แท็ก
เวียดนาม
คำถาม : ธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามเป็นอย่างไร
คำตอบ : ธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ในเวียดนามเป็นการค้าแบบดั้งเดิมที่นิยมซื้อขายสินค้ากันในตลาดสดและ ร้านขายของชำขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปในท้องถิ่น การค้าปลีกลักษณะนี้มีสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 95 ของมูลค่าค้าปลีกทั้งหมดในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ประเภทศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตเริ่มเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม ขณะเดียวกันยังใช้เป็นช่องทางในการส่งออกสินค้าและบริการจากประเทศผู้ลงทุนเพื่อเจาะและขยายตลาดเวียดนามได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจค้าปลีกของเวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2548 อยู่ที่ราว 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทำไมธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามจึงน่าสนใจ
เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งนี้ Pricewaterhousecoopers จัดให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุนในธุรกิจค้าปลีกติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก เนื่องจากมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรกว่า 80 ล้านคน และเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวในอัตราสูงเฉลี่ยราวร้อยละ 7 ต่อปี ทำให้ปัจจุบันชาวเวียดนามมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั้งอุปโภคบริโภค และสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทต่าง ๆ ผ่านช่องทางธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จึงมีแนวโน้มขยายตัวดี นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตว่าชาวเวียดนามนิยมจับจ่ายใช้สอยและเลือกซื้อสินค้าที่มีตราสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสินค้าจากต่างประเทศซึ่งมีวางจำหน่ายมากขึ้นในเวียดนาม นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวียดนามที่มีมากขึ้นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนผลักดันการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนาม
โอกาสในการลงทุนในกิจการค้าปลีกสมัยใหม่ประเภทศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตในเวียดนามนับว่ายังมีช่องว่างอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวยังมีจำนวนไม่มากนัก ศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งจึงไม่เพียงพอรองรับความต้องการที่มีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติยังลังเลที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดแคลนธุรกิจสนับสนุนประเภทรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ธุรกิจตกแต่งภายใน และธุรกิจรับจัดการด้านความสะอาด
จากโอกาสดังกล่าวข้างต้น การลงทุนในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย ขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสดีในการใช้เวียดนามเป็นแหล่งรองรับการขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการของไทยผ่านช่องทางการจำหน่ายในธุรกิจค้าปลีกดังกล่าว นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกยังสามารถเชื่อมโยงการลงทุนต่อไปยังธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ธุรกิจรับจัดการด้านความสะอาด ธุรกิจก่อสร้าง ออกแบบ และตกแต่งร้านค้า ฯลฯ จึงนับเป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนไทยที่มีความชำนาญในสาขาธุรกิจต่อเนื่องดังกล่าวในการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม
แหล่งธุรกิจค้าปลีกที่สำคัญในเวียดนาม
ปัจจุบันเวียดนามมีศูนย์การค้าราว 30 แห่งและซูเปอร์มาร์เกตประมาณ 140 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งแม้มีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 10 เท่าเทียบกับปี 2538 แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนาม ทั้งนี้ จังหวัดที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งรองรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนาม ได้แก่ นครโฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง ไฮฟอง และ Can Tho เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดดังกล่าวต่างมีโครงการส่งเสริมการลงทุนในกิจการศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนทำศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง (เศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์มีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจเวียดนามทั้งประเทศ) และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 10 ล้านคน (รวมผู้ที่มิได้มีถิ่นกำเนิดในนครโฮจิมินห์แต่ย้ายเข้ามาทำงาน) ซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงกว่าประชากรในจังหวัดอื่น ๆ ของเวียดนาม
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มกราคม 2549--
-พห-
คำตอบ : ธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ในเวียดนามเป็นการค้าแบบดั้งเดิมที่นิยมซื้อขายสินค้ากันในตลาดสดและ ร้านขายของชำขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปในท้องถิ่น การค้าปลีกลักษณะนี้มีสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 95 ของมูลค่าค้าปลีกทั้งหมดในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ประเภทศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตเริ่มเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม ขณะเดียวกันยังใช้เป็นช่องทางในการส่งออกสินค้าและบริการจากประเทศผู้ลงทุนเพื่อเจาะและขยายตลาดเวียดนามได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจค้าปลีกของเวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2548 อยู่ที่ราว 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทำไมธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามจึงน่าสนใจ
เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งนี้ Pricewaterhousecoopers จัดให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าลงทุนในธุรกิจค้าปลีกติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก เนื่องจากมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรกว่า 80 ล้านคน และเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวในอัตราสูงเฉลี่ยราวร้อยละ 7 ต่อปี ทำให้ปัจจุบันชาวเวียดนามมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั้งอุปโภคบริโภค และสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทต่าง ๆ ผ่านช่องทางธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จึงมีแนวโน้มขยายตัวดี นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตว่าชาวเวียดนามนิยมจับจ่ายใช้สอยและเลือกซื้อสินค้าที่มีตราสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสินค้าจากต่างประเทศซึ่งมีวางจำหน่ายมากขึ้นในเวียดนาม นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวียดนามที่มีมากขึ้นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนผลักดันการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนาม
โอกาสในการลงทุนในกิจการค้าปลีกสมัยใหม่ประเภทศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตในเวียดนามนับว่ายังมีช่องว่างอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวยังมีจำนวนไม่มากนัก ศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งจึงไม่เพียงพอรองรับความต้องการที่มีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติยังลังเลที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดแคลนธุรกิจสนับสนุนประเภทรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ธุรกิจตกแต่งภายใน และธุรกิจรับจัดการด้านความสะอาด
จากโอกาสดังกล่าวข้างต้น การลงทุนในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนามจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย ขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสดีในการใช้เวียดนามเป็นแหล่งรองรับการขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการของไทยผ่านช่องทางการจำหน่ายในธุรกิจค้าปลีกดังกล่าว นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกยังสามารถเชื่อมโยงการลงทุนต่อไปยังธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ธุรกิจรับจัดการด้านความสะอาด ธุรกิจก่อสร้าง ออกแบบ และตกแต่งร้านค้า ฯลฯ จึงนับเป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนไทยที่มีความชำนาญในสาขาธุรกิจต่อเนื่องดังกล่าวในการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม
แหล่งธุรกิจค้าปลีกที่สำคัญในเวียดนาม
ปัจจุบันเวียดนามมีศูนย์การค้าราว 30 แห่งและซูเปอร์มาร์เกตประมาณ 140 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งแม้มีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 10 เท่าเทียบกับปี 2538 แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนาม ทั้งนี้ จังหวัดที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งรองรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในเวียดนาม ได้แก่ นครโฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง ไฮฟอง และ Can Tho เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดดังกล่าวต่างมีโครงการส่งเสริมการลงทุนในกิจการศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนทำศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เกตมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง (เศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์มีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจเวียดนามทั้งประเทศ) และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 10 ล้านคน (รวมผู้ที่มิได้มีถิ่นกำเนิดในนครโฮจิมินห์แต่ย้ายเข้ามาทำงาน) ซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงกว่าประชากรในจังหวัดอื่น ๆ ของเวียดนาม
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มกราคม 2549--
-พห-