ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สธ. 44/2559 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ฉบับที่ 4)

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 12, 2016 15:16 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่ สธ. 44/2559

เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและ

จัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์

(ฉบับที่ 4)

____________________________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 126 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 139(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 และข้อ 5(1) ประกอบกับข้อ 16(1) และ (6) ข้อ 19 ข้อ 22(1) และ (3) ข้อ 23 ข้อ 24 และข้อ 26(5) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ. 35/2556 เรื่อง มาตรฐานการประกอบธุรกิจ โครงสร้างการบริหารงาน ระบบงาน และการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 สำนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “บุคคลที่เกี่ยวข้อง” ท้ายบทนิยามคำว่า “บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล” ในข้อ 3 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 ดังต่อไปนี้

““บุคคลที่เกี่ยวข้อง” หมายความว่า บุคคลดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะมีข้อความใดในประกาศนี้ที่แสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

(1) บุคคลที่มีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับบริษัทจัดการหรือกองทุน ตามภาคผนวกที่แนบท้ายประกาศนี้

(2) บุคคลที่บริษัทจัดการกำหนดว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งสอดคล้องกับการกำหนดลักษณะความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่บริษัทจัดการมีหน้าที่กำหนดตามข้อ 18(1) แห่งประกาศมาตรฐานการประกอบธุรกิจ

(3) บุคคลที่อยู่ในวิสัยที่บริษัทจัดการจะทราบได้ว่าหากบริษัทจัดการเข้าทำธุรกรรมเพื่อกองทุนกับบุคคลดังกล่าว ผลประโยชน์ที่เกิดจากการทำธุรกรรมในท้ายที่สุดจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลตาม (1) หรือ (2)

(4) บุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดไม่ว่าโดยทางสัญญา การถือหุ้น การควบคุม หรือการบริหารจัดการกับผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีความสัมพันธ์ดังกล่าว ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวอยู่ในข่ายที่อาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการแก่ลูกค้าด้วยความไม่เป็นธรรม”

ข้อ 2 ให้ยกเลิกข้อ 7 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 72/2558 เรื่อง ข้อกำหนด ในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 11 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 11 ในการทำธุรกรรมเพื่อกองทุนกับบริษัทจัดการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้บริษัทจัดการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) การทำธุรกรรมระหว่างบริษัทจัดการกองทุนรวมกับกองทุนรวมที่อยู่ภายใต้การจัดการ ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในข้อ 12

(2) การตั้งผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในข้อ 13

(3) การกำหนดนโยบายการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคลในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหรือใบทรัสต์ของทรัสต์ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับกองทุนรวม ที่บริษัทจัดการซึ่งรับจัดการกองทุนส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในข้อ 13/1

(4) กรณีอื่นนอกเหนือจาก (1) (2) และ (3) ให้ปฏิบัติตามข้อ 15”

ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 13 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 72/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 13 การตั้งผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้กระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก่อนการตั้งผู้รับฝากทรัพย์สินรายดังกล่าว

ในการขอความยินยอมตามวรรคหนึ่ง บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลต้องอธิบายให้ลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทราบถึงความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามวรรคหนึ่ง และเหตุผลที่เลือกบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นผู้รับฝากทรัพย์สิน”

ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 13/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

“ข้อ 13/1 การกำหนดนโยบายการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคลในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหรือใบทรัสต์ของทรัสต์ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับกองทุนรวม ที่บริษัทจัดการซึ่งรับจัดการกองทุนส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ให้กระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก่อนการกำหนดนโยบายการลงทุนดังกล่าว

ในการขอความยินยอมตามวรรคหนึ่ง บริษัทจัดการต้องอธิบายให้ลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทราบในเรื่องดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลในการกำหนดนโยบายการลงทุนดังกล่าว ซึ่งอย่างน้อยต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า

(2) ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนตามนโยบายการลงทุนดังกล่าว

(3) รายละเอียดของค่าธรรมเนียมการจัดการที่บริษัทจัดการจะได้รับจากการจัดการกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนรวมหรือทรัสต์”

ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 14 การขอความยินยอมตามข้อ 13 วรรคหนึ่ง หรือข้อ 13/1 วรรคหนึ่งบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลจะขอความยินยอมจากลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นการทั่วไปไว้ในสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคลก่อนก็ได้”

ข้อ 7 ให้ยกเลิกภาคผนวกที่แนบท้ายประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกัน และจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 72/2558 เรื่อง ข้อกำหนด ในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ภาคผนวกที่แนบท้ายประกาศนี้แทน

ข้อ 8 มิให้นำความในข้อ 13 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 14/2558 เรื่อง ข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศนี้ มาใช้บังคับกับการตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินโดยชอบก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ โดยสัญญาตั้งผู้รับฝากทรัพย์สินยังไม่สิ้นสุดลง และเป็นไปตามกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

(1) เป็นการตั้งนิติบุคคลดังนี้

(ก) บริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล

(ข) บริษัทที่บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลถือหุ้นเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น

(2) เป็นการตั้งนิติบุคคลอื่นนอกเหนือจาก (1) และบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลได้อธิบายให้ลูกค้าหรือคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทราบถึงความเกี่ยวข้องที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเหตุผลที่เลือกนิติบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินแล้ว ทั้งนี้ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

(นายรพี สุจริตกุล)

เลขาธิการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ