กรุงเทพ--25 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Ministerial Meeting of the Coordinating Bureau of the Non-Aligned Movement (NAM CoB) ซึ่งประเทศมาเลเซียในฐานะประธานปัจจุบันของ NAM จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2549 ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย
วัตถุประสงค์หลักของการประชุมครั้งนี้คือ เพื่อหารือและเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดระดับประมุขของรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาล ครั้งที่ 14 (XIV NAM Summit) ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2549 ณ กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ที่มีผลกระทบและมีความสำคัญในระดับโลกและภูมิภาค
สำหรับเป้าหมายของไทยในการเข้าร่วมประชุม NAM CoB นั้น นอกจากจะเป็นการเตรียมการสำหรับการประชุม NAM Summit ครั้งที่ 14 แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ไทยร่วมรับฟังความคิดเห็นของประเทศสมาชิกอื่นๆ ต่อประเด็นที่อยู่ในความสนใจระหว่างประเทศและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของไทย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่จะได้หารือทวิภาคีกับผู้แทนประเทศสมาชิก NAM อื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งเป็นเวทีผลักดันในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของไทยและแสดงบทบาทไทยที่เกื้อกูลต่อ NAM
หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้คือ Towards a More Dynamic and Cohesive NAM :
Challenges of the 21st Century โดยประเทศสมาชิก NAM จะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวของ NAM ให้มีความสอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับความท้าทายของโลกที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อที่จะสามารถมีบทบาทสนองตอบความท้ายทายต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างเป็นที่ยอมรับและสร้างสรรค์ โดยประเด็นสำคัญจะเป็นการหารือในเรื่องกระบวนการปฏิรูปสหประชาชาติ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการเมืองในภูมิภาคต่างๆ ตลอดจนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา สังคม และสิทธิมนุษยชน
ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้คือ NAM จำเป็นที่จะต้องมีการปรับทิศทางและบทบาทให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อความเป็นเอกภาพและเกิดผลประโยชน์แก่ประเทศสมาชิกโดยรวม โดยมุ่งเน้นประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประชาชนของประเทศสมาชิก NAM โดยรวม อาทิ การมองบริบทของเรื่องความมั่นคงในแง่มุมที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะความมั่นคงในรูปแบบใหม่ (non-traditional security) เช่น โรคติดต่อร้ายแรง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน โดยมุ่งแสวงหาความร่วมมือภายในกลุ่ม NAM และระหว่างกลุ่ม NAM กับกลุ่มอื่นๆ เพื่อหาแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์
ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก NAM เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2536 โดยไทยให้ความสำคัญต่อ NAM ในฐานะที่เป็นองค์กรความร่วมมือที่ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวนมากถึง 114 ประเทศ และมีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจและผลประโยชน์
ในมิติต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นเวทีที่สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยในการรักษา ปกป้อง และสร้างสมดุลต่อผลประโยชน์ของประเทศในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและหลากหลาย ซึ่งนับแต่เข้าเป็นสมาชิก NAM ไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมในระดับต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Ministerial Meeting of the Coordinating Bureau of the Non-Aligned Movement (NAM CoB) ซึ่งประเทศมาเลเซียในฐานะประธานปัจจุบันของ NAM จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2549 ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย
วัตถุประสงค์หลักของการประชุมครั้งนี้คือ เพื่อหารือและเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดระดับประมุขของรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาล ครั้งที่ 14 (XIV NAM Summit) ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2549 ณ กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ที่มีผลกระทบและมีความสำคัญในระดับโลกและภูมิภาค
สำหรับเป้าหมายของไทยในการเข้าร่วมประชุม NAM CoB นั้น นอกจากจะเป็นการเตรียมการสำหรับการประชุม NAM Summit ครั้งที่ 14 แล้ว ยังเปิดโอกาสให้ไทยร่วมรับฟังความคิดเห็นของประเทศสมาชิกอื่นๆ ต่อประเด็นที่อยู่ในความสนใจระหว่างประเทศและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของไทย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่จะได้หารือทวิภาคีกับผู้แทนประเทศสมาชิก NAM อื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งเป็นเวทีผลักดันในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของไทยและแสดงบทบาทไทยที่เกื้อกูลต่อ NAM
หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้คือ Towards a More Dynamic and Cohesive NAM :
Challenges of the 21st Century โดยประเทศสมาชิก NAM จะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวของ NAM ให้มีความสอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับความท้าทายของโลกที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อที่จะสามารถมีบทบาทสนองตอบความท้ายทายต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างเป็นที่ยอมรับและสร้างสรรค์ โดยประเด็นสำคัญจะเป็นการหารือในเรื่องกระบวนการปฏิรูปสหประชาชาติ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการเมืองในภูมิภาคต่างๆ ตลอดจนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา สังคม และสิทธิมนุษยชน
ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้คือ NAM จำเป็นที่จะต้องมีการปรับทิศทางและบทบาทให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อความเป็นเอกภาพและเกิดผลประโยชน์แก่ประเทศสมาชิกโดยรวม โดยมุ่งเน้นประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประชาชนของประเทศสมาชิก NAM โดยรวม อาทิ การมองบริบทของเรื่องความมั่นคงในแง่มุมที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะความมั่นคงในรูปแบบใหม่ (non-traditional security) เช่น โรคติดต่อร้ายแรง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน โดยมุ่งแสวงหาความร่วมมือภายในกลุ่ม NAM และระหว่างกลุ่ม NAM กับกลุ่มอื่นๆ เพื่อหาแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์
ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก NAM เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2536 โดยไทยให้ความสำคัญต่อ NAM ในฐานะที่เป็นองค์กรความร่วมมือที่ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวนมากถึง 114 ประเทศ และมีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจและผลประโยชน์
ในมิติต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นเวทีที่สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยในการรักษา ปกป้อง และสร้างสมดุลต่อผลประโยชน์ของประเทศในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและหลากหลาย ซึ่งนับแต่เข้าเป็นสมาชิก NAM ไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมในระดับต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-