นักลงทุนไทยเริ่มไต่อันดับในเวียดนาม

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 16, 2007 10:51 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          แม้จะไม่คึกคักเหมือนกับทุนจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์หรือมาเลเซีย แต่ในวันนี้การลงทุนจากไทยในเวียดนาม ก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัด หลังจากค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาในช่วงปีที่ผ่านมา
บรรดาบริษัทใหญ่ๆ จากประเทศไทย ซึ่งได้แก่เครือซีเมนต์ไทย เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กับ กลุ่มอมตะ ก็ไปปักหลักในเวียดนามมานานกว่า 10 ปี
จากตัวเลขของกระทรวงวางแผนและการลงทุน หรือ กระทรวง MPI (Ministry of Planning and Investment) ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับ 12 จากทั้งหมด 79 ประเทศที่เข้าลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการลงทุนทั้งสิ้น 153 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวมกัน 1,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในปัจจุบันมีโครงการลงทุนจากประเทศไทยกำลังดำเนินการอยู่จำนวน 83 โครงการ มีการจ้างแรงงานท้องถิ่น 12,000 คน และ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานโดยตรงอีกจำนวนมากในแขนงการก่อสร้างและบริการ
โครงการลงทุนจากไทยเกือบทั้งหมดเน้นหนักไปที่การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ การก่อสร้างศูนย์กลางการค้าขายและที่อยู่อาศัยและบริการในย่านตัวเมืองรวมทั้งโรงแรมและศูนย์บริการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย ทุนจากไทยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ใน จ.ด่งนาย (Dong Nai) บิ่งซเวือง (Binh Duong) กับ นครโฮจิมินห์ ในภาคใต้ ส่วนทางภาคเหนือจะรวมศูนย์การลงทุนอยู่ในกรุงฮานอย
บริษัทของไทยที่มีผลกำไรอย่างมากในเวียดนามคือ กลุ่มซีพีที่มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ใน จ.ด่งนาย ผลิตอาหารสัตว์เกือบทุกประเภท รวมทั้งผลิตไก่แช่แข็งและไข่ไก่ออกวางจำหน่ายในตลาด ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการไข้หวัดนกแพร่ลามในจังหวัดต่างๆ ชาวเวียดนามในเขตเมืองจะหันหน้าเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตในท้องถิ่น และพึ่งพาไก่สดแช่แข็งกับไข่ไก่ของซีพี
เครือซีเมนต์ไทยก็ประสบความสำเร็จในหลายด้านและขยายกิจการในเวียดนามมาเป็นระยะๆ โดยได้เข้าลงทุนใน 5 โครงการ ในแขนงเคมีภัณฑ์และผลิตวัสดุก่อสร้าง โดยใช้ จ.บิ่งซเวือง กับ จ.ด่งนาย เป็นฐาน
ปีนี้เครือซีเมนต์ไทยได้ลงทุนเตรียมผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์คุณภาพดีและอาจจะพิจารณาลงทุนผลิตซีเมนต์ในเวียดนาม แต่ปัญหาก็คือเรื่องการขนส่ง เนื่องจากแหล่งผลิตอยู่ในภาคเหนือแต่ตลาดใหญ่ของซีเมนต์อยู่ในภาคใต้ของประเทศ
กลุ่มบริษัทไทยเคมีซึ่งลงทุนในเวียดนามมาหลายปีแล้ว มีโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทน้ำมันและก๊าซ "ปิโตรเวียดนาม" ก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทางภาคใต้โครงการปิโตรเคมีของฝ่ายไทยและเวียดนามนี้มีมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์
บริษัทจากไทยอีกหลายแห่งรวมทั้งบริษัทซีเมนต์จำนวนหนึ่ง ก็ให้ความสนใจจะเข้าไปผลิตปูนซีเมนต์ในเวียดนาม ซึ่งอาจจะทำให้เงินทุนจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นสูงถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้า
สถานทูตไทยในกรุงฮานอยได้เชิญชวนนักลงทุนของไทย ให้ใช้โอกาสที่อยู่ใกล้กับจีนเข้าไปลงทุน โดยใช้ศักยภาพของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของไทยมีโอกาสเข้าสู่ตลาดใหญ่ในจีนด้วย
การลงทุนในเวียดนามมีโอกาสที่ดีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก อุตสาหกรรมแปรรูป บริการ รวมทั้งโครงการด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
การเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงระหว่าง จ.มุกดาหาร กับ แขวงสะหวันนะเขต ได้อำนวยความสะดวกให้แก่การไปหาสู่กัน มีการจัดการท่องเที่ยวทางบกระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม เพิ่มมากขึ้น
ปีนี้เป็นปีแรกที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เปิดสำนักงานขึ้นในเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ จากความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย
นายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในเดือน ต.ค.2549 พร้อมด้วยตัวแทนภาคธุรกิจเอกชนคณะใหญ่ ในเดือน ธ.ค. นายกรัฐมนตรีเวียดนามก็ได้เดินทางเยือนไทย พร้อมด้วยตัวแทนภาคเอกชน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ความร่วมมือ ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มอาเซียนด้วยกัน ในด้านการค้าและการลงทุน
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ