ประกาศ เรื่อง การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงิน                                         และขอบเขตการดำเนินงาน                                          ที่ อจ. 4/2543                        ____________________________________        ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้กำหนดให้การให้คำปรึกษา ให้ความเห็นและจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการออกและการเสนอขายหลักทรัพย์ และที่เกี่ยวกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้ความเห็นชอบเป็นผู้ร่วมจัดทำหรือให้ความเห็น นั้น        เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จึงกำหนดเกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบและขอบเขตการดำเนินงานของที่ปรึกษาทางการเงินไว้ดังต่อไปนี้        ข้อ 1  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป        ข้อ 2 ให้ยกเลิก        (1)     ประกาศ  เรื่อง  การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงิน และขอบเขตการดำเนินงาน ที่ อจ. 8/2540 ลงวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2540        (2)     ประกาศ  เรื่อง  การให้ความเห็นชอบที่ปรึกษาทางการเงิน และขอบเขตการดำเนินงาน (ฉบับที่ 2) ที่ อจ. 11/2541 ลงวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2541         ข้อ 3 ในประกาศนี้        "ที่ปรึกษาทางการเงิน" หมายความว่า  ที่ปรึกษาทางการเงินตามข้อ 4         "ผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อหลักทรัพย์" หมายความว่า  ผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หรือเพื่อตนเองตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ        "ที่ปรึกษาของผู้ถือหุ้น" หมายความว่า  ที่ปรึกษาทางการเงินที่กิจการแต่งตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จัดทำความเห็นต่อผู้ถือหุ้นของกิจการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับแบบรายการและระยะเวลาจัดทำความเห็นเกี่ยวกับคำเสนอซื้อ หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ        "ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์" หมายความว่า  ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการเป็นการทั่วไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ        "ผู้ขอผ่อนผัน" หมายความว่า  ผู้ขอผ่อนผันให้ได้หุ้นมาโดยไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ         "กิจการ" หมายความว่า  บริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทที่มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ หรือบริษัทมหาชนจำกัด        "สถาบันการเงิน" หมายความว่า         (1)     ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์        (2)     บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์        (3)     บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทจัดการกองทุนรวม หรือ        (4)     สถาบันการเงินอื่นที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น        "ผู้บริหาร" หมายความว่า  กรรมการ ผู้จัดการ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารสี่รายแรกนับต่อจากผู้จัดการลงมา และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารรายที่สี่ทุกราย และให้หมายความรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารในสายงานบัญชีหรือการเงินที่เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า        "ชมรม" หมายความว่า  ชมรมวาณิชธนกิจภายใต้การจัดการของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์         "บริษัทในกลุ่ม" หมายความว่า         (1)     บริษัทที่ถือหุ้นในที่ปรึกษาทางการเงินตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของที่ปรึกษาทางการเงินนั้น        (2)     บริษัทที่ที่ปรึกษาทางการเงินถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น        (3)     บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นทั้งในนิติบุคคลดังกล่าว และในที่ปรึกษาทางการเงินตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินนั้น        "ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน" หมายความว่า  ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีหน้าที่จัดหาหุ้นส่วนเกินเพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ได้รับการจัดสรรหรือส่งคืนให้แก่ผู้ให้ยืมตามข้อผูกพันในการจัดสรรหุ้นส่วนเกินตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการให้สิทธิผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ซื้อหุ้นภายหลังการจัดจำหน่ายหุ้นที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน        "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่" หมายความว่า  ผู้ที่ถือหุ้นในบริษัทรวมกันเกินร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น โดยการถือหุ้นดังกล่าวให้นับรวมถึงหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย        "ผู้ที่เกี่ยวข้อง" หมายความว่า  บุคคลหรือห้างหุ้นส่วนตามมาตรา 258(1) ถึง (7)แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยอนุโลม        "สำนักงาน" หมายความว่า  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หมวด 1การขอความเห็นชอบ การให้ความเห็นชอบ และการทดสอบ                        ส่วนที่ 1การขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบ        ข้อ 4 ให้บุคคลที่ประสงค์จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินยื่นขอความเห็นชอบจากสำนักงานตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมการขอความเห็นชอบตามประกาศว่าด้วยการกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ         ผู้ขอความเห็นชอบตามวรรคหนึ่งต้องแสดงความจำนงเพื่อขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้        (1)     ที่ปรึกษาทางการเงินประเภทหนึ่ง คือ ที่ปรึกษาทางการเงินที่ทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาทางการเงินเกี่ยวกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ        (2)     ที่ปรึกษาทางการเงินประเภทสอง คือ ที่ปรึกษาทางการเงินเกี่ยวกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ         ข้อ 5 ผู้ขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินประเภทหนึ่งจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้        (1)     เป็นสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการประกอบธุรกิจเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน ที่ปรึกษาทางด้านการบัญชี หรือที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย        (2)     มีสายงานที่รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ชัดเจน โดยในสายงานดังกล่าวต้องมีผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลาระดับหัวหน้างานและระดับปฏิบัติการรวมกันไม่น้อยกว่า 6 คน ซึ่งต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้                 (ก)     เป็นผู้มีความรู้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และมีผู้มีความรู้ทางด้านการเงินหรือด้านการบัญชีเป็นอย่างดีอย่างน้อยหนึ่งคน         (ข)     มีความรู้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน กฎหมาย กฎเกณฑ์ วิธีปฏิบัติในการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน  การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานของผู้ลงทุนและหน้าที่ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดและกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์        ในการพิจารณาลักษณะตามวรรคหนึ่ง (ก) และ (ข) สำนักงานจะนำผลการทดสอบความรู้ของผู้ปฏิบัติงานของผู้ขอความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในส่วนที่ 2 ของหมวดนี้ มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย        (3)     มีหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติงานที่รัดกุมและเชื่อถือได้ว่าจะทำให้ผู้ขอความเห็นชอบสามารถควบคุมให้การปฏิบัติงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเป็นไปตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้                (ก)     พฤติกรรมซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินหรือไม่ที่แสดงถึงการมีเจตนาจัดทำงบการเงิน รายงานการเปิดเผยข้อมูลอื่น หรือรายงานที่ต้องจัดส่งต่อสำนักงานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญ                (ข)     การขาดความรับผิดชอบหรือขาดจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพเยี่ยงผู้มีวิชาชีพจะพึงกระทำในการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือในการเป็นที่ปรึกษาในลักษณะอื่นใดที่ต้องใช้ความรู้และความรับผิดชอบในทำนองเดียวกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน(ค)  มีประวัติถูกเปรียบเทียบหรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีแพ่งหรือคดีอาญาเกี่ยวกับการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ทุจริต เจตนาปกปิดข้อมูล หรือเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์        (ง)     อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษจากหน่วยงานทางการหรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในชั้นศาลในคดีอาญา  เกี่ยวกับการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ทุจริต เจตนาปกปิดข้อมูลหรือเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์        (4)     มีกรรมการ ผู้จัดการ และผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่รับผิดชอบงานด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ที่มีความรู้ ความสามารถหรือมีประสบการณ์ในธุรกิจที่จะดำเนินการ มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพที่ปรึกษาทางการเงินเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีความเข้าใจและรับผิดชอบต่อสาธารณชน  และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้        (ก)     มีประวัติเคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก เนื่องจากการกระทำทุจริต        (ข)     มีประวัติการทำงานอันส่อไปในทางไม่สุจริต        (ค)  มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าขาดความระมัดระวังหรือความซื่อสัตย์สุจริตในเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้ง การจัดการ หรือการเปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวม  ของบริษัทที่ตนเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหาร หรือในการเป็นที่ปรึกษาให้กับบุคคลอื่นอันทำให้บุคคลนั้นมีพฤติกรรมข้างต้นด้วย        (ง)     มีประวัติถูกเปรียบเทียบหรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีแพ่งหรือคดีอาญาเกี่ยวกับการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ทุจริต เจตนาปกปิดข้อมูล หรือเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์(จ)       อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษจากหน่วยงานทางการหรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ในชั้นศาลในคดีอาญา  เกี่ยวกับการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ทุจริต เจตนาปกปิดข้อมูล หรือเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์        (ฉ)     เป็นบุคคลที่เป็นเหตุให้ที่ปรึกษาทางการเงินอื่นถูกสำนักงานสั่งพักหรือเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ และที่ปรึกษาทางการเงินอื่นนั้นยังคงอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่สำนักงานสั่งพักหรือเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ หรืออยู่ในระหว่างระยะเวลาที่ยังไม่อาจยื่นคำขอความเห็นชอบใหม่ตามประกาศนี้ได้(5) เป็นผู้ที่มีรายชื่อจดทะเบียนกับชมรมในการประกอบธุรกิจเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน        ในกรณีที่ผู้ขอความเห็นชอบ กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่รับผิดชอบงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินมีลักษณะไม่เป็นไปตาม (3) หรือ (4) แต่สำนักงานเห็นว่าเหตุที่ทำให้มีลักษณะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง หรือได้ดำเนินการแก้ไขเหตุนั้นแล้ว สำนักงานอาจไม่นำเหตุดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาก็ได้        ข้อ 6 ผู้ขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินประเภทสองจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 5  เว้นแต่หลักเกณฑ์ในข้อ 5(2)(ข) สำนักงานจะพิจารณาโดยไม่รวมถึงความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย กฎเกณฑ์ วิธีปฏิบัติในการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน        ข้อ 7 ในการพิจารณาคำขอความเห็นชอบ สำนักงานอาจแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ขอความเห็นชอบมาชี้แจง หรือส่งเอกสารหลักฐานอื่นเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควรภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด        ในกรณีที่ผู้ขอความเห็นชอบไม่มาชี้แจง ไม่ส่งเอกสารหลักฐาน หรือจัดส่งเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่ง สำนักงานจะถือว่าผู้ขอความเห็นชอบนั้นไม่ประสงค์จะขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการยื่นคำขอความเห็นชอบครั้งนั้นอีกต่อไป        ข้อ 8  สำนักงานจะแจ้งผลการพิจารณาคำขอความเห็นชอบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานมีหนังสือแจ้งการได้รับเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนตามที่สำนักงานกำหนด และในกรณีที่สำนักงานไม่ให้ความเห็นชอบ สำนักงานจะแจ้งเหตุผลไปพร้อมกันด้วย        ในกรณีที่สำนักงานไม่ให้ความเห็นชอบเนื่องจากผู้ขอความเห็นชอบมีลักษณะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 5(3)(ก) (ข) หรือ (ค) หรือ (4)(ก) (ข) (ค) หรือ (ง) สำนักงานอาจกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของบุคคลรายนั้นในคราวต่อไป โดยคำนึงถึงความร้ายแรงของเหตุที่ทำให้มีลักษณะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นรายกรณี  ทั้งนี้ ในกรณีที่สำนักงานกำหนดระยะเวลาการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบ ระยะเวลาดังกล่าวจะไม่เกินห้าปีนับแต่วันพ้นโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุด หรือนับแต่วันที่คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับมีคำสั่งเปรียบเทียบ แล้วแต่กรณี หรือนับแต่วันที่สำนักงานมีหนังสือแจ้งการไม่ให้ความเห็นชอบเนื่องจากเหตุตามข้อ 5(3)(ก) หรือ (ข) หรือ (4)(ก) (ข) หรือ (ค) หรือนับแต่วันที่ผู้ขอความเห็นชอบได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนดแล้ว        เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาหรือเมื่อผู้ขอความเห็นชอบได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในวรรคสองแล้ว หากบุคคลนั้นประสงค์จะยื่นคำขอความเห็นชอบใหม่ สำนักงานจะไม่นำเหตุที่ทำให้สำนักงานไม่ให้ความเห็นชอบในครั้งก่อนมาประกอบการพิจารณาคำขอความเห็นชอบอีก        ข้อ 9 การให้ความเห็นชอบตามประกาศนี้ มีกำหนดระยะเวลาไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่สำนักงานกำหนดไว้ในหนังสือแจ้งการให้ความเห็นชอบ                ในกรณีที่บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง ได้ยื่นคำขอความเห็นชอบเพื่อให้สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้อย่างต่อเนื่องต่อสำนักงานล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลาการให้ความเห็นชอบ และสำนักงานมีหนังสือแจ้งการได้รับเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนตามที่สำนักงานกำหนดอย่างน้อยสิบห้าวันก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลาการให้ความเห็นชอบ หากสำนักงานไม่แจ้งผลการพิจารณาคำขอความเห็นชอบภายในวันสิ้นสุดระยะเวลาการให้ความเห็นชอบ ให้บุคคลนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินต่อไปได้จนกว่าสำนักงานมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา ส่วนที่ 2หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ของผู้ปฏิบัติงานในสายงานที่ปรึกษาทางการเงิน        ข้อ 10  บุคคลใดที่ประสงค์จะยื่นคำขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาการเงินตามข้อ 4 ต้องยื่นคำขอให้มีการทดสอบความรู้ของผู้ปฏิบัติงานในสายงานที่ปรึกษาทางการเงินของบุคคลดังกล่าว เพื่อนำผลการทดสอบมาประกอบการยื่นคำขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน        ข้อ 11 ในการทดสอบความรู้ประกอบการยื่นคำขอตามข้อ 10  สำนักงานจะประกาศกำหนดเวลาที่แน่นอนในการจัดการทดสอบภายในวันที่ 15 มกราคมของทุกปี เว้นแต่ในปีที่ประกาศมีผลใช้บังคับ สำนักงานจะประกาศกำหนดเวลาการทดสอบในแต่ละครั้งตามความเหมาะสม        ข้อ 12 การทดสอบความรู้ตามส่วนนี้  บุคคลตามข้อ 10 ต้องจัดให้ผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลาในสายงานที่ปรึกษาทางการเงินจำนวนหกคน เข้าทดสอบความรู้โดยผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวต้องเป็นผู้ปฏิบัติงานในระดับหัวหน้างาน  ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับหัวหน้างานมีจำนวนไม่ถึงหกคน จะต้องจัดให้ผู้ปฏิบัติงานในระดับปฏิบัติการเข้าทดสอบเพื่อให้มีจำนวนผู้ปฏิบัติงานที่เข้าทำการทดสอบครบหกคน        หากสำนักงานเห็นว่า มีเหตุผลและความจำเป็น สำนักงานอาจพิจารณาผ่อนผันให้บุคคลตามข้อ 10 จัดให้ผู้ปฏิบัติงานในระดับปฏิบัติงานทดสอบความรู้แทนผู้ปฏิบัติงานในระดับหัวหน้างานได้        ข้อ 13 การทดสอบความรู้มีหลักเกณฑ์ในการทดสอบ ดังนี้        (1)     คำถามที่ใช้ทดสอบจะจัดทำเป็นภาษาไทยและในการทำคำตอบต้องจัดทำเป็นภาษาไทยด้วย        (2)     กำหนดระยะเวลาที่ใช้ในการทดสอบสามชั่วโมง และอนุญาตให้ผู้เข้าทดสอบสามารถนำประกาศและเอกสารประกอบอื่น ๆ เข้าไประหว่างการทดสอบได้        (3)     หัวข้อที่จะทดสอบความรู้ได้แก่(ก)  กฎหมาย กฎเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติของสำนักงาน เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน และหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกรณีดังกล่าว(การทดสอบกรณีนี้เฉพาะผู้ขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินประเภทหนึ่ง)        (ข)  กฎหมาย กฎเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติของสำนักงาน เกี่ยวกับการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ และหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกรณีดังกล่าว        (ค)  ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการรับและเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน และหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกรณีดังกล่าว(ง)       ข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานของผู้ลงทุนและหน้าที่ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดและกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์        (จ)     บัญชี        (4)     สำนักงานจะพิจารณาว่าผู้ปฏิบัติงานในสายงานที่ปรึกษาทางการเงินผ่านการทดสอบความรู้ หากปรากฏผลเป็นดังนี้        (ก)     คะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าทดสอบทั้งหกคน ไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบของคะแนนเต็ม        (ข)     คะแนนของผู้เข้าทดสอบแต่ละคนอย่างน้อยสี่คน ไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบของคะแนนเต็ม