พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 25/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.- 5 มี.ค. 2549 ในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนประกอบกับลมใต้กำลังแรงพัดปกคลุม ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 1-3 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ประชาชนที่อยู่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกให้ระวังภัยเนื่องจาก พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงวันที่ 1-3 มี.ค. ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ มีหมอกและอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค มีหมอกและอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาค เนื่องจากระยะนี้ตอนกลางวันจะมีแสงแดดจัด ทำให้น้ำระเหยได้มาก ดังนั้นเกษตรกร ควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจาก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บไว้ด้วย ตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10%ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 %ของพื้นที่ ลมกระโชกแรงบางแห่งและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10%ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 %ของพื้นที่ ลมกระโชกแรงบางแห่งและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว รวมทั้งควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อนด้วย กลาง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ และอุณหภูมิสูงขึ้น อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-3 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30 %ของพื้นที่ และลมกระโชกแรง บางแห่ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ และอุณหภูมิสูงขึ้น อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-3 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30 %ของพื้นที่ และลมกระโชกแรง บางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงด้วย แต่ปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้ไม่เพียงพอ ผู้ที่ปลูกพืชผักควรดูแลให้น้ำและคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษา ความชื้นดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย ตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-3 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-3 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งควรเก็บกักน้ำฝนไว้และวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย นอกจากนี้ควร นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรคลุมโคนต้นเพื่อสงวนความชื้นดิน ใต้ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 %ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 %ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้ไม่มากโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืช อย่างพอเพียง นอกจากนี้เกษตรกรควรทำร่มเงาเพื่อพรางแสงให้ไม้ผลและไม้ยืนต้นที่ยังเล็ก รวมทั้งนำวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตรคลุมโคนต้นเพื่อสงวนความชื้นในดินด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1-3 ก.พ.ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-