ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 25 เมษายน 2550 - 01 พฤษภาคม 2550
ภาคเหนือ
อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25-27 เม.ย. เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้แข็งแรง และไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงที่มีฝนตก ส่วนไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรผูกโยงหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวกและจัดหาน้ำดื่มให้อย่างเพียงพอ ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร อาคารบ้านเรือน และโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอย่าให้อุณหภูมิและปริมาณน้ำเปลี่ยนแปลงมาก และไม่ควรปล่อยให้สัตว์น้ำอยู่กันหนาแน่น เพราะจะทำให้สัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ และในช่วงวันที่ 25-27 เม.ย.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร อาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงด้วย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค และในช่วงวันที่ 25-27 เม.ย. และ 30 เม.ย.-1 พ.ค. กับมีพายุ ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทาง การเกษตรโดยเฉพาะไม้ผล ชาวสวนควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนบางพื้นที่ กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 เม.ย. — 1 พ.ค. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักเกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ด้วย ส่วนบริเวณที่มีฝนตกน้อย ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อนอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนบางพื้นที่ กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 เม.ย. — 1 พ.ค. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักเกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ด้วย ส่วนบริเวณที่มีฝนตกน้อย ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลอ่อนอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-