แท็ก
ร้านอาหารไทย
กรุงเทพ--2 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อปลายเดือนธันวาคม ปีที่แล้วคณะอนุกรรมการบริหารภายใต้คณะกรรมการพัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลกได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดกิจกรรมและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมครัวไทยสู่โลกโดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการขยายจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศจากในปัจจุบันที่มีอยู่ 9,183 แห่ง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มให้ได้ถึง 20,000 แห่งในปี 2551
การกำหนดเป้าหมายร้านอาหารไทยเพิ่มขึ้นอีกกว่าหนึ่งหมื่นแห่งทั่วโลกภายใน 2 ปีข้างหน้า ดูแล้วไม่ใช่เรื่องที่สามารถดำเนินการได้โดยง่าย แต่ก็จำเป็นจะต้องทำ เพราะการท่องเที่ยวของเราซบเซามาเกือบ 1 ปีหลังภัยพิบัติสึนามิ การดำเนินการเชิงรุกโดยการกำหนดนโยบายและกิจกรรมจากศูนย์กลางคือประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ ในลักษณะ “อินไซด์ เอาท์” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อหารายได้เข้าประเทศและขยายอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
คณะอนุกรรมการฯ ได้แบ่งร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่จะขยายเพิ่มออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ร้านอาหารเดี่ยว 2. ดำเนินการแบบแฟรนไชส์ คือ มีการบริหารร้านในหลายสาขา แบบแมคดอโนล์ 3. เครือร้านอาหาร 4. เครือโรงแรม นอกจากนี้ จะจัดทำและพัฒนาหลักสูตรผู้ปรุงอาหารไทยและการบริหารจัดการร้านอาหารไทย โดยสถาบันสอนทำอาหารไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสถาบันราชภัฏสวนดุสิต ดำเนินการเร่งรัดและพัฒนาครูสอนการปรุงอาหารไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปสอนพ่อครัว-แม่ครัวไทยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549 เป็นต้นไป
หลักสูตรการประกอบอาหารไทยแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร คือ 1. การพัฒนาเทคนิคการประกอบอาหารสำหรับพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศให้เทียบเท่ามาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของไทย 2. หลักสูตรเร่งรัดเพื่อผลิตพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศ สำหรับบุคคลที่มิได้มีอาชีพพ่อครัว-แม่ครัว 3. หลักสูตรการประกอบอาหารโดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ เช่น สถาบันอาหารของสหรัฐฯ เป็นต้น
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารไทยทั่วโลก คือ การพัฒนาร้านอาหารให้ได้มาตรฐานสากล และมีคุณภาพและการบริการที่ประทับใจอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารไทย ดังนั้น จะมีคณะกรรมการประกอบด้วย เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ของไทย ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าไทยในต่างประเทศ สมาคมร้านอาหารไทย สมาคมร้านอาหารในประเทศต่างๆ ผู้แทน ททท. และผู้แทนบีโอไอ เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกร้านที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ เพื่อมอบเครื่องหมาย “ไทยแลนด์ ซีเลคท์” (Thailand Select) ให้ใช้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร้านด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อปลายเดือนธันวาคม ปีที่แล้วคณะอนุกรรมการบริหารภายใต้คณะกรรมการพัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลกได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดกิจกรรมและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมครัวไทยสู่โลกโดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการขยายจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศจากในปัจจุบันที่มีอยู่ 9,183 แห่ง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มให้ได้ถึง 20,000 แห่งในปี 2551
การกำหนดเป้าหมายร้านอาหารไทยเพิ่มขึ้นอีกกว่าหนึ่งหมื่นแห่งทั่วโลกภายใน 2 ปีข้างหน้า ดูแล้วไม่ใช่เรื่องที่สามารถดำเนินการได้โดยง่าย แต่ก็จำเป็นจะต้องทำ เพราะการท่องเที่ยวของเราซบเซามาเกือบ 1 ปีหลังภัยพิบัติสึนามิ การดำเนินการเชิงรุกโดยการกำหนดนโยบายและกิจกรรมจากศูนย์กลางคือประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ ในลักษณะ “อินไซด์ เอาท์” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อหารายได้เข้าประเทศและขยายอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
คณะอนุกรรมการฯ ได้แบ่งร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่จะขยายเพิ่มออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ร้านอาหารเดี่ยว 2. ดำเนินการแบบแฟรนไชส์ คือ มีการบริหารร้านในหลายสาขา แบบแมคดอโนล์ 3. เครือร้านอาหาร 4. เครือโรงแรม นอกจากนี้ จะจัดทำและพัฒนาหลักสูตรผู้ปรุงอาหารไทยและการบริหารจัดการร้านอาหารไทย โดยสถาบันสอนทำอาหารไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสถาบันราชภัฏสวนดุสิต ดำเนินการเร่งรัดและพัฒนาครูสอนการปรุงอาหารไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปสอนพ่อครัว-แม่ครัวไทยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549 เป็นต้นไป
หลักสูตรการประกอบอาหารไทยแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร คือ 1. การพัฒนาเทคนิคการประกอบอาหารสำหรับพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศให้เทียบเท่ามาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของไทย 2. หลักสูตรเร่งรัดเพื่อผลิตพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศ สำหรับบุคคลที่มิได้มีอาชีพพ่อครัว-แม่ครัว 3. หลักสูตรการประกอบอาหารโดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ เช่น สถาบันอาหารของสหรัฐฯ เป็นต้น
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารไทยทั่วโลก คือ การพัฒนาร้านอาหารให้ได้มาตรฐานสากล และมีคุณภาพและการบริการที่ประทับใจอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารไทย ดังนั้น จะมีคณะกรรมการประกอบด้วย เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ของไทย ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าไทยในต่างประเทศ สมาคมร้านอาหารไทย สมาคมร้านอาหารในประเทศต่างๆ ผู้แทน ททท. และผู้แทนบีโอไอ เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกร้านที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ เพื่อมอบเครื่องหมาย “ไทยแลนด์ ซีเลคท์” (Thailand Select) ให้ใช้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร้านด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-