พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 24 ก.พ.- 2 มี.ค. 2549

ข่าวทั่วไป Friday February 24, 2006 15:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 24/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.- 2 มี.ค. 2549 ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้มีหมอกและอากาศเย็นในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทยตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ข้อควรระวัง ระยะนี้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีหมอกและอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีหมอกและอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืนดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. มีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด13-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิ สูงขึ้น และในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งและลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. มีหมอกกับอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด13-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิ สูงขึ้น และในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งและลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นช่วงที่เปลี่ยนฤดูจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสังเกต หากพบสัตว์ที่ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มแล้วรีบรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกษตรกรควรปลูกพืชที่อายุการเพาะปลูกสั้นและใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรังเนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝน จะมีน้อย กลาง ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น เนี่องจากระยะนี้มีฝนตกน้อยและอัตราการระเหย ของน้ำมีมาก เกษตรกรจึงควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียง โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน เพราะหากขาดน้ำจะทำให้การติดผลลดลง ตะวันออก ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น และในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งและเทือกเขา ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้น และในช่วงวันที่ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งและเทือกเขา ระยะนี้ปริมาณฝนมีน้อย ดังนั้นจึงควรวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งควรใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย นอกจากนี้ควรทำร่มเงาให้แก่บ่ออนุบาลสัตว์น้ำด้วย เพื่อไม่ให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงมาก ใต้ ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 %ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. มีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. และ 1-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 %ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. มีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกน้อยเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียง โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและ ติดผลอ่อนหากขาดน้ำจะทำให้การติดผลลดลง สำหรับสวนยางพาราบริเวณภาคไต้ฝั่งตะวันตกชาวสวนควรระวังการเกิดอัคคีภัยด้วย อนึ่งในช่วงนี้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ