ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 17/2538 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาต และการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ———————————————— อาศัยอำนาจตามความในมาตรา14 มาตรา 34 (1) และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า "โครงการลงทุนประเภทสาธารณูปโภคพื้นฐาน" ระหว่างคำว่า "สถาบันการเงิน" และคำว่า "ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์" ในข้อ 3 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 13/2537 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2537 "โครงการลงทุนประเภทสาธารณูปโภคพื้นฐาน" หมายความว่า โครงการลงทุนประเภทที่เกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างหรือระบบให้บริการที่จำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ (1) ระบบผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้า (2) ระบบการประปาและระบบการส่งน้ำ (3) ระบบขนส่งภาคพื้นดิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และแก้ไขปัญหาการจราจร (4) ท่าเรือ สนามบิน (5) ระบบสื่อสารโทรคมนาคม (6) ระบบควบคุมและป้องกันมลภาวะ ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 22 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 13/2537 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2537 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ22ในกรณีเป็นการขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน ผู้ขออนุญาตจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับหลักประกันไว้อย่างชัดเจนในคำขออนุญาต และแสดงได้ว่าจะสามารถจัดให้มีหลักประกันดังกล่าว เป็นประกันการชำระหนี้ตามหุ้นกู้ได้ ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องเข้าหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ด้วย (1) มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 21 และจัดให้มีหลักประกันอย่างใด ๆ เพื่อเป็นประกันการชำระนี้ตามหุ้นกู้ แต่หากหลักประกันนั้นเป็นที่ดิน อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ให้นำหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 31 วรรคสอง และข้อ 33 (3) มาใช้บังคับด้วย แล้วแต่กรณี (2) มีคุณสมบัติตามข้อ 21 (1) ถึง (2) และ (4) ถึง (8) และจัดให้มีหลักประกันที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 30 ถึงข้อ 33 เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามหุ้นกู้ (3) เป็นโครงการลงทุนที่มีคุณสมบัติตามข้อ 21 (2) และ (4) ถึง (9) และข้อ 22 ทวิ และจัดให้มีหลักประกันที่มีลักษณะดังนี้ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามหุ้นกู้ (ก) ครอบคลุมทรัพย์สิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิหรือประโยชน์อื่นใด ทั้งหมดที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินงานของโครงการลงทุน ทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ข) ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิเหนือหลักประกันตาม (ก) ไม่ด้อยกว่าเจ้าหนี้รายอื่น ที่มีหลักประกันเดียวกันนั้น เป็นประกันการชำระหนี้ (ค) ในกรณีที่ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันอยู่ในประเภทเดียวกับหลักประกันตามข้อ 30(1) ถึง (4) ให้นำหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 31 มาใช้บังคับด้วย" ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 22 ทวิ แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ.13/2537 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาต และการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2537 "ข้อ 22 ทวิ ผู้ขออนุญาต เสนอขายหุ้นกู้มีประกันที่มีลักษณะเป็นโครงการลงทุนตามข้อ 22 (3) ต้องมีลักษณะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้ด้วย (1) มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้ เพื่อการลงทุนในโครงการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ (ก) โครงการลงทุนประเภทสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้รับสัมปทาน หรือมีสัญญาขายผลิตภัณฑ์ หรือบริการกับ รัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ (ข) โครงการลงทุนอื่นใด ที่มิใช่โครงการลงทุนตาม (ก) ที่มีต้นทุนโครงการลงทุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้นทุนโครงการลงทุน ดังกล่าว ให้หมายถึง ต้นทุนที่จะทำให้ผู้ขออนุญาตสามารถดำเนินกิจการได้ตามรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ และเป็นต้นทุนเฉพาะ ส่วนที่ผู้ขออนุญาตคาดว่าจะสามารถลงทุนได้ครบภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ยื่นคำขออนุญาต ทั้งนี้ ในวันที่ยื่นคำขออนุญาต ผู้ขออนุญาตจะต้องมีการลงทุนในโครงการลงทุนไปแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของต้นทุนโครงการลงทุนทั้งหมด หรืออย่างน้อย 2,000 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้ขออนุญาตมีวัตถุประสงค์ในการนำเงิน ที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้ซื้อทรัพย์สินของโครงการลงทุน ที่ได้ก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตเสร็จแล้ว ผู้ขออนุญาตต้องแสดงได้ว่าก่อนการเสนอขายหุ้นกู้ที่ขออนุญาตเสนอขายต่อประชาชน ผู้ขออนุญาตจะมีเงินลงทุนสำหรับโครงการลงทุนที่มาจากการจำหน่ายหุ้นได้แล้ว เกินกว่าร้อยละ 50 ของเงินลงทุนสำหรับโครงการลงทุนที่คาดว่าจะมาจากการจำหน่ายหุ้นทั้งหมด (2) แสดงได้ว่าโครงการลงทุนมีความเป็นไปได้ทั้งทางด้านการผลิต หรือการบริการ การตลาด การจัดการ และการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกินกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนด (3) ในกรณีที่เป็นโครงการลงทุนที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ผู้ขอนุญาตต้องดำเนินการดังนี้ (ก) จัดให้มีสัญญาก่อสร้างและสัญญาติดตั้งเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตกับบุคคลที่เชื่อถือได้ในลักษณะ ดังนี้ 1. แสดงได้ว่าการก่อสร้าง และการติดตั้งเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตจะแล้วเสร็จจนเริ่มดำเนินการได้ภายในระยะเวลา และจำนวนเงินที่แน่นอน 2. มีการกำหนดการชดใช้ค่าเสียหายในอัตราที่เหมาะสมในกรณีที่การก่อสร้างและการติดตั้งเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิต ไม่แล้วเสร็จจนเริ่มดำเนินการได้ตามสัญญา 3. มีผู้เชี่ยวชาญอิสระที่เชื่อถือได้ เป็นผู้ตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขของสัญญาก่อสร้าง และสัญญาติดตั้งเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตที่ได้ทำไว้แล้ว และให้ความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดต้นทุนส่วนเพิ่ม (cost overrun) จากสัญญาที่ทำไว้แล้วนั้น รวมทั้งจำนวนเงินที่อาจต้องเพิ่มขึ้นจากสัญญาดังกล่าว (ข) จัดให้มีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาการก่อสร้าง และการติดตั้งเครื่องจักรในแต่ละช่วง และข้อกำหนดเรื่องการจัดส่งรายงานความคืบหน้าของการก่อสร้าง และการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตที่เกิดขึ้นจริง ให้แก่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดสิทธิ สำหรับหุ้นกู้ที่ขออนุญาตเสนอขายต่อประชาชนในส่วนที่เกี่ยวกับ "หน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้" ตามข้อ 36 (6) ด้วย (4)มีสัญญากับบุคคคลที่เชื่อถือได้ในลักษณะที่แสดงได้ว่าภายหลังจากการก่อสร้าง และการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตแล้วเสร็จ ผู้ขออนุญาตจะสามารถดำเนินงานต่อไปได้ อย่างต่อเนื่องอย่างน้อยตลอดระยะเวลาของอายุหุ้นกู้ โดยสัญญาดังกล่าว ให้รวมถึงสัญญาซื้อวัตถุดิบที่สำคัญ สัญญาขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ สัญญาดูแลรักษาเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิต และสัญญา อื่นใด ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินงานตามโครงการลงทุนของผู้ขออนุญาต ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญอิสระ ที่เชื่อถือได้ เป็นผู้ตรวจสอบ และให้ความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียด และเงื่อนไขของสัญญาดังกล่าว ว่าสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย และจะทำให้ผู้ขออนุญาตดำเนินโครงการลงทุนได้ตามที่แสดงไว้ในรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตไม่อาจปฎิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้สำนักงานมีอำนาจผ่อนผันได้ เฉพาะกรณีที่จะไม่กระทบต่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้อย่างมีนัยสำคัญ หรือผู้ขออนุญาตได้ดำเนินการอย่างอื่น เพื่อทดแทนการที่ต้องปฎิบัติตามวรรคหนึ่ง ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของผู้ถือหุ้นกู้ ในการที่จะได้รับชำระคืนหนี้จากการดำเนินงานตามโครงการลงทุนของผู้ขออนุญาตอย่างเพียงพอแล้วหรือ โดยสภาพของโครงการลงทุนนั้น ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้ (5) แสดงได้ว่ามีแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการลงทุน ดังนี้ (ก) มีแหล่งเงินทุนที่ชัดเจน และเพียงพอที่จะชำระต้นทุนโครงการลงทุน รวมทั้งต้นทุนส่วนเพิ่มที่อาจเกิดขึ้น (ข) มีแหล่งเงินกู้ยืมที่เกิดจากการเสนอขายหุ้นกู้ต่อประชาชนทั่วไปมูลค่าไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินกู้ยืมทั้งหมดของโครงการลงทุน โดยเงินกู้ยืมในส่วนที่เหลือนั้นต้องมาจากสถาบันการเงินอย่างน้อยร้อยละ 40 ของเงินกู้ยืมทั้งหมดของโครงการลงทุน ทั้งนี้ การคำนวณมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปข้างต้น ไม่ให้นับรวมถึงหุ้นกู้ส่วนที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนที่จัดอยู่ในประเภทที่กำหนดตามข้อ 9 (2) (ก) ถึง (ด) (6) ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตจัดให้เจ้าหนี้เงินกู้ยืมรายอื่นมีหลักประกันการชำระหนี้ร่วมกับผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดให้มีร่างสัญญากู้ยืมเงิน ร่วมกันระหว่างเจ้าหนี้รายอื่นนั้นกับผู้ถือหุ้นกู้ และร่างข้อกำหนดสิทธิที่มีลักษณะ ดังนี้ (ก) ร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมกันดังกล่าวต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยข้อตกลงในร่างสัญญานั้น ต้องมีลักษณะเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นกู้ และมีการระบุรายละเอียดอย่างน้อยในเรื่องดังต่อไปนี้ 1. เงินต้นของเจ้าหนี้แต่ละราย 2. หลักประกันการชำระหนี้ 3. การใช้สิทธิของเจ้าหนี้แต่ละราย เมื่อผู้ขออนุญาตไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการกู้ยืมเงิน 4. การใช้สิทธิบังคับหลักประกัน 5. การดำเนินการ เพื่อแบ่งชำระคืนหนี้ ที่ได้รับจากการฟ้องร้องบังคับคดี (ข) ร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมตาม (ก) และร่างข้อกำหนดสิทธิสำหรับหุ้นกู้ที่ขออนุญาต เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปต้องมีข้อกำหนดว่า ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตประสงค์จะกู้ยืมเงิน เพิ่มเติมจากการกู้ยืมที่ได้แสดงไว้แล้วในร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมตาม (ก) ผู้ขออนุญาตต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้เงินกู้ยืมรายอื่น ตามวิธีที่ระบุในร่างข้อกำหนดสิทธิ และร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมดังกล่าวก่อน (ค) ร่างข้อกำหนดสิทธิสำหรับหุ้นกู้ที่ขออนุญาตเสนอขายต่อประชาชนอย่างน้อยต้องมีข้อกำหนดดังนี้ 1. ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตผิดเงื่อนไขการกู้ยืมเงินต่อเจ้าหนี้เงินกู้ยืม รายใดตามร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมตาม (ก) ให้ถือเสมือนว่าผู้ขออนุญาตผิดเงื่อนไขการกู้ยืมเงินตามข้อกำหนดสิทธิสำหรับหุ้นกู้ที่ขออนุญาตเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปด้วย (cross-default condition) 2. ให้ร่างสัญญากู้ยืมเงินร่วมตาม (ก) เป็นส่วนหนึ่งของร่างข้อกำหนดสิทธิ (7) มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจ และแสดงได้ว่าเมื่อโครงการลงทุนแล้วเสร็จ จะมีกระแสเงินสดที่ได้รับจากการดำเนินงาน เพียงพอที่จะชำระคืนหนี้ ทั้งนี้ โดยมีอัตราส่วนกระแสเงินสด รับต่อภาระหนี้ที่ต้องชำระคืนในแต่ละปี อยู่ในระดับดีตามลักษณะความเสี่ยงของประเภทธุรกิจ (8) มีข้อตกลงที่แสดงได้ว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ยื่นคำขออนุญาตแต่ละรายจะยังคงถือหุ้นของผู้ขออนุญาตต่อไปอีกเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ละรายนั้นถืออยู่ในวันที่ยื่นคำขออนุญาตเป็นระยะอย่างน้อย 3 ปี นับแต่วันปิดการเสนอขายหุ้นกู้ หรือจนกว่างบการเงินประจำงวดการบัญชีจะแสดงว่าผู้ขออนุญาต เริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานตามโครงการลงทุน ทั้งนี้แล้วแต่ระยะเวลาใดจะยาวกว่า" ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2538 (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์