่องแต่งกาย (ซึ่งเป็นดัชนีองค์ประกอบย่อยของดัชนีราคาผู้บริโภค) ลดลง โดยลดลงร้อยละ 0.5 และ
1.1 ตามลำดับ ขณะที่เมื่อเทียบต่อปี ดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ส่วนราคาอาหาร ซึ่งนับเป็นดัชนีที่มีน้ำหนักสูงสุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และ
ดัชนีขนส่งและติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นดัชนีองค์ประกอบที่มีน้ำหนักรองลงมาลดลงร้อยละ 2.7 (รอยเตอร์)
4. คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 50 จะชะลอตัว รายงานจากโซล เมื่อ 23 ต.ค.49 รัฐบาลเกาหลีใต้
เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 50 น่าจะชะลอตัว จากที่ประมาณการก่อนหน้านี้ว่า ในปี 49 จะขยายตัวร้อยละ 5
เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือจะยังคงเป็นภาวะเสี่ยงที่สำคัญต่อเกาหลีใต้ โดยผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้
(Lee Seong-tae) กล่าวกับนักกฎหมายว่า ในระยะสั้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านการทหาร
หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ในเดือนนี้ ส่งผลให้ ธ.กลางปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 50 โดยคาดว่าจะขยายตัว
ประมาณร้อยละ 4 ในครึ่งแรกของปี 50 ก่อนที่จะปรับเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ
เกาหลีใต้เมื่อเทียบต่อไตรมาสในไตรมาส 3 ปี 49 จะยังคงชะลอตัวต่อไป แต่อาจฟื้นตัวในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยชั้นนำของ
เกาหลีใต้ได้ประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะเติบโตร้อยละ 4.3 ในปี 50 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 24 ต.ค. 49 20 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.27 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.0697/37.3649 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 724.98/13.65 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,500/10,600 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.51 57.58 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. คาดว่า ธ.พาณิชย์ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนในปีนี้ นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน
ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ฐานะของ ธ.พาณิชย์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี หลังจากก่อนหน้านี้ ธปท. ได้เข้าไปตรวจสอบฐานะของ ธ.พาณิชย์ทั้งระบบแล้ว
พบว่าเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์แม้จะเพิ่มขึ้นบ้างแต่ไม่สูงมาก มีสำรองหนี้จัดชั้นเกินกว่าเกณฑ์ โดยเฉลี่ยตอนนี้สำรองกันถึง 140% จึงคาดว่าปีนี้
ธ.พาณิชย์คงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน แต่ในปี 50 คาดว่าจะมี ธ.พาณิชย์ 1-2 แห่ง ที่ ธปท. เห็นว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม
การเพิ่มทุนที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการมีภาระหนี้เสียหรือปัญหาหนี้เสียแต่อย่างใด แต่เพราะความจำเป็นในการขยายธุรกิจตามแผนที่เคยส่งมาให้
ธปท. พิจารณามากกว่า ซึ่งถ้าไม่เพิ่มทุนอาจจะขยายสินเชื่อสู้ธนาคารแห่งอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ การเพิ่มทุนของ ธ.พาณิชย์ไม่ได้เกิดจากการที่ ธปท.
จะใช้เกณฑ์มาตรฐาน Basel II ที่จะบังคับใช้ในปี 51 แต่อย่างใด แต่เกิดจากการที่ต้องขยายธุรกิจมากกว่า ด้านนายเกริก วณิกกุล
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของ ธ.พาณิชย์ไทยในครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ดี
แม้กำไรสุทธิรวมจะลดลงจากภาระภาษีที่ต้องจ่ายเต็มอัตรา ขณะที่เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ ธ.พาณิชย์ทั้งระบบโดยเฉลี่ยยังแข็งแกร่งที่
ร้อยละ 13.5 (โพสต์ทูเดย์, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
2. ธปท. จะนำทุนสำรองฯ ลงทุนในตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน สรอ. น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดเงิน
ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. จะนำทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย Fannie Mae ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของ สรอ.
ที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งพันธบัตรที่ออกนั้นจะมีสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้าหนุนหลังอยู่ด้วย นอกจากนี้ พันธบัตรที่ออกโดย Fannie Mae ยังมีรัฐบาล
สรอ. ค้ำประกัน จึงทำให้ ธปท. สามารถนำทุนสำรองฯ ไปลงทุนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีการแก้ไข พรบ. ธปท. แต่อย่างใด ทั้งนี้ การลงทุน
ในพันธบัตรดังกล่าวให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาล สรอ. เล็กน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ ธปท.
ให้ความระมัดระวัง โดยการลงทุนจะต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่เป็นช่วงพันธบัตรมีราคาถูก เพราะพันธบัตรดังกล่าวราคาเปลี่ยนแปลงค่อนข้าง
เร็ว เช่น กรณีที่อัตราดอกเบี้ยของ สรอ. อยู่ในช่วงขาลงจะส่งผลต่อการกู้เงินซื้อบ้านของ สรอ. จะมีการไถ่ถอนหนี้ก่อนกำหนดจึงส่งผลกระทบต่อ
ราคาพันธบัตร (มติชน, กรุงเทพธุรกิจ)
3. กองทุนฟื้นฟูฯ ขายที่ดินให้ บสก. มูลค่ากว่า 1,047 ล้านบาท นายไพโรจน์ เฮงสกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุนและหนี้
และ ผจก.กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากองทุนฟื้นฟูฯ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดิน
ให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพฯ (บสก.) ในราคา 1,047 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นที่ดินและอาคารสำนักงานของ บสก. ที่เคย
เช่าอยู่เดิมกว่า 10 สาขา ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ เคยนำออกประมูลหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีผู้ใดประมูลได้ไป โดยการขายที่ดินดังกล่าวให้กับ บสก.
เนื่องจาก บสก. มีการปรับเปลี่ยนบทบาทการดำเนินธุรกิจจากเดิมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรับซื้อสินทรัพย์ไปบริหารจัดการเพียงชั่วคราว เป็นการทำธุรกิจเป็น
ตัวกลางรับซื้อสินทรัพย์จากการยึดชำระหนี้อย่างถาวร กองทุนฟื้นฟูฯ จึงมีความเห็นว่า บสก. ต้องมีสินทรัพย์เป็นของตนเอง จึงนำอาคารสำนักงานที่
บสก. เคยเช่าอยู่ขายให้ไว้เป็นสินทรัพย์ของตัวเอง กองทุนฟื้นฟูฯ จึงเลือกขายที่ดินสำนักงานดังกล่าวให้กับ บสก. แทนการนำที่ดินออกประมูล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นการเสนอขายโดยไม่ผ่านการประมูล แต่ยืนยันว่าราคาที่ขายให้กับ บสก. เป็นราคาสูงกว่าราคากลางที่เคยประมูล
เล็กน้อย จึงเป็นราคาที่ได้กำไรแน่นอน ซึ่งการที่กองทุนฟื้นฟูฯ เลือกที่จะใช้วิธีการขายสินทรัพย์ดังกล่าวแทนการประมูลนั้นก็พิจารณาบนพื้นฐานการ
ตกลงซื้อขายในราคาที่แข่งขันได้ในตลาด จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความโปร่งใส (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ทางการเยอรมนีปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 49 ที่ระดับร้อยละ 2.3 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ
20 ต.ค.49 รมว.เศรษฐกิจเยอรมนี (Michael Glos) เปิดเผยว่า ทางการเยอรมนีได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของ
เยอรมนีในปี 49 ที่ระดับร้อยละ 2.3 นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการปรับเพิ่มประมาณการคือ
ตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าซึ่งอยู่ในภาวะที่มีเสถียรภาพ และได้มีการปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในปี 50 ที่ร้อยละ 1.4 นอกจากนี้ Michael Glos กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ
ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ว่า ยังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดและ
เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญที่สุดในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ยังคงขยายตัวได้ โดยเฉพาะในส่วนของราคาสินค้าซึ่งอยู่ในระดับที่
แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ECB ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ร้อยละ 3.25 เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และส่ง
สัญญาณว่าอาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้เพื่อยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายปลอดภาษีของจีนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลหะของฮ่องกงในจีน รายงานจากฮ่องกงเมื่อวันที่
23 ต.ค. 49 เจ้าหน้าที่ ก.พาณิชย์ของจีนกล่าวว่า จีนอาจยกเลิกนโยบายปลอดภาษีในสินค้าบางประเภท ซึ่งยังไม่ได้มีการเสนอบัญชีรายชื่อสินค้า
ดังกล่าว แต่จะมีเปิดเผยรายชื่อสินค้าที่จะยกเลิกการคืนภาษีในเดือน ต.ค. นี้ ทั้งนี้เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมชาวฮ่องกงนับพันคนที่ตั้งโรงงานใน
เมือง Guangdong กำลังเผชิญปัญหาในการต้องลดปริมาณการผลิต หรือยุติการผลิต เนื่องจากทางการจีนยกเลิกนโยบายปลอดภาษีการนำเข้าโลหะ
ต่างๆ ขณะที่กิจการที่นำเข้าผลิตภัณฑ์โลหะเกือบทั้งหมดได้ลดการนำเข้าโลหะอาทิ ทองแดง อลูมิเนียม และโลหะผสมตะกั่วแล้ว เนื่องจากนโยบาย
ดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่อาจแข่งขันได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมานโยบายปลอดภาษีของจีนดังกล่าวได้อนุญาตให้โรงงาน
อุตสาหกรรมในจีนนำเข้าวัตถุการผลิตเพื่อการส่งออกโดยได้รับการยกเว้นหรือขอคืนเงินภาษี (รอยเตอร์)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์ในเดือน ก.ย.49 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 0.1 เทียบต่อเดือน รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ
23 ต.ค.49 สำนักงานสถิติสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์ในเดือน ก.ย.49 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 0.1
(ตัวเลขหลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) เทียบต่อเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และหากเทียบต่อปี
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของสิงคโปร์เมื่อเทียบต่อเดือนลดลง
ในเดือน ก.ย. เนื่องจากราคาบ้านและเครื่องแต่งกาย (ซึ่งเป็นดัชนีองค์ประกอบย่อยของดัชนีราคาผู้บริโภค) ลดลง โดยลดลงร้อยละ 0.5 และ
1.1 ตามลำดับ ขณะที่เมื่อเทียบต่อปี ดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ส่วนราคาอาหาร ซึ่งนับเป็นดัชนีที่มีน้ำหนักสูงสุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และ
ดัชนีขนส่งและติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นดัชนีองค์ประกอบที่มีน้ำหนักรองลงมาลดลงร้อยละ 2.7 (รอยเตอร์)
4. คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 50 จะชะลอตัว รายงานจากโซล เมื่อ 23 ต.ค.49 รัฐบาลเกาหลีใต้
เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 50 น่าจะชะลอตัว จากที่ประมาณการก่อนหน้านี้ว่า ในปี 49 จะขยายตัวร้อยละ 5
เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือจะยังคงเป็นภาวะเสี่ยงที่สำคัญต่อเกาหลีใต้ โดยผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้
(Lee Seong-tae) กล่าวกับนักกฎหมายว่า ในระยะสั้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านการทหาร
หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ในเดือนนี้ ส่งผลให้ ธ.กลางปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 50 โดยคาดว่าจะขยายตัว
ประมาณร้อยละ 4 ในครึ่งแรกของปี 50 ก่อนที่จะปรับเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ
เกาหลีใต้เมื่อเทียบต่อไตรมาสในไตรมาส 3 ปี 49 จะยังคงชะลอตัวต่อไป แต่อาจฟื้นตัวในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยชั้นนำของ
เกาหลีใต้ได้ประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะเติบโตร้อยละ 4.3 ในปี 50 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 24 ต.ค. 49 20 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.27 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.0697/37.3649 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 724.98/13.65 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,500/10,600 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.51 57.58 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--